ADHOC ไพรเวทไฟน์ไดนิ่งที่ซ่อนเสน่ห์อาหารไทย 4 ภาค สุดพิเศษ

27 มีนาคม 2568

ADHOC เสนอประสบการณ์ไฟน์ไดนิ่งที่ผสานเสน่ห์อาหารไทยต้นตำรับเข้ากับเทคนิคสมัยใหม่ ในบรรยากาศส่วนตัว พร้อมคอร์ส 9 จานที่สะท้อนรสชาติจากทั่วทุกภูมิภาค

ในซอยเล็กๆ ของสุขุมวิท 39 ซ่อนตัวอยู่กับร้านอาหารที่พร้อมจะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยที่เหนือกว่าใคร กับร้าน ADHOC ไพรเวทไฟน์ไดนิ่งที่นำเสนอความอร่อยในมุมมองที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ ภายใต้การดูแลของ เชฟป๊อป-พิชชกร รามบุตร ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวและแรงบันดาลใจผ่านคอร์สอาหาร 9 จานในรูปแบบ Tasting Menu ภายใต้แนวคิด "A Genuinely Thai Farm-To-Fork Fare" เพียงแค่ก้าวผ่านประตูสีดำบานใหญ่เข้าไป คุณก็จะได้พบกับโลกแห่งรสชาติที่รอให้คุณได้สัมผัส
 

ADHOC ไพรเวทไฟน์ไดนิ่งที่ซ่อนเสน่ห์อาหารไทย 4 ภาค สุดพิเศษ

บรรยากาศส่วนตัวที่สร้างสรรค์มื้ออาหารสุดพิเศษ

ADHOC ออกแบบพื้นที่ได้อย่างลงตัว โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก บริเวณชั้นล่างเป็นโต๊ะไม้ยาวที่เปิดโล่งให้เห็นถึงการทำงานของเชฟและทีมงานอย่างใกล้ชิด โอบล้อมด้วยผนังหินแกรนิตสีขาวและโคมไฟคริสตัลที่เพิ่มความหรูหรา ส่วนชั้นบนถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการความเงียบสงบ หรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ การตกแต่งภายในเน้นโทนสีเข้มของพื้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ ตัดกับพรมทอมือสีสันสดใสและโซฟาครีม ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูหรูหราแต่ยังคงอบอุ่นและเป็นกันเอง

เริ่มต้นการเดินทางแห่งรสชาติด้วยความประทับใจแรก

มื้ออาหารเริ่มต้นด้วยคำทักทายที่น่าสนใจอย่าง W.Tawee Farm Pork & Thai Craft Soda ซึ่งเป็นการนำเสนอเมนูคุ้นเคยอย่าง "ไข่กระทะ" ในรูปแบบมินิ บนขนมปังบันโฮมเมดเนื้อนุ่ม สอดไส้ด้วยเนื้อหมูรมควันคุณภาพจากฟาร์มตาวี ปิดท้ายด้วยไข่นกกระทาที่แตกในปากพร้อมรสชาติอันกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับ Thai Craft Soda ที่ปรุงแต่งด้วยความหอมของใบกระวานจากจันทบุรี ผสานความเปรี้ยวอมหวานของส้มมะปี๊ดและส้มซ่า ช่วยกระตุ้นต่อมรับรสให้พร้อมสำหรับการผจญภัยในครั้งนี้

ต่อด้วย Banana Shrimp ที่เป็นการตีความ "ก้อยกุ้ง" ได้อย่างสร้างสรรค์ เชฟนำทุกส่วนของกุ้งมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า โดยนำเสนอในรูปแบบของทาร์ตเนื้อกุ้งคลุกเคล้ากับข้าวเหนียวคั่วหอมๆ เสิร์ฟพร้อมกับคางกุ้งทอดกรอบและน้ำพริกหัวมันกุ้ง ให้รสสัมผัสที่หลากหลายตั้งแต่ความนุ่มนวลของทาร์ตไปจนถึงความกรุบกรอบของคางกุ้ง
ADHOC ไพรเวทไฟน์ไดนิ่งที่ซ่อนเสน่ห์อาหารไทย 4 ภาค สุดพิเศษ

สัมผัสรสชาติวัตถุดิบท้องถิ่นในมุมมองที่แปลกใหม่

ADHOC พาเราไปสำรวจวัตถุดิบท้องถิ่นผ่านเมนูที่น่าสนใจมากมาย เริ่มด้วย Tai-Pao Clams ที่นำเสนอเมนูไทยโบราณอย่าง "แสร้งว่า" จากตำราแม่ครัวหัวป่าก์ โดยใช้หอยท้ายเภาจากภาคใต้ซึ่งเป็นวัตถุดิบหายาก เสิร์ฟพร้อมน้ำยำแสร้งว่าในรูปแบบกรานิต้าที่ให้ความสดชื่น ผสานรสชาติของสมุนไพร ปลาเนื้ออ่อนแห้งรมควัน ความหวานจากลำไย บีทรูท และชมพู่ เค็มนิดๆ จากสาหร่ายพวงองุ่น และความเปรี้ยวของส้มซ่าได้อย่างลงตัว

อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ Lon Kem Bak Nut หรือ "หลนสับปะรด" ที่ยกระดับความอร่อยด้วยกะทิสดหลนกับกุ้งแชบ๊วย ท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์จากหัวหิน เสิร์ฟคู่กับใบชะพลูและแป้งถั่วเขียว เมื่อนำทุกอย่างมารวมกันในคำเดียว จะได้รสชาติที่กลมกล่อมจนยากจะลืมเลือน

ADHOC ไพรเวทไฟน์ไดนิ่งที่ซ่อนเสน่ห์อาหารไทย 4 ภาค สุดพิเศษ

Goby หรือ "สะเต๊ะปลาบู่" เป็นอีกหนึ่งจานที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ของเชฟ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปมาเลเซีย ปลาบู่ถูกหมักด้วยโยเกิร์ตและเครื่องเทศ ก่อนนำไปย่างบนถ่านไม้ลำไยจนได้เนื้อสัมผัสนุ่มแน่น เสิร์ฟพร้อมซอสสะเต๊ะรสเข้มข้น น้ำอาจาดจากผักดองน้ำส้มสายชูมะพร้าว ขนมปังบันโฮมเมด และซอส Thai Tabasco ที่รวมกันแล้วให้รสชาติที่น่าประทับใจ

สำรับรสจัดจ้านที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติจัดจ้าน ADHOC ก็มีเมนูที่ตอบโจทย์ เริ่มด้วย Blue Crab หรือ "ข้าวยำปักษ์ใต้" สูตรคุณยายของเชฟป๊อป ข้าวหอมมะลิยโสธรคลุกเคล้ากับเครื่องแกงสดและซอสบูดูเคี่ยวพิเศษ เสิร์ฟพร้อมเครื่องสมุนไพร ผัก และผลไม้กว่า 12 ชนิด เนื้อปูและปลาทูจากประมงชุมชนสมุทรปราการ และแผ่นหนังไก่กรอบบางกรุบ วิธีการรับประทานคือเจาะแผ่นหนังไก่กรอบแล้วคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน จะได้รสชาติข้าวยำปักษ์ใต้แท้ๆ ที่อร่อยจนหยุดไม่ได้

เชฟป๊อป-พิชชกร รามบุตร เชฟป๊อป-พิชชกร รามบุตร

ต่อด้วย  Tapi River Prawn  หรือ "ต้มจืดแบบเรียบหรู" ที่ช่วยปรับสมดุลรสชาติหลังจากความเผ็ดร้อนของข้าวยำ ไข่ตุ๋นผสมเต้าหู้ไข่นุ่มเนียน รองรับลูกชิ้นกุ้งแม่น้ำจากลุ่มแม่น้ำตาปี เพิ่มความพิเศษด้วยแป้งถั่วเขียวที่ให้สัมผัสคล้ายวุ้นเส้น ท็อปด้วยโลคอลคาเวียร์จากหัวหิน ราดด้วยซุปรสหวานจากน้ำมะพร้าวหอมสด พร้อมสีสันสวยงามจากเห็ดชิตาเกะและความหอมของสมุนไพรสามเกลอ

Thai Wagyu หรือ "ซั่วเนื้อ" เป็นอาหารอีสานที่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ เนื้อวากิวไทยเทนเดอร์ลอยน์เซียร์หอมกรุ่น และเนื้อช็อตริบส์ที่ให้สัมผัสคล้ายเบคอน เสิร์ฟพร้อมมันแกวดองน้ำยำใสที่ซ่อนซุปหน่อไม้และข้าวทอดไว้ภายใน และซอสซั่วเนื้อใบย่านางรสเข้มข้นที่ได้ความข้นหนึบจากข้าวคั่ว เป็นการผสมผสานรสชาติอีสานที่แซ่บถึงใจ

ADHOC ไพรเวทไฟน์ไดนิ่งที่ซ่อนเสน่ห์อาหารไทย 4 ภาค สุดพิเศษ

เมนคอร์ส สำรับอาหารไทย จานแรก แกงเขียวหวาน นำไปดรายเอท 14 วันแล้วนำมาคู่กับแกงเขียวหวาน ต่อด้วยกุ้งกระเบื้อง และแกงน้ำพริกหมูคั่ว ที่นำมาจากสูตรคุณย่าของ"เชฟป๊อป" ต่อด้วยยำมะเขือยาว ซึ่งรสชาติเชฟตั้งใจทำให้มีรสที่จัดจ้านเพื่อตัดรสชาติของจานอื่นๆ ออนท็อปด้วย ไข่เป็ดแดงดองน้ำปลากวน เสิร์ฟคู่กับซอร์สน้ำยำ และซุปมะพร้าว ซึ่งพื้นฐานความหวานมาจากเนื้อมะพร้าวเพียวๆ 

ADHOC ไม่ได้เป็นเพียงร้านอาหาร แต่เป็นประสบการณ์การเดินทางผ่านรสชาติอาหารไทยจากทั่วทุกภูมิภาค ที่เชฟป๊อปรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันและ "เฉพาะเจาะจง" สมชื่อร้าน ด้วยการผสมผสานเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่เข้ากับรสชาติต้นตำรับได้อย่างลงตัว คอร์สอาหาร 9 จานที่นี่จึงเป็นการเดินทางที่น่าหลงใหลและสร้างความประทับใจให้กับทั้งคนรักอาหารไทยและนักชิมที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งสุดไพรเวทที่ซ่อนความอร่อยไว้อย่างน่าค้นหา ADHOC คือขุมทรัพย์แห่งรสชาติที่คุณไม่ควรพลาด

ADHOC ไพรเวทไฟน์ไดนิ่งที่ซ่อนเสน่ห์อาหารไทย 4 ภาค สุดพิเศษ

Thailand Web Stat