เจ้าท่าเปิดแผนสร้างท่าเทียบเรือสำราญ จ.กระบี่-เกาะสมุย

กรมเจ้าท่า เปิดแผนสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ จ.กระบี่-เกาะสมุย ดีเดย์ลงพื้นที่ชี้แจงชาวบ้าน 21 ก.ค.นี้ ระบุ  “ตราด-ประจวบฯ” เกิดขึ้นในอนาคตแน่

นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมเพื่อดำเนินโครงการสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise) จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย จ.กระบี่ และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี โดยจะเริ่มลงพื้นที่ชี้แจงข้อมูลโครงการได้ในวันที่ 21 ก.ค.และวันที่ 23 ก.ค.นี้

นายจุฬา กล่าวว่า เมื่อชี้แจงข้อมูลแล้วเสร็จก็จะเข้าสู่กระบวนการทางวิชาการ ซึ่งคาดว่าภายในเดือน ก.ย.นี้ จะได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินโครงการในพื้นที่ใดของ จ.กระบี่ และ อ.เกาะสมุย ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) ต่อไป

“กรมเจ้าท่าจะเตรียมออกแบบและเตรียมโครงการไว้ แต่คงจะให้เอกชนเข้ามาลงทุน” นายจุฬา กล่าว

สำหรับท่าเทียบเรือสำราญ กรมเจ้าท่าเคยศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ วิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม ไปแล้วตั้งแต่ปี 2547 พบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสร้างได้ในพื้นที่ 33 แห่ง แบ่งเป็นฝั่งอันดามัน 11 แห่ง และฝั่งอ่าวไทย 22 แห่ง แต่ต้องพิจารณาความเหมาะสมเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวด้วย เบื้องต้นคาดว่า จ.ตราด และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในอนาคต

นายจุฬา กล่าวอีกว่า ประเทศไทยจะสร้างได้จากกิจกรรมที่เกิดขึ้นตั้งแต่เรือจอด อาทิ ดูแลเรือ ซ่อมเรือ บริการอาหารบนเรือ นอกจากนี้โดยปกติแล้วเรือสำราญจะเข้ามาในประเทศไทยได้ 180 วัน ซึ่งท่าเทียบเรือก็จะได้เงินจากค่าจอดเรือแปรผันตามขนาดเรือ กำหนดอัตราค่าจอดอยู่ที่ฟุตละ 30 บาท

“ทุกวันนี้ เมื่อเรือสำราญเข้ามาในประเทศไทยก็จะไปจอดที่ภูเก็ตเป็นหลัก แต่กรมเจ้าท่าจะทำให้ทริปส์เริ่มต้นและสิ้นสุดที่กระบี่และเกาะสมุย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น” นายจุฬา กล่าว

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัทปัญญาคอนซัลแตนท์ และบริษัทนิวแอสเซทเอดไวเซอรี่ ทำการศึกษาและสำรวจความเหมาะสมใน จ.กระบี่ และ อ.เกาะสมุย โดยระยะเวลาดำเนินการปี 2558-2559 งบประมาณ 44.79 ล้านบาท