รู้จัก "ชาบี้ อลอนโซ่" ผู้สร้างเลเวอร์คูเซ่น ได้แชมป์ในรอบ 120 ปี !

ชัยชนะที่ทีมไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มีชัยเหนือ แวร์เดอร์ เบรเมน 5-0 ในศึกบุนเดสลีกา เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 14 เม.ย.67 ส่งให้ทีม "นายห้างขายยา" เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดของเนอรมันทันที เพราะแต้มทิ้งขาดทีมอันดับ 2 อย่างบาเยิร์น มิวนิค ขณะที่การแข่งขันเหลืออีกถึง 5 เกม 

เลเวอร์คูเซ่น ได้แชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดอย่าง บุนเดสลีกา เป็นครั้งแรก พวกเขาก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1904 การได้แชมป์ลีกครั้งนี้คือครั้งแรกในรอบ 120 ปีที่ก่อตั้งสโมสร 

การได้แชมป์ของเลเวอร์คูเซ่นคือการเบรกบาเยิร์น ที่ก่อนนี้ได้แขมปฺลีกมาแล้ว 11 สมัยติดต่อกัน 

นี่คือทีมที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังเหมือนยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิคที่ผูกปีจองแชมป์ทุกปี หรือทีมที่พอมีกำลังทรัพย์มากหน่อยอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ที่มีสตาร์อยู่ในทีมและพอเบียดบาเยิร์นได้

แต่เลเวอร์คูเซ่น สู้ด้วยมันสมองของกุนซือดาวรุ่งอยางชาบี้ อลอนโซ่อย่างแท้จริง เราไปทำความรู้จักกับ ชายผู้ใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี เสกให้เลเวอร์คูเซ่นเป็นแขมป์ครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 120 ปีกัน

 

เด็กชายชาบี้ อลอนโซ่ กับครอบครัวนักฟุตบอล

ชาบี้ อลอนโซ่ หรือ ชื่อเต็มๆ คือ ชาเบียร์ อลอนโซ่ โอลาโน่ เขาเป็นทายาทของตระกูลนักฟุตบอล "อลอนโซ่" ซึ่งสืบสายเลือดมาจากบิดา เปริโก้ อลอนโซ่ อดีตสตาร์ดังของบาร์เซโลน่า และเรอัล โซเซียดัด ในยุคปี 80 

ทั้งนี้ คุณพ่อของชาบี้ มักจะพาเอาลูกชายทั้งสองคน มิเคล กับ ชาเบียร์ มาฝึกฝนศาสตร์ลูกหนังกับเรอัล โซเซียดัด  (ส่วนพี่ชายอีกคน จอน อลอนโซ่ เป็นผู้ตัดสิน) ซึ่งทั้งมิเกลและชาเบียร์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะในทีมเยาวชนของเรอัล โซเซียดัดมาพร้อมๆกัน และเล่นในบทบาทเดียวกันด้วยคือกองกลาง

จากนั้นชาบี้ อลอนโซ่ ดูจะโดดเด่นค่อยๆแซงหน้า มิเคล พี่ชาย เด่นถึงขั้นที่ทีมชาติสเปนเรียกชาบี้ อลอนโว่ไปติดธงตั้งแต่วัย 21 ปี 

กราฟชีวิตของชาบี้ อลอนโซ่ ก็ค่อยๆดีดพุ่งไปเรื่อยๆ เมื่อปี 2004 ลิเวอร์พูลซื้อเขามาร่วมทีม ซึ่งที่ดินแดนที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ อลอนโซ่ สามารถแจ้งเกิดในฐานะจอมทัพคนสำคัญในแดนกลางเสริมทีมโดยได้จับคู่กับสตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันแห่งแอนฟิลด์และกลายเป็นคู่หูกองกลางที่ดีที่สุดคู่หนึ่งของพรีเมียร์ลีกในเวลานั้น 

ซึ่งเจ้าตัวอยู่กับลิเวอร์พูลถึงปี 2009 ได้แชมป์เมเจอร์ 2 รายการคือแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกและแชมป์เอฟเอ คัพ กับหงส์แดง

 

จากนั้นก็ย้ายไปเล่นให้เรอัล มาดริดในฤดูกาล 2009-10 กับทีมราชันชุดขาว อลอนโซ่ ประสบความสำเร็จมากมาย ได้แชมป์ลา ลีกา แชมป์ UCL แชมป์โคปา เดล เรย์ (เอฟเอ คัพ) 2 ครั้ง 

ก่อนจะย้ายไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมัน กับยักษ์ใหญ่อย่างบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งมีเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นกุนซือในปี 2014 

ซึ่งในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า อลอนโซ่ ที่หลายคนมองว่าอยู่ช่วงท้ายของการค้าแข้งแล้ว กลับประสบความสำเร็จอีกล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นการได้แชมป์ลีก 3 สมัย แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล (เอฟเอ คัพ) รวมถึงแชมป์ซุปเปอร์คัพ 

และเจ้าตัวประกาศเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2017 

ขณะที่ความสำเร็จในนามทีมชาติสเปน ชาบี้ อลอนโซ่ คือนักเตะคนสำคัญของทีมกระทิงดุ เขาช่วยให้สเปนได้แชมป์ยูโร 2 สมัยในปี 2008 และ 2012 รวมถึงได้แชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2010 ด้วย

รู้หรือไม่ อลอนโซ่ คุมทีม "เลเวอร์คูเซ่น" เต็มตัวทีมแรก

หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลปี 2017 อลอนโซ่ที่เข้าคอร์สอบรมโค้ช จนผ่านระดับโปรไลน์เซ่น (สามารถคุมทีมลีกระดับอาชีพได้) เจ้าตัวได้ไปคุมทีมสำรองให้กับอดีตต้นสังกัดอย่างเรอัล โซเซียดัด 

อลอนโซ่ คุมเรอัล โซเซียดัด เบ หรือทีมสำรอง ปี 2019 ถึง ปี 2022 ก่อนจะย้ายมาเยอรมัน รับงานกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในวันที่ 5 ตุลาคม 2022 ซึ่งสถานการณ์ของทีมห้างยาตอนนั้นอยู่ที่ 2 จากท้ายตาราง

การตั้งชาบี้ อลอนโซ่คุมทีมตอนนั้นทุกคนตั้งคำถามว่าจะไหวหรือไม่ เพราะไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมระดับลีกสูงสุด และเลเวอร์ฯตอนนั้นก็ต้องการแรงขับเคลื่อนเพื่อหนีตกชั้น

ทว่าอีกเพียง 18 เดือน หรือ 557 วันให้หลัง  ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ก้าวมาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ครั้งแรกในรอบ 120 ปีของประวัติศาสตร์สโฒสร

และในฤดูกาลนี้ยังมีสิ่งพิเศษเพิ่มขึ้นอีกคือ พวกเขายังไม่แพ้ใคร และจะยิ่งพิเศษต่อไปอีกเพราะเลเวอร์คู่เซ่น ยังมีเหลือให้ลุ้นอีก 2 รายการคือ ยูโรปา ลีก (ปัจจุบันเล่นรอบ 8 ทีม) และ เดเอฟเอ โพคาล ที่กำลังจะชิงชนะเลิศกับไกเซอร์ สเลาเทิร์น

ผลงานแบบนี้จึงไม่แปลกใจที่ก่อนหน้านี้เขาเนื้อหอมถึงขั้น ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค ต่างก็อยากได้ ... เพียงแต่อลอนโซ่ คือสุภาพบุรุษที่เคารพสัญญา เขาต้องการอยู่กับทีมต่อไปและต้องการจะพาทีมที่เขาสร้างกับมือไปลุยฟุตบอลรายการใหญ่ และป้องกันแชมป์ที่ได้มาต่อในฤดูกาลหน้า ก็แค่นั้นเอง