LEO Coupe เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังจะบินได้
รถบิน เทคโนโลยีที่เราเห็นกันตามสื่อบันเทิงนานาชนิด ในปัจจุบันการพัฒนาเป็นรูปร่างจนบางส่วนถึงขั้นเปิดให้สั่งจองทดสอบมายาวนาน แต่ล่าสุดรถบินจะถูกยกระดับขึ้นอีกครั้งด้วยเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่จะช่วยให้ตัวรถสามารถขับเคลื่อนแนวดิ่งได้อย่างสมบูรณ์
รถบินได้คือเทคโนโลยีที่เรามักได้เห็นตามสื่อประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือการ์ตูนที่อยู่ในโลกอนาคตหลายเรื่องต่างมีรถบินได้เป็นเอกลักษณ์ หลายบริษัทต่างทุ่มเทความพยายามเพื่อพัฒนาให้รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถใช้งานในฐานะอากาศยานในสักวัน
แน่นอนว่าช่วงเวลาที่ผ่านมามีการพัฒนารถบินขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ ล่าสุดเริ่มเป็นรูปร่างและผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของหลายประเทศจนใกล้ออกวางจำหน่าย ทำให้ในไม่ช้าคาดว่าเราน่าจะได้เห็นรถบินออกมาโลดแล่นตามท้องถนนและฟากฟ้า
และล่าสุดรถบินกำลังพัฒนาได้อีกขั้นเมื่อมีการนำเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้ามาใช้งานด้วยเช่นกัน
LEO Coupe รถบินพลังงานไฟฟ้า
ผลงานรถบินได้คันนี้มาจากฝีมือของบริษัท LEO Flight สตาร์ทอัพจากสหรัฐฯที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ได้เปิดตัวรถยนต์จากการผสมผสานรถยนต์ไฟฟ้าเข้ากับระบบอากสาศยานแนวดิ่ง(eVTOL)หรือการบินขึ้นแบบเฮลิคอปเตอร์ ก่อนกลายเป็น LEO Coupe รถบินพลังงานไฟฟ้า
จากข้อมูลที่เปิดเผยมา LEO Coupe จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ระบบ eVTOL จึงสามารถยกรถให้ลอยขึ้นรวมถึงบินขึ้นลงในแนวดิ่งโดยไม่ต้องอาศัยรันเวย์ ตัวถังถูกออกแบบจากวัสดุอะลูมิเนียมจึงมีน้ำหนักเบา ขับเคลื่อนด้วยไอพ่นขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางราว 11 เซนติเมตร เป็นจำนวนกว่า 200 ตัว ซึ่งจะช่วยให้ตัวรถสามารถบรรทุกโดยสารได้ 3 คน รับน้ำหนักได้ราว 231 กิโลกรัม
ความเร็วสูงสุดในโหมดการบินอยู่ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนในโหมดรถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำความเร็วได้ถึง 400 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีระยะการวิ่งสูงสุด 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง จากขุมพลังแบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อนขนาด 66 กิโลวัตถ์ที่เป็นแหล่งพลังงานหลัก
จุดเด่นอีกอย่างของ LEO Coupe นอกจากความสามารถในการบินคือขนาดที่กะทัดรัด สามารถใช้งานเป็นยานพาหนะส่วนตัวที่ลงจอดได้ในทุกพื้นที่แม้จะเป็นพื้นที่คับแคบ อีกทั้งมีระบบรองรับช่วยเหลือการบินเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการบินสะดวกต่อการเรียนรู้
ปัจจุบัน LEO Coupe อยู่ในขั้นตอนการพัฒนารุ่นต้นแบบอย่าง LX-1 ที่มีเพียงโครงอะลูมิเนียมติดตั้งระบบขับเคลื่อนและคันบังคับ แต่ทั้งหมดนี้เป็นไปตามแผนการพัฒนา โดยทางบริษัทมีการทดสอบโดรนพลังไฟฟ้าขนาดเล็ก ArcSpear ที่ใช้งานระบบขับเคลื่อนแบบเดียวกันและประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม จึงเชื่อว่าการทดสอบจะประสบความสำเร็จเช่นกัน
นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่มีเกี่ยว LEO Coupe ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดไปกว่านี้ ด้วยความอยู่ในขั้นตอนการพัฒนารวมถึงยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายแน่นอน แต่คาดว่าการทดสอบจะเสร็จสิ้นและพร้อมเปิดให้สั่งจองในอีกไม่ช้า สนนราคาอยู่ที่คันละ 459,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 16 ล้านบาท)
รถบินคันอื่นบนโลก
แน่นอนแนวคิดรถบินได้ไม่ใช่ของใหม่แต่เป็นเรื่องที่ผู้คนพยายามพัฒนามายาวนาน นอกจาก LEO Coupe ของสหรัฐฯเอง บนโลกยังมีความพยายามพัฒนารถบินได้รูปแบบอื่นขึ้นมาเช่นกัน อย่าง AirCar รถยนต์บินได้อีกคันจากบริษัท Klein Vision แห่งสโลวาเกีย ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ BMW ขนาด 1.6 ลิตร
AirCar เป็นส่วนผสมระหว่างรถยนต์และเครื่องบิน สามารถบินในอากาศได้มากถึง 1,000 กิโลเมตร เพดานการบินสูงสุด 5,500 เมตร ขับเคลื่อนอยู่บนอากาศได้ยาวนานกว่า 40 ชั่วโมง และล่าสุดหลังผ่านการทดสอบการบินอย่างเข้มงวด ตัวรถก็ผ่านมาตรฐาน สำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งยุโรป(EASA) และพร้อมสำหรับผลิตจำนวนมากในไม่ช้า
ข้อดีของ AirCar คือระบบการบินของตัวรถนำมาจากเครื่องบินทั้งหมด สำหรับผู้ที่ขับเครื่องบินได้อยู่แล้วจะสามารถทำความเข้าใจได้ทันที สามารถนำมาใช้งานในฐานะเครื่องบินแล้วลงจอดเพื่อเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบรถตามปกติได้ทันที ช่วยให้การเดินทางสะดวกและคล่องตัวขึ้นกว่าเดิม
แต่ AirCar เองก็ยังมีข้อจำกัดอีกหลายด้าน เช่น พลังขับเคลื่อนยังใช้เครื่องยนต์สันดาปอาศัยน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง, หากต้องการใช้รถบินจำเป็นต้องมีใบอนุญาตการบินแบบเดียวกับเครื่องบิน รวมถึงระบบการบินที่มีต้นแบบจากเครื่องบินทำให้ต้องใช้รันเวย์หรือพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อร่อนลง เป็นข้อจำกัดที่ทำให้รถยนต์ชนิดนี้ไม่คล่องตัวนัก
อีกหนึ่งรถบินได้ที่เป็นรูปร่างคือ PAL-V Liberty รถบินจากเนเธอร์แลนด์ โดดเด่นจากรถที่มีเพียงสามล้อไว้ใช้งาน และใบพัดขนาดใหญ่อยู่บนหลังคามีลักษณะคล้ายเฮลิคอปเตอร์ จนมีลักษณะใกล้เคียงกับการเป็นอากาศยานมากกว่ารถยนต์ แต่ก็สามารถใช้งานในฐานะรถยนต์ทั่วไปได้เช่นกัน
ความเร็วสูงสุดของรถบินคันนี้คือ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง รับน้ำหนักได้มากสุด 246 กิโลกรัม เพดานการบินอยู่ที่ 3,500 เมตร สามารถบินเป็นระยะทางสูงสุด 500 กิโลเมตร ในโหมดรถยนต์สามารถทำความเร็วได้ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง และแม้จะใช้พื้นที่เป็นระยะทางราว 350 เมตรเพื่อบินขึ้น แต่สามารถลงจอดภายในพื้นที่เพียง 30 เมตรเท่านั้น จึงถือเป็นรถบินที่มีความคล่องตัวสูงเช่นกัน
น่าเสียดายที่เครื่องยนต์ของ PAL-V Liberty ยังคงเป็นเครื่องยนต์สันดาป อีกทั้งแม้ได้รับอนุญาตจากองค์กรความปลอดภัยทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ แต่การใช้งานรถบินคันนี้ก็ต้องได้รับการฝึกฝนและใบอนุญาตการบินอย่างเป็นทางการอยู่ดี สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 399,000 ดอลาร์สหรัฐฯ(12.5ล้านบาท)
อย่างที่ได้เห็นอนาคตของรถบินอาจไม่ไกลอย่างที่คิด เมื่อเริ่มมีการวางขายรถบินออกสู่ตลาดกันมากขึ้นไม่ช้าอาจเป็นยานพาหนะแสนสะดวกใช้งานกันแพร่หลาย แต่การคาดหวังให้รถชนิดนี้แทนที่รถยนต์ที่เรารู้จักกันอาจเป็นเรื่องยากอยู่สักหน่อย ทั้งในส่วนของราคาต่อคันรวมถึงการต้องได้รับใบอนุญาตการบินเพื่อใช้งานก็ตาม
น่าเสียดายเทคโนโลยีรถบินไม่ได้รับการส่งเสริมในการพัฒนามากนัก ด้วยการใช้งานรถบินมีความเสี่ยงทางความมั่นคงค่อนข้างมาก เรายังไม่มีมาตรการควบคุมรองรับ จึงมีความเสี่ยงหลายด้านทั้งในด้านอาชญากรรมและความมั่นคงของประเทศ ทำให้แม้ออกมาวางขายแต่อาจไท่ได้รับอนุญาตใช้งานทั่วไปเหมือนกรณีกฎหมายควบคุมโดรนในประเทศไทย
ที่มา
https://www.grandprix.co.th/pal-v-liberty/
https://www.autodeft.com/varietyscoop/pal-v-liberty-flying-car-commercial-sell
https://www.springnews.co.th/spring-life/820388
https://www.bbc.com/thai/international-57665853
https://newatlas.com/aircraft/leo-flight-lx-1-prototype/