posttoday

ดาราเทวี : มหากาพย์ขัดแย้งแย่งชิงโรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่

24 เมษายน 2568

จากสวรรค์แห่งล้านนาสู่สนามประมูลเดือด 'ดาราเทวี' โรงแรมหรูเผชิญทั้งไฟไหม้และศึกชิงกรรมสิทธิ์สุดซับซ้อน และไม่มีทีท่าจะปิดฉากง่าย ๆ

ดาราเทวี: มหากาพย์โรงแรมหรูสู่บทใหม่หลังเปลวเพลิง

บนเนื้อที่กว่า 150 ไร่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ โรงแรมดาราเทวีเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและศิลปวัฒนธรรมล้านนาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ อาคารทรงเรือนไทยล้านนาที่ตั้งเรียงรายดั่งเมืองจำลองแห่งอดีตกาล บรรยากาศสงบ สวนไม้ใหญ่ และห้องพักที่เสมือนเรือนไทยแท้ ๆ ทั้งหมดนี้คือภาพจำของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เคยมาเยือน

ดาราเทวีไม่ได้เป็นเพียงโรงแรม แต่เป็นความฝันของ "สุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล" นักธุรกิจจากปัตตานีผู้หลงใหลศิลปะล้านนา เขาทุ่มเทงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท สร้างโรงแรมแห่งนี้ขึ้นในปี 2545 เพื่อเป็นทั้งแหล่งพักผ่อนระดับห้าดาวและศูนย์รวมศิลปะและวัฒนธรรมพื้นบ้าน

ดาราเทวี : มหากาพย์ขัดแย้งแย่งชิงโรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่
 

โรงแรมเคยได้รับการบริหารภายใต้แบรนด์ระดับโลกอย่าง แมนดาริน โอเรียนเต็ล ในช่วงปี 2547–2556 ก่อนที่จะยุติข้อตกลงและบริหารโดยคนไทยเอง แต่แม้จะมีภาพลักษณ์หรูหรา รายได้กลับไม่เพียงพอรองรับต้นทุนมหาศาล ภาระหนี้สินเริ่มสะสม กระทั่งเกิดการเปลี่ยนมือมาอยู่ภายใต้บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC)

การเปลี่ยนเจ้าของไม่อาจหยุดยั้งปัญหาการเงิน โรงแรมถูกศาลล้มละลายกลางสั่งเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในปี 2566 และสิ่งที่ตามมาคือมหากาพย์การประมูลที่ทั้งซับซ้อนและดุเดือด

ดาราเทวี : มหากาพย์ขัดแย้งแย่งชิงโรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่

คู่ขัดแย้งหลักในการแย่งชิงสิทธิ์ครอบครองทรัพย์สินของโรงแรมคือ บริษัท เมฆสวัสดิ์ และบริษัท I Thermal ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ IFEC มีการเคาะราคาในการประมูลสูงถึง 69 ครั้ง ก่อนที่ I Thermal จะชนะไปด้วยราคาสุดท้าย 3,594 ล้านบาท ทว่าเรื่องราวยังไม่จบ มีการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อท้าทายความชอบธรรมของการประมูล พร้อมกับข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ประกอบด้วยโฉนดกว่า 40–50 แปลง

ดาราเทวี : มหากาพย์ขัดแย้งแย่งชิงโรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่

ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ข่าวสะเทือนขวัญก็เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2567 เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณเรือนไม้บางส่วนของโรงแรม โครงสร้างไม้เก่าแก่ที่เป็นจุดเด่นถูกเผาทำลาย แม้เหตุการณ์จะควบคุมได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้ผู้คนสงสัยถึงชะตากรรมของโรงแรมแห่งนี้ว่าจะดำเนินต่อไปในทิศทางใด

คำตอบปรากฏขึ้นจากปากผู้บริหารใหม่ของโรงแรมซึ่งยืนยันชัดเจนว่า ดาราเทวีจะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไป โดยมีแผนฟื้นฟูและปรับปรุงครั้งใหญ่ ทั้งในด้านกายภาพและการตลาด เพื่อพาโรงแรมกลับมายืนหยัดเป็นจุดหมายระดับโลกของนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

ดาราเทวี ชี้แจงเหตุไฟไหม้เรือนสปาเก่า ไม่กระทบพื้นที่จัดงาน

ล่าสุด ทางโรงแรมดาราเทวีได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบเฉพาะเรือนสปาเก่าเท่านั้น ไม่ลุกลามไปยังส่วนอื่นของโรงแรม และไม่ได้กระทบกับพื้นที่จัดงาน “กาดดาราเทวี Summer Music in the Garden” แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมงาน ทางโรงแรมได้ตัดสินใจเลื่อนการจัดงานจากเดิมวันที่ 25–27 เมษายน ออกไปเป็นวันที่ 1–4 พฤษภาคม 2568

นอกจากนี้ ผู้บริหารโรงแรมยังยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่กระทบต่อแผนการพัฒนาธุรกิจในระยะยาว พร้อมเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท

ดาราเทวี : มหากาพย์ขัดแย้งแย่งชิงโรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่

ราคาที่ดินของโรงแรมดาราเทวี

โรงแรมตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 150 ไร่ แบ่งเป็นโฉนดที่ดิน 40-50 แปลง โดยราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ในปี พ.ศ. 2566 – 2569 สำหรับแปลงที่ติดถนนสายหลัก (ทางหลวงหมายเลข 1006) อยู่ที่ประมาณ 71,000 บาทต่อตารางวา

โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจโรงแรมหรูในประเทศไทย ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งทางเศรษฐกิจ การบริหาร และกฎหมาย ปัจจุบัน โรงแรมยังคงอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ และมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากทั้งภาครัฐและเอกชน

ดาราเทวี : มหากาพย์ขัดแย้งแย่งชิงโรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่