"พระเขี้ยวแก้ว"ถึงไทย ประดิษฐานสนามหลวง เปิดให้สักการะถึง14ก.พ.68
อัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากจีนถึงไทยวันนี้ (4ธ.ค.67) ประดิษฐานท้องสนามหลวงเป็นการชั่วคราว ถึง14กุมภาพันธ์ 68 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนปี68
พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วจะมีขึ้นในวันนี้ (4 ธันวาคม 2567) เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568
พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง จะประดิษฐาน ณ สนามหลวงเป็นเวลา 73 วัน ซึ่งประชาชนสามารถเข้าไปสักการะได้ ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2567 - 14 กุมภาพันธ์ 2568
การอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ถือเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อ พ.ศ. 2545 ณ พุทธมณฑล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหกครั้งที่พระเขี้ยวแก้วประดิษฐานนอกประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
การอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว)ครั้งที่2 มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการฯ อัญเชิญพระเขี้ยวแก้วขึ้นเครื่องบินของสายการบินไชน่า แอร์ไลน์ ถึงสนามบิน บน.6 ดอนเมือง ในเวลา 13.00 น. จากนั้นเวลา17.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วขึ้นประดิษฐาน ณ มณฑป มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568
นายชูศักดิ์ เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการลงนามความตกลงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ไปประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงและมีคณะสงฆ์ของฝ่ายไทยซึ่งมีพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมคณะด้วย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30ตุลาคม 2567 นายชูศักดิ์ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการจัดสร้างมณฑปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว.