อินฟลูเอนเซอร์สะเทือน! Instagram ยกเลิกโครงการหารายได้จากโฆษณา
Instagram แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังภายใต้การดูแลของ Meta ได้ประกาศยุติโครงการที่เคยเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์สร้างรายได้จากโฆษณาที่แทรกระหว่างคอนเทนต์บนโปรไฟล์ของตนเอง
Instagram เริ่มต้นทดสอบโครงการแบ่งรายได้จากค่าโฆษณาในปี 2022 โดยเริ่มจากกลุ่มครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ในสหรัฐอเมริกาเป็นกลุ่มแรก ต่อมาในปี 2024 ได้ขยายขอบเขตครอบคลุมครีเอเตอร์ในอีก 4 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในความพยายามของ Meta ในการดึงดูดและรักษาฐานผู้ใช้ที่สร้างคอนเทนต์คุณภาพไว้บนแพลตฟอร์ม
โครงการนี้อนุญาตให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จากโฆษณาที่แสดงระหว่างคอนเทนต์บนโปรไฟล์ของพวกเขา ซึ่งเป็นรูปแบบการสร้างรายได้ที่แตกต่างจากการรับสปอนเซอร์โดยตรงหรือการขายสินค้าของตัวเอง โดยระบบจะจัดสรรรายได้ส่วนหนึ่งจากโฆษณาให้กับครีเอเตอร์
จากข้อมูลในเอกสารที่ยื่นศาลปี 2024 เผยว่า Instagram สามารถสร้างรายได้จากโฆษณาให้ Meta เป็นจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะในปี 2022 ที่สร้างรายได้สูงถึง 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่เริ่มทดสอบโครงการโฆษณาในโปรไฟล์
หากย้อนกลับไปมองในอดีต Meta มีประวัติการทดลองและยุติโครงการสร้างรายได้มาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น IGTV ที่เคยแข่งขันกับ YouTube โดยจะแบ่งรายได้จากโฆษณาให้กับครีเอเตอร์ระหว่างปี 2020-2022 และ Instagram Reels Bonus ที่จ่ายเงินให้กับครีเอเตอร์ตามผลงานของ Reels (ถูกระงับไปในปี 2023 และนำกลับมาใหม่ในปี 2024 แต่เปลี่ยนรูปแบบโบนัสที่มีกำหนดเวลา) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามของ Meta ในการค้นหารูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสื่อสังคมออนไลน์
อย่างไรก็ตาม Meta ยังคงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์ม โดยยังคงนโยบายการแสดงโฆษณาระหว่างคอนเทนต์บนโปรไฟล์สาธารณะที่ไม่ใช่ของผู้ใช้เยาวชน พร้อมทั้งให้สิทธิ์แก่ธุรกิจในการควบคุมการแสดงโฆษณาของตนบนโปรไฟล์ต่างๆ
สำหรับครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ การยุติโครงการนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้พวกเขาต้องปรับตัวและมองหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับงานสปอนเซอร์โดยตรง การขายสินค้าหรือบริการของตนเอง หรือการกระจายความเสี่ยงไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ
ในท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อครีเอเตอร์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของอุตสาหกรรมสื่อดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ความสำเร็จในอนาคตของ Instagram และ Meta จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างการสร้างรายได้ การรักษาฐานผู้ใช้ และการสนับสนุนระบบของครีเอเตอร์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน