กัดดาฟี ยังหลบหนี
ลูกชายคนโตของกัดดาฟี หลบหนีไปได้ ด้านกัดดาฟี ยังหลบหนีหาตัวไม่เจอ
ลูกชายคนโตของกัดดาฟี หลบหนีไปได้ ด้านกัดดาฟี ยังหลบหนีหาตัวไม่เจอ
กองกำลังฝ่ายต่อต้านสามารถเข้ายึดครองกรุงตริโปลีได้เกือบทั้งหมดแล้ว โดยเหลือพื้นที่เล็กน้อย เท่านั้นที่ฝ่ายจงรักภักดีต่อพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ยังสามารถคุมพื้นที่ได้อยู่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครรู้ว่ากัดดาฟีกำลังหลบซ่อนอยู่ที่ใด โดยยังมีเสียงปืนจากการต่อสู้กันอยู่ใกล้ๆกับบริเวณที่พักของกัดดาฟี
ขณะเดียวกันด้านแกนนำฝ่ายต่อต้านเปิดเผยว่า นาย มูฮัมหมัด กัดดาฟี ลูกชายคนโต และเป็นหนึ่ง ใน 3 ลูกชายของกัดดาฟีที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้นั้นสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ โดยทางด้าน นาย อาลี สุไลมาน โอจูลี ทูตลิเบียประจำสหรัฐกล่าวว่า ยังไม่รู้แน่ชัดว่า นาย มูฮัมหมัด กัดดาฟี นั้นสามารถหลบหนีไปได้อย่างไร
“เขาอาจจะได้รับการช่วยเหลือชิงตัวไปโดยกองกำลังที่ยังจงรักภักดีอยู่” โอจูลีเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็น
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า กองกำลังของกัดดาฟี ได้ยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 3 ลูก ที่เมืองมิสราตา ทางตะวันออกของกรุงตริโปลี และที่เมืองเซอร์เต เมืองบ้านเกิดของ กัดดาฟี โดยในจำนวนนั้นเป็นขีปนาวุธสกั๊ดรวมอยู่ด้วย 2 ลูก โดยกองกำลังนาโต้ระบุว่ายังไม่มีรายงานความเสียหายในขณะนี้ หรือรายงานผู้เสียชีวิตในขณะนี้ โดยนาโต้ประณามว่าเป็นการจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปที่พลเรือนผู้บริสุทธิ์โดยตรง
“แม้ว่าขีปนาวุธแบบพื้นดิน สู่พื้นดิน ของกัดดาฟีจะไม่ค่อยเที่ยงตรงนัก แต่ก็เป็นอาวุธที่อันตรายพอตัว การใช้อาวุธประเภทนี้ในเขตเมืองถือว่าไม่มีความรับผิดชอบเลย” นาโต้ แถลง
ทั้งนี้ กองกำลังนาโต้ และกองกำลังสหรัฐ แสดงความวิตกว่า กองกำลังของกัดดาฟี นั้นอาจจะเลือกที่จะถล่มใส่พลเรือนโดยตรงในการต่อสู้เฮือกสุดท้าย หลังจากที่กรุงตริโปลีถูกยึดไปแล้ว
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในกรุงตริโปลีนั้น มีเพียงพื้นที่บริเวณใกล้กับที่อาคารที่พักของกัดดาฟีเท่านั้น ที่กองกำลังฝ่ายรัฐบาลยังสามารถคุมเชิงได้อยู่ และยังเกิดการต่อสู้กันขึ้นตลอดเวลานับตั้งแต่กองกำลังฝ่ายต่อต้านเคลื่อนพลเข้าสู่เมืองหลวงเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นอกจากนั้นผู้สังเกตการณ์หลายรายยังเชื่อว่า กองกำลังฝ่ายสนับสนุนกัดดาฟีนั้นยังคงหลบซ่อนอยู่ในกรุงตริโปลีเป็นจำนวนมากด้วย แม้ว่าจะมีหลายคนยอมจำนนนมอบตัวกับฝ่ายต่อต้านแล้วก็ตาม ขณะที่ในเมืองรอบๆกรุงตริโปลีนั้นก็ยังเชื่อว่ายังเกิดการต่อสู้กันอยู่
ชาวกรุงตริโปลีได้ออกมาฉลองตามท้องถนน มีการชู 2 นิ้วเป็นเครื่องหมายแสดงชัยชนะ ขณะที่ผู้ขับขี่รถยนต์ก็พากันบีบแตรฉลอง และโบกธงของฝ่ายกบฏ หลายคนบอกว่าไม่เชื่อว่าจะมีวันนี้
ขณะที่หน้าที่บริหารประเทศตอนนี้ อยู่ที่สภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติ ซึ่งก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม และขณะนี้ได้รับการรับรองจากรัฐบาลกว่า 33 ประเทศว่ามีอำนาจในการบริหารลิเบียเป็นการชั่วคราว ผู้นำคือนาย มุสตาฟา อัลดุล จาลิล แผนระยะสั้นเน้นประคับประคองประเทศไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ทั้งนี้ ผู้นำทั่วโลกต่างเรียกร้องให้กัดดาฟี วัย 69 ปี ยอมมอบตัวเสียโดยดีเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุนองเลือดที่อาจจะเกิดขึ้น และขอให้ยอมเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างเรียบร้อย โดยทางด้าน บัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชติ ได้เรียกร้องให้ กัดาฟี ยอมเปลี่ยนถ่ายอำนาจโดยดี เพื่อ หลีกเลี่ยงการเสียเลือดเสียเนื้อไปมากกว่านี้ นอกจากนั้น เลขาธิการสหประชาชาติยังแสดงความยินดี ที่ นาย มุสตาฟา อับเดล จาลิล ผู้นำฝ่ายต่อต้านได้ให้การรับประกันว่าจะดูแลพลเรือนอย่างเต็มที่ด้วย
ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า กัดดาฟี ยังอยู่ในกรุงตริโปลีหรือไม่ ส่วนลูกชายของกัดดาฟีนั้น มีอยู่ทั้งหมด 7 คน โดยถูกจับกุมไปได้ 3 คน คือ นาย โมฮัมหมัด กัดดาฟี ลูกชายคนโตแต่ก็หลบหนีไปได้แล้ว ส่วน นาย เซอิฟ อัล อิสลามถูกจับกุมตัวได้, นาย ซาอาดี ถูกจับกุมได้ในกรุงตริโปลี,
ขณะที่อีก 4 คน คือ นาย ฮานนิบาล ยังคงหลบหนีอยู่, นาย มุสตาซิม ยังคงหลบหนีอยู่, นาย ซาอิฟ อัล อาหรับ ถูกสังหารไปตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน จากการโจมตีของนาโต้ และนาย คามิส ยังคงหลบหนีอยู่ แต่ก็มีข่าวลือว่าเขาอาจถูกสังหารไปแล้ว
ราคาน้ำมันไม่กระทบ
ทั้งนี้ ในภายหลังจากที่สถานการณ์ในลิเบียเดินหน้าใกล้สู่จุดยุติ แต่ปรากฏว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากตลาดเห็นว่า อาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งทีเดียวกว่าที่การผลิตน้ำมันจากลิเบีย จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่หยุดไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเบรนท์ ในอังกฤษ ปรับลดลวงเพียง 26 เซนต์ เท่านั้น มาอยู่ที่ 108.36 เหรียญสหรัฐต่อบาเรลล์ โดยในระหว่างการซื้อขาย ราคาได้ปรับลดลงไปเกือบ 2 เหรียญ
ส่วนราคาที่ไนเม็กซ์ ราคากลับเพิ่มขึ้นไปอีก 2.01 เหรียญ ไปอยู่ที่ 84.42 เหรียญสหรัฐต่อบาเรลล์
ทั้งนี้ ลิเบียเป็นประเทศที่มีน้ำมันสำรองมากที่สุดในแอฟริกา โดยมีกำลังการผลิตได้ราว 2 ล้านบาเรล์ต่อวัน หรือคิดเป็น 3% ของปริมาณน้ำมันสำรองในโลก โดยน้ำมันส่วนใหญ่จะถูกส่งออกไปยังยุโรปมากกว่า ดังนั้นสถานการณ์ในลิเบียจึงส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในยุโรป มากกว่าในสหรัฐ
ส่วนราคาหุ้นในนิวยอร์คนั้น ในช่วงแรกมีแรงซื้อเข้ามาอย่างคึกคักจากข่าวดีในลิเบียก่อนที่จะมีแรงเทขายออกมาในภายหลังเนื่องจากความวิตกกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซาในสหรัฐต่อไป ก่อนหน้าที่ นาย เบน เบอร์แนนคี จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ถึงเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 37 จุดหรือ 0.34% ไปอยู่ที่ 10,854 จุด ส่วนเอสแอนด์พี-500 ปรับขึ้น 0.29 จุด หรือ 0.03% เท่านั้น ไปอยู่ที่ 1,123.82 จุด และแนสแดกปรับขึ้น 3.54 จุด หรือ 0.15% ไปอยู่ที่ 2,345.38 จุด