posttoday

เปิดตัวตนคนบ้าบอล "ดร.โสรัชย์ " กับดีล 19,000 ล้าน ลิขสิทธิ์ถ่ายพรีเมียร์ลีก

26 พฤศจิกายน 2567

วันที่ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกไปอยู่ในมือ JAS หลายคนยังสงสัยว่ารูปแบบการรับชมจะเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไป วันนี้โพสต์ ทูเดย์พาไปคุยกับ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา คีย์แมนคนสำคัญของดีลนี้ พร้อมเปิดตัวตนคนกีฬา และบ้าลิเวอร์พูลของ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา

พูดถึงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นี่คือลีกที่คนไทยบ้าบอลตามเชียร์ตามดูมากกว่า 10 ล้านราย จากการสำรวจของ เอซี นีลเซ่น ในวันที่ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเปลี่ยนมือจาก ทรูวิชั่นมาอยู่ที่ JAS เกิดคำถามมากมายจากทั้งคนในวงการกีฬาและในแวดวงธุรกิจ 

เพื่อคลายความสงสัยใดใด โพสต์ทูเดย์ เดินทางไปที่อาคารจัสมินฯริมถนนแจ้งวัฒนะ บ่ายวันที่ทีมงานเดินทางไปถึงและบันทึกเทปรายการคือวันที่ 21 พ.ย. 67 เพื่อพูดคุยกับ ดร.โสรัชย์  อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS 

ดร.โสรัชย์  ยอมรับกับทีมงานว่าวันนี้ผมเจ็บคอมาก บึนทึกเทปและสัมภาษณ์ไป 3 เจ้า ทีมงานโพสต์ทูเดย์ของเรามาปิดท้าย และปิดท้ายจริงๆเพราะหลังจากนี้ "ดร.โสรัชย์" จะขอพักและบินไปชาร์จไฟด้วยการดูฟุตบอล เชียร์ลิเวอร์พูลทีมรักในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะเจอกับเรอัล มาดริด (26 พ.ย.) และ กับ แมนซิตี้ ในวันอาทิตย์ ที่ 1 ธ.ค.
 

ดร.โสรัชย์  อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS

ดร.โสรัชย์ เริ่มด้วยการพูดถึงเบื้องหลังการประมูลลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกที่ JAS ประมูลทีเดียวได้ทันที

"ถ้าพูดถึงตอนประมูลเนี่ยวันประมูลคือวันที่ 4 เดือนนี้ที่ผ่านมาวันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 67 ก็เป็นการประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ครับเป็นการยื่นๆบิดเข้าไปทางอิเล็กทรอนิกส์นะครับก็ตรงกับเวลาบ้านเรา 3 โมงถึงบ่าย 3 ถึง 5 โมงเย็นนะครับแต่ถ้าพูดถึงการเตรียมเตรียมตัวเนี่ยหลายเดือนครับครึ่งปีนะครับกว่าจะศึกษาเรื่องตัวเลขกว่าจะไปเยี่ยมเยียน EPL อิงลิชแฟมิลีที่ลอนดอน" ดร.โสรัชย์กล่าว

ต้องบอกก่อนครับว่า ก่อนจะซื้อเราศึกษาความเป็นไปได้นะครับเพื่อที่จะกําหนดราคาที่เราจะยื่นนะครับ เราต้องไปเยี่ยมเยือนถึงออฟฟิศพรีเมียร์ลีกที่อังกฤษ เราต้องไปทำความรู้จักหรืออะไรเราก่อนนะครับ

เพราะว่าอย่างที่ทราบกันดีว่าการที่จะเข้าไปตรงนู้นเนี่ย มันก็ต้องเป็นที่รู้จักว่าเรา ทําอะไรยังไงมา ซึ่งมันไม่ไม่ง่ายครับไม่ไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาได้ แต่ต้องแสดงหลักฐานทางการเงินนะครับ พอถึงตรงนี้มันก็ไม่ยากนั เพราะเราเป็นบริษัท มหาชนมันมีข้อมูล public อยู่ แต่ยังไงก็แล้วแต่ต้องเขาต้องขอดู financial statement นะครับนะครับ และเพื่อให้แน่ใจว่าเรามีทรัพยากรเพียงพอนะครับเขาก็จะถามรายละเอียดเช่น คุณจะถ่ายทอดยังไง ? ซึ่งของเรามีโมโนแม็กซ์ซึ่งเป็นธุรกิจ สตรีมมิ่ง พอเค้ารู้ว่านี้เราก็ผ่านครับ เพราะว่าคนที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกทั่วโลกตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นสตรีมมิ่งนะครับ 

ซึ่งในขณะเดียวกันเราก็อยากรู้เงื่อนไขอื่นๆด้วยว่าถ้าประมูลได้แล้วมันจะเป็นยังไงนะครับ และเงื่อนไขเรื่อง 6 ปี เราก็ได้ทราบจากตอนที่ไปคุยนะครับว่า 3 ปีก็มี 6 ปีก็มีในบางประเทศตอนนี้มันน่าจะมีสัก 10 area มั้งครับที่เป็น  6 ปี

เปิดตัวตนคนบ้าบอล \"ดร.โสรัชย์ \" กับดีล 19,000 ล้าน ลิขสิทธิ์ถ่ายพรีเมียร์ลีก
 

เมื่อพูดถึงการถ่ายทอดสด แต่ละครั้งที่ประมูลจะเป็น 3 ปี ตรงนี้ ดร.โสรัชย์ ขยายความว่า ไม่ใช่ 3-3 อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจกัน

"จริงๆต้องต้องบอกว่ามันไม่ใช่ 3 บวก 3 บวก 3 เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่า 3 แล้วมีออปชั่นอ่าเราได้ 6 ปี 6 ฤดูกาลนะครับที่ราคา 19,000 ล้าน" ดร.โสรัชย์เสริม

"ทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขปกติครับผมเพียงแต่ว่าเพียงแต่ว่าถ้าบางท่านติดตามในเอกสารของตลาดก็จะพบว่ามันมันเขียนเงื่อนไขว่า 3 บวก 3 "

"วันพรุ่งนี้ (ขณะที่คุย 21-11-67) ที่อังกฤษจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นของพรีเมียร์ลีกก็ซึ่งก็คือ 20 ทีมเพื่อโหวตเซย์เยสหรือโนนะครับ แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่มีปฏิเสธเลยในประเทศที่ได้นะครับ"

"ถ้าแยกรายละเอียดการยื่นเงื่อนไข 3 ปีหลังเนี่ยค่าลิขสิทธิ์จะต้องมากกว่า 3 ปีแรก 35% นะครับ"

เลยกลายเป็น 19,00 ล้านบาท 3 ปีแรกเนี่ยโดยเฉลี่ยเราจ่ายประมาณ 2000 ล้าน กว่าๆนะครับในขณะที่ 3 ปีหลังมันเป็นทะลุ 3000 กว่าๆขึ้นไปนะครับแต่รวมกันแล้ว 6 ฤดูกาล 19,000 ล้าน แต่คราวเนี้ยมันได้เอฟเอคัพด้วยแล้วก็ได้อีกได้สิทธิ์เผยแพร่ที่ลาวแล้วก็กัมพูชาด้วยครับ

เปิดตัวตนคนบ้าบอล \"ดร.โสรัชย์ \" กับดีล 19,000 ล้าน ลิขสิทธิ์ถ่ายพรีเมียร์ลีก

เอฟเอ คัพ ต้องจ่ายเพิ่มไหมครับ ? 

"ไม่ต้องครับอยู่ในนี้ทั้งหมดเลยครับ" ดร.โสรัชย์ กล่าวยืนยันว่าทั้งหมดครอบคลุมในราคา 19,000 ล้านบาทแล้ว

ทีนี้มาถึงความระทึกในการประมูล ทราบว่าทุกอย่างเป็นความลับ แม้แต่วันที่ประมูล ข้อมูลแมบไม่รั่วไหล แต่ดร.โสรัชย์เผยว่าพอจะเดาทางอีกฝั่งออก เลยยื่น E Bidding ให้พรีเมียร์ลีก ที่สำคัญครั้งเดียวผ่าน ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกทันที

"รอบเดียวครับ รอบเดียวผ่านเลย ตามตามกฎของเขาถ้ายื่นเข้าไปแล้วที่หนึ่งกับที่ 2 ทิ้งกันไม่เกิน 20% จะต้องจะต้องมีรอบ 2  แล้วถ้ารอบ 2 ยังทิ้งกันไม่เกิน 5% จะต้องมีเตะจุดโทษ ซันเด้ดเดธเลยก็คือซองเดียวจบนะครับซึ่งเราไม่อยากให้เกิดกรณีนั้น"

"แต่มันก็ต้องเริ่มจากข้อมูลที่แข็งแรงที่ และแน่นอนนะครับ ทําให้เรากําหนดราคาประมูล ซึ่งเราคิดว่าเรากล้าให้ราคาเพื่อที่จะได้จบเลย"

"เรายื่นซองไปใกล้ 5 โมง (อังกฤษ) ซองเดียวคืออย่าเรียกว่าซองเลยครับเพราะมันเป็นอิเล็กอิเล็กทรอนิกส์นะครับเรายื่นราคาไปเขาก็ขอบคุณมาตอน 3ทุ่ม"

จากนั้น 3 ทุ่มเท่านั้นแหละครับเขาก็ขอคอนเฟอเรนซ์คอลกับเรานะครับ แล้วก็แสดงความยินดีครับ"

"ตรงนี้เราทํางานกันมาครึ่งปีนะครับแต่เราก็ต้องทําแบบเงียบๆ เราไม่อยากจุดชนวนการแข่งขันด้านราคาคงไม่ทันมัน จะทํา CTH (บ.CTH เคยประมูลถ่ายทอดสดลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกได้เมื่อ 15 ปีที่แล้ว) ไหม?" 

"สมัยเมื่อ 10 เกือบ 15 ปีที่แล้วเขาก็ได้ราคาเรานี่แหละแต่นั้นมันเมื่อ 15 ปีที่แล้วนะครับเขาน่าจะ 3 ปีหมื่นกว่าล้านได้"

สูงมากสูงมากยิ่งเทียบกับราคานั้นแล้วก็ภายใต้บริบทของเทคโนโลยีสมัยนั้นผมว่ามันยุ่งยากมากนะครับแต่ของเราเนี่ยเดี๋ยวคงได้อธิบายกันไปแล้วมันต่างกันยังไงก็นั่นแหละครับยื่นไปก็ทีเดียวจบ แต่ตอนนั้นยังประกาศ ไม่ได้นะครับเราต้องรอผ่านขั้นตอนคณะกรรมการกําหนดชัดเจนถึงจะเปิด public แล้วก็แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ในวันจันทร์ต่อมาได้

เปิดตัวตนคนบ้าบอล \"ดร.โสรัชย์ \" กับดีล 19,000 ล้าน ลิขสิทธิ์ถ่ายพรีเมียร์ลีก

ทันทีที่ออกไป กลายเป็นข่าวใหญ่เลย (นักข่าว)

"ครับผมสารภาพผมไม่นึกว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้ (ยิ้ม) ผมไม่นึกว่าจะมีอิทธิพลและกระทบกับผู้คนได้ขนาดนั้น คืนนั้นก็แบบโอ้โห แล้วเอกสารที่เรายื่นไปทางทางตลาดอะครับมันเป็นภาษากฎหมายครับหลายคนก็ไปเข้าใจว่า 19,000 ใน 3 ฤดูกาล"

ทําให้รุ่งเช้าผมต้องรีบเชิญนักข่าวหรือว่าผู้ที่อยู่ในวงการมาอธิบายให้ทราบว่าสัญญามันเป็นยังไงครับ

การเข้ามาของ JAS สำหรับถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก เปรียบเหมือนผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้าวงการถ่ายทอดกีฬา และยิ่งเป็นฟุตบอลอังกฤษซึ่งมีฐานแฟนบอลในไทยติดตามมากมายมหาศาลไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ยิ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของ JAS ในการรับมือสำหรับฤดูกาลที่กำลังจะเกิดขึ้น

ตรงนี้ ดร.โสรัชย์ เสริมว่าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น กรณีที่เคยเกิดขึ้นกับ CTH จะไม่เกิดกับ JAS แน่นอน

"ต้องบอกว่าเทคโนโลยีมันอยู่คนละคนละยุคนะครับ CTH นี่ถ้าเรามองย้อนไปเป็นยุคที่เทคโนโลยีมันเพิ่งพัฒนา เพราะฉะนั้นตอนนั้นคนดูผ่านกล่องถ้าเราจําได้กล่องก็มี 2 วิธีที่จะเชื่อมสัญญาณไปหนึ่งดาวเทียมก็คือต้องวางจานนะครับ"

"2 ก็คือต้องลาก ไฮสปีดอินเตอร์เน็ตไปซึ่งตอนนั้นไม่ใช่ไฟเบอร์ตอนนั้นเป็นเอ่อเอทีเอสแอลนะครับผมเข้าใจว่า CTH ที่อยากประมูลได้เอ่อ EPL (พรีเมียร์ลีก) เพราะอยากจะสร้างธุรกิจเน็ตบ้านนะครับ ซึ่งก็อาจจะเป็นด้วยความใหม่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง มันก็มีความตะกุกตะกักตอนนั้นในฐานะแฟนบอลเราก็รู้สึกว่าดูลําบากนะครับ"

"ตอนนี้มาที่เรา เรามีพาร์ทเนอร์เป็น mono max ซึ่งก็เป็นเจ้าของเดียวกันนะครับต้องประกาศไว้ก่อนเพราะว่าในภาษาธุรกิจเค้าเรียก RPT (Related Party Transaction) หรือ ผู้ถือหุ้นต้องอนุมัติเวลาเราทําการซึ่งกันและกันนะครับ"

"ตัวmonomax เค้าดูแลลูกค้าผ่านสตรีมมิ่งนี่คือธุรกิจของเขาอยู่แล้ว มีสมาชิกอยู่ 1.5 ล้านราย เพราะฉะนั้นไม่ใช่ไม่เคยทําเราทําธุรกิจสตีมมิ่งมาจะ 10 ปีแล้ว"

"ในขณะที่แจ๊สมีความพร้อมอะไร? แจ๊สเพิ่งขาย 3 BB ไปให้เอไอเอส (AIS) คงพอทราบกันนะครับ เพราะงั้นเรามีความพร้อมทางด้านเงินทุนนะครับประสบการณ์เรื่องเทคโนโลยีบริษัทลูกของแจ๊สเนี่ยเราทําเรื่อง AI เรื่องบิทคอยน์ แต่ที่จะใช้ก็คงเป็นเอไอนะครับที่เข้ามาปรับใช้"

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก ผ่าน โมโน แม็กซ์ ง่ายแค่คลิ้กนิ้วไม่ต้องติดกล่อง !

การดูฟุตบอลหรือกีฬาต่างๆในประเทศไทยที่ผ่านมา ผู้บริโภคต้องติดตั้งจานและมีกล้องรับสัญญาณ ซึ่งจากมุมคนบ้าบอลอย่าง ดร.โสรัชย์ ที่มีครบทุกกล่องทุกจาน เข้าใจปัญหารีโมท ทีวี ล้นบ้านดี และเข้าใจปัญหาความยุ่งยากในการติดตั้ง ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะหมดไปในฤดูกาลหน้า

"ผมเข้าใจว่าสิ่งแวดล้อมบริบทเนี่ยมันไม่เหมือนกันทําให้เรามีความมั่นใจว่าสิ่งที่เรากังวลก็คือการสลับมาจากกลุ่มคนดูหรือผู้บริโภคใช่ไหมครับเพราะฉะนั้นในโลกของแอพพลิเคชั่นเนี่ยมันเป็นอยู่ปัจจุบันผมมั่นใจว่าลูกค้าไม่ไม่ต้องไม่ต้องย้ายกล่องไม่ต้องเปลี่ยนกล่องนะครับเพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทําได้ก็คือถ้าสมาร์ททีวีก็เข้าไปในแอป สโตร์ของของทีวีโหลดโมโนแม็กซ์มาจ่ายตังค์ดูได้เลยนะครับ"

"สะดวกสบายมากมือถือแท็บเล็ตไม่ต้องพูดมันก็ผ่าน telcoก็มี appstore ,ios, android เท่านี้ก็เรียบร้อยง่ายมาก

"สําหรับผู้ที่มีกล่องที่เป็นกล่องต้องบอกว่ากล่อง android นะครับก็โหลดแอปได้เลยนะครับจะติดปัญหาคนเดียวก็คือกลุ่มที่เป็นเคเบิลกลุ่มเดิม ซึ่งมันไม่มีแอปมันเป็นมันเป็นเทคโนโลยีแบบเดิม ที่โปรแกรมมันล็อกไว้แล้ว เราจะไม่สามารถเลย คือเราต้องดูตามตารางเขาอ่ะ บอลก็เหมือนกันเราก็ต้องไปดูตามตารางเขาเพราะฉะนั้นตรงเนี้ยจะไม่มี ด้วยด้วยเหตุผลขอร้องหรือว่าจะด้วยด้วยการพูดก็ดีของพรีเมียร์ลีก เรื่องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ เพราะว่าระบบเคเบิลเดมมันทําให้การรีบรอดแคสต์ (ลักลอบถ่ายทอดสด) ง่ายครับ

ซึ่งช่องทางการรับชม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-26 รับชมทาง โมโนแม็กซ์ ออนไลน์เท่านั้น สำหรับคนที่ดูกล่องดูอะไรที่มีอยู่ก็ถ้าเป็นกล่องแอนดรอยด์ก็โหลดแอป monomax ถ้าเป็นทีวีสมาร์ททีวีก็โหลด monomaxเข้ามาได้ทันที

เป้าหมายสมาชิกที่จัสมิน (JAS) ตั้งเป้าไว้ที่เท่าไหร่ ?

การถ่ายทอดสดแบบตอบรับสมาชิก ต้องมีสมาชิกเข้ามาซื้อแพ็คเกจเพื่อชมฟุตบอล เรื่องนี้ ดร.โสรัชย์เสริมแบบเรื่อยๆเบาๆ แต่มั่นใจว่าเอาอยู่และมีลูกค้าเกินกว่าที่ตั้งเป้าแน่นอน

"ปริมาณการขายที่กิจการจะต้องทำให้ได้ เพื่อให้กิจการนั้นไม่ขาดทุน  อยู่ที่ 1.1 ถึง1.2 ล้าน subscription ผมขอเรียกว่าลูกค้าละกันครับ 1.1 ถึง 1.2 ล้านสมาชิก อันนี้พูดถึง break even แล้วกันนะครับจริงๆแล้วเนี่ยเป้าหมายนักการตลาดต้องสูงกว่า break แน่นอน เราตั้งเป้าว่าน่าจะได้ที่ 3 ล้านราย" ดร.โสรัชย์กล่าวอย่างมั่นใจ

แต่สําหรับผมเนี่ยโดยส่วนตัวที่ผมคิดเนี่ยการเข้าถึง 2 ล้านราย ไม่น่าที่จะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้นะครับในมองในแง่จาก finance ก็ดีของ หรือการศึกษาความเป็นไปได้

เพราะว่าไม่แน่ใจคุ้นเคยกับการทําศึกษาข้อมูลตลาดไทยหรือเปล่า 

ตลาดพรีเมียร์ลีกไทยเนี่ยใหญ่มากนะครับ ในอาเซียน ผมว่าน่าจะใหญ่ที่สุดนะครับในบางประเทศเช่นอินโดนีเซียเขานิยมซีเรีย อา (ฟุตบอลอิตาลี) เป็นที่หนึ่ง แต่ไทยเนี่ย 10 กว่าปีเนี่ยพรีเมียร์ลีกแน่นอนนะครับ

เปิดตัวตนคนบ้าบอล \"ดร.โสรัชย์ \" กับดีล 19,000 ล้าน ลิขสิทธิ์ถ่ายพรีเมียร์ลีก

ดูกระแสบนยูทูปก็ได้นะครับไม่มีการวิเคราะห์บอลอิตาลีเลย ไม่มีการวิเคราะห์บอลเยอรมันเลยพรีเมียร์ลีกล้วนๆ มันบอกได้ว่าใครอยากฟังได้เพราะว่ายูทูปเบอร์เนี่ยเขาได้เงินจากยอดวิว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทําจะต้องเป็นสิ่งที่คนอยากดู แล้วเราก็ไปดูยอดคนที่เขาดู ก็หลักแสนทั้งนั้นนะครับอ่ะแล้วแต่ใครจะชอบดูของใคร

แต่การทํารีเสิร์ชเนี่ยจากเนลเซ่น สปอร์ตเนี่ยนะครับ เขาเชื่อว่ามีตลาดในเมืองไทยที่จะดูพรีเมียร์ลีกแล้วพร้อมจะจ่ายตังค์ 6 ล้านรายนะครับ

แต่ถ้าดูทั้งหมดจริงๆแล้วคนติดตามพรีเมียร์ลีกเกิน 10 ล้านจริงๆ 10-20 ล้านด้วยซ้ำที่มีความสนใจกับพรีเมียร์ลีกแต่คนที่พร้อมจะจ่ายเลย เขาทํารีเสิร์ชมาเนี่ยประมาณ 6 ล้าน

แต่ก็อย่างที่ทราบได้ว่า คนจํานวนมากก็จะใช้ช่องทางธรรมชาตินะครับ (ยิ้ม)

ซึ่งมาถึงเรื่องการป้องกันคนลักลอบดึงสัญญาณถ่ายทอดสดออกไป ตรงนี้ จัสมิน ที่มี AI และพัฒนามานานแล้ว ก็จะนำ AI มาตัดพวกที่ลักลอบเอาสัญญาณไปเผื่อแพร่ตามลิ้งค์เถื่อน

"อย่างที่เรียนไปว่าช่องทางที่แพร่ภาพไปที่ปลายทางที่มัน สารถที่จะลักลอบสัญญาณได้ง่ายเราก็จะไม่ใช้ และเราไม่มีด้วยนะครับ และเราก็ไม่คิดที่จะทําธุรกิจไอ้กล่องต่างๆ หรือผ่านเคเบิ้ลแน่นอน อันนี้ประการที่หนึ่ง"

"ประการที่ 2 เนี่ยมันมีเทคโนโลยีใหม่ๆซึ่งพัฒนาเราก็ได้คุยกับ partner เรานะครับอย่างเราเราทําเรื่อง AI กับ korean telecom เราก็ถามเขาว่าเฮ้ยที่ประเทศคุณทํายังไงนะครับจริงๆการประมูลได้มาครั้งเนี้ยที่พรีเมียร์ลีกเค้ารู้สึกดีกับเราเพราะว่าเราให้คํามั่นสัญญาว่าเรื่องเนี้ยเราจะทําเต็มที่นะครับ แต่ทําอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทําได้เทคโนโลยี เช่นวอเตอร์ มาร์ค (การแสดงความเป็นเจ้าของ) ถ้าผมส่งสัญญาณให้สมาชิกคนหนึ่งซึ่งเรารู้ว่าสมาชิกท่านนี้คือสมาชิกเลขที่ 12345 มันก็จะมี ลายน้ำ ของท่านนี้ติดไปด้วย ถ้าเค้าเอาไปเผยแพร่ต่อ เราจะรู้ว่ามันรีบรอดแคสต์มาจากสมาชิกเบอร์ดังกล่าว ด้วย AI การตรวจจับมันเร็วมาก และเราตัดสัญญาณทันทีนะครับแต่มันยังมีช่องทางธรรมชาติที่เป็นของต่างประเทศ ตรงนี้นอกเหนือจากเราแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับทาง EPL ในการทำงานร่วมกับเจ้าของพื้นที่เพื่อจัดการเรื่องนี้

ส่วนราคาที่สมาชิกจะดูบอลได้ 1 ยูสเซอร์ 400 บาท ต่อเดือน และดูได้หมด 2 จอพร้อมๆกัน อย่างเช่นคู่ที่แข่งพร้อมกันหากเราอยากดูอีกคู่ก็สามาถชมพร้อมกันได้ 

นอกจากนั้น 400 บาทเนี่ยเรายังตัดสินใจแล้วเราเจรจากับโมโนแล้วว่า 400 บาทเนี่ยเราขอให้มันเป็นแบบคอนเทนต์ทั้งหมดของโมโนด้วยซึ่งมันก็จะประกอบไปด้วยภาพยนตร์และซีรีส์ ซึ่งโมโนก็ซื้อลิขสิทธิ์มาจากจีน เกาหลีที่เขามีอะนะครับไม่ว่าจะเป็นของต่างประเทศ หรือที่เขาสร้างเองซึ่งเขาก็มีทีมงานที่ใหญ่นะครับก็ก็จะได้อันนี้ไปด้วยครับ

เปิดตัวตนคนบ้าบอล \"ดร.โสรัชย์ \" กับดีล 19,000 ล้าน ลิขสิทธิ์ถ่ายพรีเมียร์ลีก

พร้อมเปิดเจรจาทุกช่องทีวี ดิจิทัลที่สนใจอยากร่วมถ่ายทอดสดด้วย

ตอนนี้ถ่ายทอดสดถ้าทางฟรีทีวี แน่ๆคือ โมโน 29 ผมพูดในทุกสื่อว่าถ้ามีช่องอื่นมาคุยเราก็พร้อมพร้อมจะคุยคุยเพราะเมื่อก่อนมันก็มี พีพีทีวีมี หรือจะไทยรัฐด้วยรึเปล่าผมไม่แน่ใจที่เคยร่วมถ่ายทอดสด เพราะฉะนั้นถ้ามาคุยหรือว่าถ้าสนใจเนี่ยเราเราพร้อมครับเราพร้อมที่กระจายไปที่ฟรีทีวี ซึ่งทาง EPL เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่ ช่องทีวีก็คือได้แค่หนึ่งคู่ ใช่ไหมครับซึ่งอาทิตย์นึงมันอาจจะมี 10 10 คู่ 20 ทีมหรือ 10 คู่ก็ก็คงต้องต้องดูว่าจะให้ได้สักเท่าไหร่แล้วก็คู่ไหนบ้างนะครับ

รับคุยกับ AIS แล้ว และมีโปรเจคต์ร่วมกัน

ก็แฮนด์อินแฮนด์นะฮะเราก็เป็นพาร์ทเนอร์กับเขามานะครับ เราร่วมเป็นพันธมิตรเพราะฉะนั้นก็คุยก็เขาก็คงอยากทําการตลาดที่มันมีคนสนใจสูงๆ เราก็คุยกันถึงเรื่องว่าทำคอนเทนท์ ก่อนเกม หลังเกม 

แล้วก็ฟุตบอลคาราวานที่จะออกไปทํากิจกรรมออกอีเว้นท์ต่างๆเนี่ยก็อยากไปกับเขาแล้วก็แบรนด์อื่นที่เราคิดๆไว้ครับ

แผนธุรกิจของ JAS หลังจากนี้ครับ ? 

ถ้าเรื่อง EPL เราก็ร่วมกับโมโน แม็กซ์ในการถ่ายทอด และกระจายภาพออกไป ส่วนในเรื่องสปอนเซอร์หรือเรื่องอีเว้นท์ เราก็พยายามที่จะปรับปรุงนะครับแล้วก็ทําให้มันเข้มข้นขึ้นครับ

หุ้นของ JAS เป็นอย่างไรบ้างหลังการประกาศว่าได้ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกออกไป ตรงนี้แม้ ดร.โสรัชย์ จะพยายามเก็บไว้แต่การยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า สัญญาณของหุ้นนั้นเป็นบวก

เรามีมิตติ้งกับนักวิเคราะห์หุ้นไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (15 พ.ย.67) ก็ค่อนข้างได้ผลที่ดีนะครับ เรื่องราคา เราก็ขึ้นคงพูดเป็นเลขไม่ได้หรอกแต่หลายๆคนก็พอเขารู้ความจริงนะครับบวกกับข้อมูลที่เรา present เรื่องเกี่ยวกับเราศึกษาตลาดมาอย่างเข้มข้นนะครับเราคิดว่าหนึ่งว่า 1.1 ถึง 1.2 ล้านสมาชิกเนี่ยคือ break even แต่ว่าเราคิดว่า 2 ล้าน ไม่ไม่น่าจะเกินกําลังนะครับเพราะฉะนั้น ผลประกอบการมันก็น่าจะดีขึ้นนะครับ เพราะฉะนั้นใช้คํารวมๆว่า positive ละกันให้เป็นราคาไม่ได้ (ยิ้ม)

ความหลงใหลในเกมฟุตบอลของผู้ชายที่ชื่อ โสรัชย์ อัศวะประภา

ทราบกันดีว่า ดร.โสรัชย์ เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูลเข้มข้นระดับแฟนเดนตายที่ตามเชียร์ทีมรักแทบทุกเกม ยิ่งเกมสำคัญอย่างนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกก็แทบจะพลาดไม่ได้ต้องบินไปดูแบบติดขอบแทบทุกนัด

ทีนี้การไปซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกเนี่ยมันมาจากความชอบส่วนตัวของแฟนบอลคนหนึ่งด้วยหรือเปล่า ? 

ตรงนี้ ดร.โสรัชย์ยอมรับว่าใช่ แต่ความชอบกับการทำธุรกิจมันต้องเดินไปด้วยกันได้ด้วย

"น่าจะรวมรวมอ่ะครับแต่เราทําธุรกิจนะเราต้องยอมรับว่ามันต้องมีโอกาสทางธุรกิจก่อนเราถึงจะตัดสินใจไป แต่ passion น่ะมันทําให้ยิ่งเกิดความมันส์แล้วความเข้าใจคือดูบอลมาตั้งแต่อายุ10ขวบอะ ยิ่งอาจจะ50 ปีแล้ว  เออเราก็เชียร์ทีมนี้มาตลอด" สีหน้าและเสียงของ ดร.โสรัชย์มีความอินกับเกมทันทีเมื่อเข้าสู่เรื่องลิเวอร์พูลทีมรัก

"แต่ว่ามันก็ไม่ได้จํากัดอันนั้นประสบการณ์น่ะมันทําให้เราเห็นความหลากหลายต่างๆนะครับเพราะฉะนั้นในฐานะผู้บริโภค ถ้าเราเข้าใจรสชาติที่ลูกค้าอยากได้มันก็มีโอกาสที่เราจะทําได้ดีนะครับเพราะฉะนั้นถามว่าแพชชันนําหรือธุรกิจนํายังไงก็ต้องบอกว่ามันเป็นโอกาสก่อนเราเห็นช่องทางที่เรารู้สึกว่าเออเราทำได้มันมีโอกาสนะและจบเทคโนโลยีของเรา คือถ้ายังต้องติดจานแล้วเปลี่ยนกล่องผมว่าผมอาจจะไม่ทําเพราะว่าการมูฟมันยากมาก"

"แต่ตอนนี้การสวิตช์มันแบบดีดนิ้วได้ 5 นาทีไม่เกินนะครับ หรือผู้ไม่คุ้นเคยเนี่ยเราก็สามารถใช้คอลเซ็นเตอร์ช่วยได้ใช้นู่นใช้นี่ด้วยหรือใช้แค่แบบคิวอาร์โค้ดสแกน อะไรอย่างนี้มันมีวิธีเยอะมากแต่ว่างั้นเอาว่ามันง่ายขึ้นเยอะแทนที่จะต้องนัดช่างรอช่างไปเดินสายหรือไม่ก็ไปติดจานใช่ไหมแล้วก็มาสอนวิธีใช้อะไรมันกลายเป็นคือต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีวันนี้ทุกคนมันคุ้นเคยกับไอ้การใช้แอพอะไรเงี้ยนะครับ"

"เพราะฉะนั้นธุรกิจนําแพชชั่นแต่ผมว่า 2 อันนี้บวกกันแล้วน่าสนุก"

การซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก มันจุดไฟที่กลับขึ้นมาอีกไหมครับ ?

"โอ้โหอย่างมากไม่น่าเชื่อๆอันนี้ถามได้ดีมากนะแบบผมๆแบบรู้สึกแบบตื่นเช้าอยากมาทํางานอยากมาทํางานทั้งๆที่แบบเราเราก็ตําแหน่งเราก็สูงแล้วนะเราไม่จําเป็นต้องแบบแต่แบบความคึกมันมาเกิดอีกครั้งหนึ่ง" 

"ผมคิดว่าอยากให้ทุกคนมีความสุขที่สุดเพราะเพราะกีฬาให้ผมมาเยอะครับสอนผมมาเยอะให้ผมมาเยอะมากแล้วผมคิดว่ากีฬาเนี่ยมันให้คืนให้กับสังคมได้จริงๆ"