YOLK ทาร์ตไข่ไทยมาแรง ขายเดือนละแสนชิ้น เตรียมบุกตลาดโลก
4 เดือนหลังเปิดตัว YOLK ทาร์ตไข่แบรนด์ไทยสามารถสร้างยอดขายทะลุ 1 แสนชิ้นต่อเดือน จ่อวางแผนขยายสาขา โกอินเตอร์ สู่เป้าหมายแบรนด์ขนมที่นักท่องเที่ยวต้องลองเมื่อมาไทย
จากยอดขาย 100,000 ชิ้นต่อเดือน พร้อมเดินหน้าเป็น “เกตเวย์แบรนด์ไทยสู่ตลาดโลก"
หลังจากเปิดตัวแบรนด์เพียง 4 เดือน “YOLK” แบรนด์ทาร์ตไข่สัญชาติไทย โดย The Holiday Group ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดขนมอบ ด้วยยอดขายเฉลี่ยกว่า 100,000 ชิ้นต่อเดือน พร้อมวางแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และก้าวสู่บทบาท “แบรนด์ไทยยุคใหม่” ที่มุ่งมั่นยกระดับขนมท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
นายสาริน รณเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ร่ำรวยที่สุด จำกัด หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ YOLK เปิดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ทางธุรกิจ และมุมมองต่อการแข่งขันในตลาดทาร์ตไข่ที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในไทยอีกครั้ง
สร้างชื่อใน 4 เดือน ด้วยรากฐานจากประสบการณ์ 5 ปี
“แม้ YOLK จะเป็นแบรนด์ใหม่ แต่เราสั่งสมประสบการณ์จากการพัฒนา Holiday Pastry มาก่อนกว่า 5 ปี ทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคขนมอบในไทยอย่างลึกซึ้ง” นายสารินกล่าว
YOLK มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “*The Next-Level Thai Egg Tart*” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นทั้งด้านรสชาติ วัตถุดิบ และการนำเสนอ เพื่อวางตำแหน่งแบรนด์ให้แตกต่างจากคู่แข่ง ทั้งในเชิงคุณภาพและภาพลักษณ์
กลยุทธ์สร้างความต่าง: รสชาติที่ใช่ + โลเคชั่นที่แม่น
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ YOLK เติบโตได้อย่างรวดเร็ว คือการให้ความสำคัญกับ “สูตร” และ “ประสบการณ์การกิน” อย่างจริงจัง โดยใช้วัตถุดิบพรีเมียม เช่น เนยฝรั่งเศส AOP แป้งครัวซองต์ฝรั่งเศสบางกรอบ ไข่จากฟาร์มที่เน้นสุขภาพแม่ไก่ และวานิลลามาดากัสการ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ผ่านการพัฒนาและทดลองหลายรอบเพื่อให้ตอบโจทย์รสชาติของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน โลเคชั่นของร้านในทำเลเด่นอย่าง บรรทัดทอง และ เซ็นทรัลเวิลด์ ก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการดึงดูดทั้งลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยปัจจุบัน YOLK มียอดขายจากลูกค้าชาวไทยประมาณ 60% และจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40% โดยเฉพาะกลุ่มจากจีน เกาหลี ฮ่องกง และญี่ปุ่น
เทียบกับคู่แข่งในตลาด: YOLK กับนิยามมาตรฐานใหม่ของทาร์ตไข่ในไทย
แม้ทาร์ตไข่จะเป็นขนมที่มีอยู่ในตลาดมานาน และมีผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Bake Cheese Tart จากญี่ปุ่น หรือ Honolulu Cafe จากฮ่องกง ที่เข้ามาเปิดตลาดในไทย แต่ YOLK ได้แสดงให้เห็นถึงการผสานความเป็น ต้นตำรับสไตล์เอเชีย เข้ากับ รสนิยมของผู้บริโภคไทย ได้อย่างกลมกลืน
ขณะที่ผู้เล่นต่างชาติส่วนมากมักยึดตามสูตรเดิม YOLK กลับพัฒนาให้สูตรมีความละมุนและกลมกล่อมยิ่งขึ้น โดยลูกค้าหลายรายให้ความเห็นว่า “ทาร์ตของ YOLK มีความสดใหม่ หอม และกรอบกว่า” และ “รสชาติเข้าถึงง่าย ถูกปากคนไทยมากกว่าแบรนด์ต่างประเทศ”
กลยุทธ์ระยะสั้น-ระยะยาว: ขยายสาขา + สร้างอัตลักษณ์ผ่าน Collaboration
ในปี 2568 YOLK วางเป้าหมายในการขยายสาขาเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมขยายกำลังการผลิตในครัวกลาง เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
พร้อมกันนั้น ยังเดินหน้าสร้างแบรนด์ผ่าน กลยุทธ์ Collaboration กับแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มไทยที่มีแนวคิดคล้ายกัน โดยเฉพาะแบรนด์ที่เน้นการใช้วัตถุดิบคุณภาพ เช่นกรณีศึกษาการร่วมมือกับ MTCH แบรนด์มัทฉะสเปเชียลตี้ ซึ่งนำเสนอเมนู “ทาร์ตไข่มัทฉะโมจิสด” ได้อย่างน่าสนใจ และเป็นที่กล่าวถึงในกลุ่มนักชิมในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
“เรามองว่าในยุคที่การแข่งขันสูงมาก การทำแบรนด์เพียงลำพังอาจไม่เพียงพอ แบรนด์ไทยด้วยกันควรร่วมมือเพื่อเสริมพลังซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะ SME ที่ต้องการพื้นที่ในการเติบโตอย่างยั่งยืน” นายสารินกล่าว
เป้าหมายสุดท้าย: เป็นหนึ่งในเหตุผลที่นักท่องเที่ยว “ต้องมาลอง” เมื่อมาไทย
“เราต้องการให้ YOLK เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะนึกถึงเมื่อมาประเทศไทย เหมือนกับที่หลายคนอยากไปกินราเมนที่ญี่ปุ่น หรือมาการองที่ฝรั่งเศส”
ภายใต้วิสัยทัศน์ “Local to Global” The Holiday Group วางเป้าหมายระยะยาวในการผลักดันแบรนด์ YOLK สู่ตลาดต่างประเทศ และสร้างมาตรฐานใหม่ให้แบรนด์ขนมไทยได้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยคาดว่า หากสามารถขยายสาขาครบ 7 แห่งในปีนี้ YOLK จะสามารถทำยอดขายแตะระดับ 1 ล้านชิ้นต่อเดือนได้สำเร็จ
YOLK อาจเริ่มต้นจากทาร์ตไข่เพียงหนึ่งชิ้น แต่กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า ความชัดเจนของแบรนด์ + กลยุทธ์ที่แม่นยำ + ความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค คือสูตรสำเร็จที่ทำให้แบรนด์ท้องถิ่นสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นในยุคธุรกิจขนมอบเฟื่องฟูเช่นนี้