Exclusive ! JAS เคยยื่นซื้อหุ้นลิเวอร์พูลแต่พลาด ยันอนาคตมีโอกาสยื่นใหม่
ดร.โสรัชย์ เผย JAS เคยยื่นซื้อหุ้นลิเวอร์พูล 10 % เกือบ 2 หมื่นล้านบาท แต่ด้วยหลายปัจจัยทำให้พลาดไป ชี้อนาคตมีโอกาสยื่นซื้อใหม่และต้องเป็นลิเวอร์พูลทีมเดียวเท่านั้น
เวลานี้ความตื่นตัวในการชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤาในประเทศไทยกำลังคึกคัก เมื่อเกมการแข่งขันการถ่ายทอดสดแบบตอบรับสมาชิก (สตรีมมิง) กำลังเปลี่ยนมือจาก True vision มาเป็น JAS ที่ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมาได้ใoฤดูกาล 2025-26 และถ่ายทอดสดผ่าน Momo Max
โพสต์ ทูเดย์ ได้พูดคุยกับ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ถึงเรื่องการถ่ายทอดสดในฤดูกาลหน้า ที่จะถ่ายทอดผ่าน Mono max รวมถึงช่องฟรีทีวี ทาง โมโน 29 ส่วนพันธมิตรช่องทีวี ดิจิทัล ที่สนใจจะมารี่วมถ่ายทอดสดก็สามารถมาคุยกันได้
ที่สำคัญแพ็คเกจดูบอลสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จะพยายามไม่ให้เกิน 400 บาทต่อเดือน และมีระบบ AI มาช่วยจัดการป้องกัน ลิงค์ดูบอลเถื่อนและการลักออบสัญญาณถ่ายทอดสดไปเผยแพร่
อีกประเด็นสำคัญที่น่าสนใจคือเรื่องของโอกาสที่คนไทยจะได้เข้าไปเป็น 1 ในผู้ถือหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูลในอังกฤษ เพราะ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา รวมถึง นายพิชญ์ โพธารามิกผู้ถือหุ้นรายใหญ่ JAS ถือเป็นแฟนบอลพันธุ์แท้ของทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล
เรื่องนี้ดร.โสรัชย์ ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงและเคยยื่นของซื้อหุ้นไปแล้วประมาณ 10 % แต่มีหลายปัจจัยทำให้พลาดไป และอนาคตก็มีโอกาสซื้อหุ้นลิเวอร์พูลแน่นอน
"ผมพูดได้นะ (ยิ้ม) ไม่ใช่ความลับ รอบที่แล้วเคยคุยมาแล้ว รอบที่แล้วเขาขายให้กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อย 5 - 10 % นี่แหละ คุณพีชญ์ (พิชญ์ โพธารามิกผู้ถือหุ้นรายใหญ่ JAS) ไปคุยมา แต่ด้วยความไม่พร้อมก็ดี ด้วยราคาก็ดี หุ้นค่อนข้างมีราคาสูงคือพรีเมียมเลย ซึ่ง 10 % นี่เกือบๆ 2 หมื่นล้านบาท " ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าว
"ที่สำคัญถ้ามองในแง่ธุรกิจมันไม่มี Exit เพราะเขาเป็นบริษัทส่วนตัว คือเข้าไปแล้วมันเปิดเลย เพราะฉะนั้นมันเกิดแค่ 2 กรณีคือ 1 เข้าตลาด หรือ 2 เราขายต่อ คือเราเชื่อว่าสโมสรดีเราถึงพิจารณา"
"เพราะฉะนั้นพอถามว่ามีโอกาสไหมที่เราจะเข้าไปซื้อ บอกเลยว่าไม่ใช่ไม่คิด แต่มันไม่ใช่การลงทุนเล็กๆ แต่ก็อย่างที่เล่าไปครับว่า ข้อสุดท้ายเลยถ้าเราเข้าไปแล้ว มันมีโอกาสปิดยาวอันนี้พูดในแง่ของการลงทุนนะครับ"
"เอาง่ายๆเลยครับ ซื้อแมนยูซึ่งเป็น Public company ยังง่ายกว่า เพราะมันซื้อขายกันได้เลย "
โอกาสที่ JAS จะซื้อหุ้นสโมสรอื่นในพรีเมียร์ลีก?
ประเด็นนี้ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา เสริมว่าซื้อน่ะได้ แต่ในฐานะแฟนบอลลิเวอร์พูลแล้วมันทำใจไม่ได้
"ผมเดาว่าคุณพีชญ์เองก็คงไม่ซื้อ คือเชียร์ทีมบอลมันยากนะ คือถ้ารักแล้วมันไม่มีหรอกเชียร์ๆแล้วเดี๋ยวขอเปลี่ยน เพราะผมเชียร์มาแล้ว (ลิเวอร์พูล) 40 ปี มันก็ทำใจไม่ได้เนอะ อย่างไปซื้อทีมอื่นแล้วมาเจอลิเวอร์พูล อ่าวแล้วยังไงวะ (หัวเราะ) คือเชียร์ทีมที่เราถือหุ้นให้มาชนะทีมที่เราเชียร์มันก็ทำใจไม่ได้"
"คือถ้าซื้อก็คือ ลิเวอร์พูล ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เอา"
ผู้สื่อข่าวโพสต์ทูเดย์พยามสอบถาวต่ออีกว่า ถ้าเช่นนั้นการซื้อหุ้นลิเวอร์พูลในอนาคตย่อมมีโอกาสมากกว่าแน่ๆ ตรงนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ย้ำว่า "มีโอกาส"
"ก็เรากับลิเวอร์พูลรู้จักกันแล้ว คุณพีชญ์ ซื้อ Box (ห้องดูบอล VIP สำหรับดูบอลในสนาม แอนฟิลด์) มากก็น่าจะสิบปีแล้ว ซึ่งกับตัว CEO ลิเวอร์พูล หรือกับ FSG (กลุ่ม เฟนเวย์ สปอร์ตส์) เจ้าของทีมลิเวอร์พูล เขาก็รู้จักเราค่อนข้างละเอียด มันมีโอกาสครับ"