สายอาหารญี่ปุ่นห้ามพลาด! ‘ฮาชิริ’ อาหารญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์น เกรดมิชลิน
ใครมองหารับประทานอาหารรสชาติอาหารญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์น จากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ ‘ฮาชิริ’ โดยเชฟ อัลวิน ชูว์ ผู้สั่งสมประสบการณ์จากเหล่าเชฟระดับมิชลินสตาร์มามากมาย ห้ามพลาดที่ ‘ฮาชิริ’
‘ฮาชิริ’ ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์น อยู่ที่ ที่ Epicurean Hub ชั้น 3 ของโรงแรม ดิ แอทธินี อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล กรุงเทพฯ
วัตถุดิบที่นี่จัดให้ตามฤดูกาลของชาวญี่ปุ่น รังสรรค์โดย เชฟ อัลวิน ชูว์ ดีกรีสะสมประสบการณ์จากเชฟระดับมิชลินสตาร์ มาบรรเลงอาหารรสเลิศ
ฮาชิริ เป็นคำในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการเก็บเกี่ยวพืชผลแรกของฤดูกาล ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อห้องอาหารญี่ปุ่นบน ณ Epicurean Hub ชั้น 3 โรงแรม ดิ แอทธินี อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล กรุงเทพฯ
โดยเชฟอัลวิน ชูว์ (Alvin Chew) รังสรรค์เมนูขึ้นใหม่สไตล์โมเดิร์นสนุกสนาน จากวัตถุดิบตามฤดูกาล นำมาเสิร์ฟในรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นเต้น เน้นให้คุณได้สัมผัสรสชาติแท้ ๆ ตามธรรมชาติของวัตถุดิบ ซึ่งล้วนเป็นวัตถุดิบท้องถิ่นและออร์แกนิกคุณภาพสูง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกจานมีความสดใหม่และรสชาติเป็นเลิศ
ทุกเมนูของฮาชิริ สะท้อนสไตล์โมเดิร์นของร้านอาหารญี่ปุ่นตามเมืองใหญ่ มีทั้งความเป็นกันเองและยังคงความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ดีไซน์ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความงามแบบน้อยแต่มาก ตกแต่งด้วยกลุ่มโคมไฟแขวนเรียงรายและเส้นสายแนวตั้งที่ชัดเจนของฉากกั้นโปร่งแสง เป็นการพบกันของมรดกทางวัฒนธรรมอาหารของญี่ปุ่นที่ไร้กาลเวลากับความหรูหราแบบร่วมสมัยที่แท้จริง
เชฟอัลวินและลูกทีมจะทำอาหารในครัวเปิด แขกจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมเทคนิคการทำอาหารได้ตรงหน้า ราวกับได้ชมการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ มาพร้อมโซนที่นั่งแยกและห้องไพรเวต 2 ห้องในบรรยากาศสบาย ๆ สำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการรับประทานอาหาร
หลากหลายเมนู รังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล ทั้งจากผืนดินและท้องทะเล เมนูเด่นได้แก่
- เนื้อวากิวย่าง รับประทานกับซอสยูซุโคโช
- ซาชิมิรวมพิเศษที่ยกความสดจากทะเลมาเสิร์ฟ
แต่ถ้าอยากยกระดับให้ดูลักซ์ชูรี่ ขึ้นอีกนิด แนะนำ "โดนาเบะ"เนื้อตุ๋นแก้มวัวและฟัวส์กราส์ซึ่งใช้เนื้อส่วนแก้มของวัวมาตุ๋นในไวน์แดง ผสมซอสถั่วเหลืองและเครื่องเทศนานาชนิดนานถึง 36 ชั่วโมง จนเนื้อนุ่มละลายในปาก เสิร์ฟคู่กับฟัวส์กราส์สัมผัสนุ่มละมุน วางบนข้าวสายพันธุ์พรีเมียมของญี่ปุ่นอย่างข้าวโคชิฮิคาริ (Koshihikari) ทั้งกลิ่นหอมและมีความกรุบเล็กน้อยของข้าวก้นหม้อดินญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม (เรียกว่าโดนาเบะ) เป็นเมนูที่เหมาะจะสั่งมารับประทานร่วมกัน
ตามต่อด้วยอังกิโมะ (Ankimo) อาหารยอดนิยมของญี่ปุ่น ทำจากตับของปลาอังโกะ นำมานึ่ง และเสิร์ฟเย็นพร้อมอังกิโมะไอศกรีมโมนากะสุดสร้างสรรค์ที่เชฟอัลวินบรรจงตกแต่งอย่างประณีตด้วยแตงโมหั่นเต๋า ผักดองนาราซึเกะ (ผักดองพื้นเมืองของเมืองนารา) ดอกไม้รับประทานได้ และใบชิโซะ (shiso) เพิ่มกลิ่นหอมของสมุนไพร ไม่ว่าคุณจะเลือกเมนูอะลาคาร์ตที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เทสติ้งเมนู ไปจนถึงเทโชกุ หรือชุดอาหารกลางวันสไตล์ญี่ปุ่นที่ใช้วัตถุดิบหายากและจัดเตรียมอย่างเป็นเอกลักษณ์ ทุกเมนูล้วนมอบประสบการณ์การเดินทางผ่านรสชาติอาหารญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์นที่น่าตื่นเต้น
รู้จักกับ เชฟอัลวิน ชูว์
สำหรับเชฟอัลวิน ชูว์ พื้นเพเป็นคน มาเลเซีย จากรัฐสลังงอร์ ซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม หลังจบการศึกษาด้านการทำอาหารจาก Gold Coast Institute of TAFE สถาบันการศึกษาด้านวิชาชีพชั้นนำในออสเตรเลีย เขาได้สั่งสมประสบการณ์การทำงานอยู่ที่รัฐควีนส์แลนด์อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเลเซียและพัฒนาฝีมือในตำแหน่งผู้ช่วยเชฟที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศในกรุงกัวลาลัมเปอร์
ก้าวสำคัญในอาชีพของเขาคือการได้เข้าทำงานในสถาบันทำอาหารอันทรงเกียรติของฝรั่งเศส กอร์ดง เบลอ (Cordon Bleu) ในมาเลเซีย ร่วมงานกับเชฟระดับมิชลินสตาร์อยู่สามปี จนกระทั่งได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองหัวหน้าเชฟ
จุดเปลี่ยนสำคัญของเส้นทางอาชีพของเชฟอัลวินในมาเลเซีย คือตอนที่เขาได้ร่วมงานกับเชฟระดับมิชลินสตาร์ เจฟ แรมซีย์ (Jeff Ramsey) ที่ Babe by Jeff Ramsey ร้านอาหารญี่ปุ่นไฟน์ไดนิ่งแบบ molecular (การใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาผสมผสานในขั้นตอนการทำอาหารเพื่อให้เกิดมิติที่แปลกใหม่) ที่ได้รับรางวัลมากมาย
โดยอัลวินรับตำแหน่งรองหัวหน้าเชฟ ก่อนที่โอกาสจะนำพาเขาเดินทางมายังประเทศไทยในช่วงปลายปี 2564 เป็นรองหัวหน้าเชฟอยู่ที่ Shiki ร้านโอมากาเสะสไตล์คัปโป (kappou) ย่านสาทร และต่อมาได้รับตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัว (Chef de cuisine) ที่ห้องอาการ คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ (Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey)
ประสบการณ์อันยาวนานในการทำอาหารของอัลวิน เป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมในการสร้างสรรค์เมนูที่ห้องอาหารฮาชิริ ความมุ่งมั่นของเขาในเรื่องการใช้วัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาลและวัตถุดิบญี่ปุ่นแท้คุณภาพสูง เป็นหัวใจของการสร้างสรรค์เมนูที่ห้องอาหารฮาชิริ ซึ่งออกแบบมาสำหรับทั้งผู้ที่ชื่นชอบความดั้งเดิมและผู้ที่มองหาเทคนิคความล้ำสมัย
อัลวินกล่าวถึงสิ่งที่เขาชื่นชอบที่สุดในช่วงเวลา 14 ปีของการสั่งสมประสบการณ์ในฐานะเชฟมืออาชีพว่าคือการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ในทุกวัน “มันเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด” เขาอธิบาย “คุณต้องเริ่มจากการมีวินัยอย่างมาก คุณต้องมีความอยากรู้อยากเห็น และสุดท้ายคุณต้องมีความหลงใหลในสิ่งที่คุณทำ”
ห้องอาหารฮาชิริเปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11.30-14.30น. และมื้อค่ำตั้งแต่เวลา 18.00-22.00น. มีห้องส่วนตัว 2 ห้องไว้ให้บริการ เหมาะสำหรับท่านที่มาเป็นหมู่คณะ