ปราบทัวร์ศูนย์เหรียญดันราคาแพ็คเกจจีนเที่ยวไทยสูงเท่ายุโรป
บริษัทนำเที่ยวชี้ปราบทัวร์ หลังปราบทัวร์ศูนย์เหรียญส่งผลราคาทัวร์จีนเที่ยวไทยขยับเท่ากับไปมัลดีฟส์หรือยุโรป
บริษัทนำเที่ยวชี้ปราบทัวร์ หลังปราบทัวร์ศูนย์เหรียญส่งผลราคาทัวร์จีนเที่ยวไทยขยับเท่ากับไปมัลดีฟส์หรือยุโรป
แหล่งข่าวจากบริษัทนำเที่ยวที่ทำตลาดคนจีนเที่ยวไทย เปิดเผยว่า หลังจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของรัฐบาล ส่งผลให้ราคาแพ็กเกจทัวร์ประเทศไทยสูงขึ้นมาก จากเดิมขั้นต่ำสุดไม่ต้องจ่ายค่าแพ็กเกจที่ต้นทางเลย ไปจนถึงบริษัทนำเที่ยวต้องจ่ายเงินซื้อค่าหัวนักท่องเที่ยว 800-1,000 หยวน หรือประมาณ 4,000-1 หมื่นบาท แล้วรอเก็บเงินส่วนแบ่งจากการที่คนจีนมาช็อปปิ้งในไทย เริ่ีมมีการปรับค่าแพ็กเกจทัวร์ เริ่มต้นอยู่ที่ 1,300-1,500 หยวน หรือประมาณ 6,500-7,500 บาท
ทั้งนี้ ราคาแพ็กเกจทัวร์ที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าทัวร์เพิ่มขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท/คน เท่ากับค่าทัวร์ไปมัลดีฟส์ ญี่ปุ่น หรือยุโรป ซึ่งการปรับวิถีการทำตลาดใหม่ดังกล่าวอาจเป็นผลดีในอนาคต แต่คงต้องรอหลังจากเดือน ต.ค.ไปแล้วจึงจะเห็นทางออกที่ชัดเจนขึ้น
“ที่ผ่านมาประเทศที่คนจีนไปเที่ยวแล้วจะไม่มีเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ จุดหมายที่ไม่มีอะไรให้ช็อปปิ้ง ขณะที่จุดหมายที่ทำให้เกิดทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ มีที่ให้ช็อปปิ้ง ปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้เกิดกลยุทธ์อาศัยการใช้จ่ายของคนจีนที่มาเที่ยวเพื่อชดเชยค่าทัวร์ที่ถูกหรือที่ต้องซื้อหัวนักท่องเที่ยวให้มา”
สำหรับประเทศไทย จุดหมายที่ยังขายได้เหมือนเดิมหลังปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ สมุย เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการช็อปปิ้ง และขายได้ราคาดีมานานแล้ว หลังจากนี้คงไม่มีผลกระทบ ส่วนเชียงใหม่ มีระบบช็อปปิ้งแต่ส่วนน้อย จึงกระทบไม่รุนแรง ขณะที่ภูเก็ต ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญดีขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะผู้ประกอบการจับมือกันปรับฐานตลาดหลังจับกุมบริษัท ไท่ลี่ ทำให้ผู้ประกอบการมองเห็นแล้วว่าภาครัฐเอาจริงจัดการทัวร์ศูนย์เหรียญจึงยอมปรับตัว
แหล่งข่าวระบุว่า เมื่อมีการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญจริงจัง จากกรณีจัดการบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จึงไม่กระทบ ต่างจากกรุงเทพฯ และพัทยา ที่กระทบหนักที่สุด เพราะผู้ประกอบการไม่คิดว่าภาครัฐจะจริงจังก่อนหน้านี้ไม่มีใครปรับตัวก่อน แต่หลังกรณีบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต ก็ทำให้มีการตื่นตัวมากขึ้นและปรับตัวรับมือเหตุการณ์ดังกล่าว