Home Automation 5 เทรนด์ระบบบ้านอัจฉริยะ 2022 เมื่อบ้านคุณฉลาดขึ้น
โลกในบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home หรือ Home Automation ใดๆ ก็สุดแท้จะขนานนาม ไม่ว่าอุปกรณ์ใดใกล้มือคุณก็ดูเหมือนจะฉลาดไปหมด บ้านที่จะคุณจะอยู่ต่อไปก็เช่นกัน เมื่อ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาควบคุมทุกสิ่งได้ดังใจหมาย ลองมาดูกันว่า 5 เทรนด์บ้านอัจฉริยะจะมีอะไรบ้าง
คุณอยู่นอนบนเตียง เสียงเพลง we will rock you จากนาฬิกาปลุกดังขึ้นเบาๆ ก่อนค่อยๆ ดังขึ้น พร้อมกับม่านหน้าต่างค่อยๆ ม้วนขึ้นช้าๆ อนุญาตให้แสงยามเช้าอ่อนๆ สาดเข้ามากระทบใบหน้า พร้อมกับที่เปลือกตาคุณค่อยๆ เปิดรับแสงสว่างของวันใหม่ ระบบสั่งการ voice command รอรับคำสั่ง ว่าคุณจะเลือกเปิดข่าวเช้าบน Smart TV ช่องไหน ก่อนที่ Smart Mirror กระจกอัจฉริยะของคุณจะทำหน้าที่เชื่อมต่อคุณเข้ากับโลกทั้งใบ กระจกที่เหมือนแท็บเล็ตใช้งานได้หลากหลาย มีหน้าปัดแสดงเวลา บอกอุณหภูมิ เช็กสภาพอากาศ ราคาหุ้น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง สามารถเปิดเพลง ดูวิดีโอจากโทรศัพท์ หรือมี Bluetooth เพื่อใช้คุยโทรศัพท์ได้ และอีกมากมายได้ ในขณะที่คุณยืนแปรงฟันหรือทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ
ทั้งหมดนี้คือโลกในบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home หรือ Home Automation ใดๆ ก็สุดแท้จะขนานนาม เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าอุปกรณ์ใดใกล้มือคุณก็ดูเหมือนจะฉลาดไปหมด ใช่ไหม?
บ้านที่จะคุณจะอยู่ต่อไปก็เช่นกัน เมื่อ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาควบคุมทุกสิ่งได้ดังใจหมาย สั่งของในตู้เย็นให้คุณเมื่อมีอะไรหมด โทรเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดรายสัปดาห์ เตือนคุณในเรื่องต่างๆ ดุจพระเจ้าในบ้านดีๆ นี่เอง
ว่าแต่ บ้านอัจฉริยะ คืออะไร?
กล่าวให้ง่ายสั้น บ้านอัจฉริยะ คือ บ้านที่ใช้เทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things หรือ อินเทอร์เน็ตเป็นทุกสิ่งอย่าง ในการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงงานอีกหลาย ๆ อย่างที่บ้านอัจฉริยะหรือสมาร์ทโฮมสามารถทำได้ในโลกยุคดิจิทัล ที่คุณพร้อมจะสั่งและมันทำให้คุณได้!
และสำคัญคือ บ้านอัจฉริยะ ก็ต้องมีอุปกรณ์อัจฉริยะ หรือ Smart Device ที่สามารถควบคุมการทำงานและสั่งการได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เช่น เปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งในสิ่งที่อาจไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ผ้าม่าน หน้าต่าง ประตู ได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ในหรือนอกบ้าน ก็สามารถควบคุมทุกอย่างได้ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน
ตัวการสำคัญของทุกสรรพสิ่งว่ามันจะสมาร์ทหรือไม่ก็คือ “Internet of Things (IoT)” ที่กำลังทวีจำนวนเพิ่มสมาชิกให้สรรพสิ่งติดปีก 5G 6G มากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการคาดการณ์ว่า อุปกรณ์ IoT ประมาณ 5 หมื่นล้านเครื่องจะมีการใช้งานทั่วโลกภายในปี 2050
เพราะในปัจจุบันนี้ ด้วยเวลาที่รีบเร่งทำให้ผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งในชีวิตส่วนตัวและในบ้านของตน ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้บ้านอัตโนมัติ หรือ home automation ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
เรามาดูกันว่าเทรนด์ยอดนิยม 5 อันดับแรกของระบบอัตโนมัติภายในบ้านสำหรับผู้บริโภคที่ควรทราบในปี 2565 มีอะไรบ้าง
1. ใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างชาญฉลาด - Solar goes smart
ผู้ซื้อบ้านเริ่มมองหาอสังหาริมทรัพย์ที่มีแผงโซลาร์เซลล์หรือกีย์เซอร์พลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งอยู่แล้ว และสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อัจฉริยะทั้งหลายเพื่อการประหยัดพลังงานที่ไม่ยุ่งยากและรองรับความสะดวกสบายในระบบแบบ off-grid (คือระบบที่ผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ แล้วไม่ได้เชื่อมต่อเข้ากับระบบจำหน่าย ของการไฟฟ้านครหลวง หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) แม้ว่าพลังงานแสงอาทิตย์จะต้องลงทุนล่วงหน้า แต่ระบบก็จะคืนทุนให้คุณเองภายในเวลาไม่กี่ปี และยังมีความต้องการการบำรุงรักษาต่ำ
2. ระดับความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น - Streamline security
อัปเกรดระบบการรักษาความปลอดภัยในบ้านของคุณด้วยระบบแสงสว่างอัตโนมัติและเซ็นเซอร์ที่สามารถเปิดใช้งานจากระยะไกลและกำหนดเวลาได้ตามไลฟ์สไตล์และนิสัยของคุณ เช่น หากคุณกลับบ้านดึกบ่อยๆ ก็สามารถสั่งเปิดไฟระเบียงในเวลาที่คุณใกล้จะมาถึงได้
3. ระบบแบบบูรณาการที่ทำงานตอบโจทย์คุณ - Integration can work for you
บ้านอัจฉริยะกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความสามารถในการปรับแต่งสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับคุณและครอบครัวอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยแนวคิดที่ว่านี้ บ้านอัจฉริยะจึงควรทำงานได้ดีกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะจึงควรผสานรวมและควบคุมได้จากแอปเดียว คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญคือ “อย่าแบ่งความสนใจของคุณให้กับระบบปฏิบัติการหลายระบบ ให้มองหาการผสมผสานที่ราบรื่น ซึ่งช่วยลดความเครียดในการใช้งานและปรับปรุงการควบคุมของคุณ”
4. สร้างระบบอัตโนมัติของคุณเอง - Bring your own automation
เมื่อตั้งค่าบ้านอัจฉริยะ ความสามารถในการพกพา (portability) และความคล่องตัว (mobility) เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะคุณกำลังลงทุนในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณที่สุด – จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณต้องย้ายบ้าน เมื่อคุณติดตั้งคุณสมบัติอัจฉริยะทั้งหลายแหล่แล้ว คำตอบคือ ให้เก็บโครงสร้างพื้นฐานเก่าไว้ เพื่อให้คุณสามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเดิมได้เมื่อคุณย้ายออกไป โดยไม่ต้องทิ้งเทคโนโลยีไว้ข้างหลัง ซึ่งมันสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนบ้านอีกกี่หลัง
ตัวอย่างเช่น ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ซึ่งมีประโยชน์ยิ่งสำหรับกรณีนี้ เนื่องจากง่ายต่อการติดตั้งและทำงานได้กับระบบที่มีอยู่ หากคุณกำลังตั้งค่าบ้านอัจฉริยะเป็นครั้งแรก ปลั๊กอัจฉริยะหนึ่งหรือสองตัวเป็นวิธีที่ง่ายและเข้าถึงได้ เพื่อทดลองใช้สิ่งที่เหมาะกับคุณ ในทางกลับกัน หากคุณจะออกจากเมืองสักสองสามวัน คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าคุณปิดเครื่องทำน้ำร้อนหรือยัง เพียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วไปที่แอพบ้านอัจฉริยะเพื่อปิดเครื่องจากระยะไกล เท่านี้เอง!
5. บ้านอัจฉริยะจะกลายเป็นไลฟ์สไตล์ - Smart homes become a lifestyle
เนื่องจากการเชื่อมต่อ หรือ connectivity จะราบรื่นสะดวกโยธินขึ้น เราจึงเริ่มคาดหวังกับความสะดวกสบายที่ช่วยประหยัดเวลาได้ทุกที่ นอกจากเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นแล้ว ระบบอัตโนมัติในบ้านก็จะเป็นส่วนหนึ่งในนั้น และในที่สุดทุกคนก็จะคาดหวังถึงผลประโยชน์อันชาญฉลาดที่จะได้จากบ้านของพวกเขาแบบ live to earn
และในการออกแบบบ้านอัจฉริยะของคุณ ให้นึกถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณและจัดลำดับความสำคัญตามนั้น เริ่มจากระบบไฟอัจฉริยะ ระบบความปลอดภัย ความบันเทิง การทำความสะอาด และความสะดวกสบายอื่นๆ นี่เป็นโอกาสที่คุณจะใช้การควบคุมอย่างสร้างสรรค์ในบ้านที่เหมาะกับคุณที่สุด
อ้างอิง:
- https://www.solarhub.co.th/solar-information/solar-format/311-off-grid-solarcell
- https://www.dignited.com/90253/top-home-automation-trends-in-2022/
- https://www.ddproperty.com