หญิงแกร่งแห่งยุค
ข่าวการส่งยานอวกาศเสินโจวหมายเลข 10 ขึ้นสู่อวกาศกลายเป็นที่ฮือฮาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวการส่งยานอวกาศเสินโจวหมายเลข 10 ขึ้นสู่อวกาศกลายเป็นที่ฮือฮาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ครั้งนี้มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้นำยานขึ้นไปสำรวจอวกาศรวมอยู่ด้วย แม้เธอจะเป็นนักบินอวกาศหญิงลำดับที่ 2 ของประเทศที่มีโอกาสได้สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตนเองและประเทศชาติ แต่เรื่องราวชีวิตของเธอก็กลายเป็นที่สนอกสนใจของคนทั้งประเทศไปแล้วในขณะนี้ เราลองไปดูเกร็ดชีวิตของหญิงแกร่งคนนี้กันว่ามีอะไรดีๆ ที่น่าเรียนรู้กันบ้าง
หวางย่าผิง เป็นเด็กสาวที่เกิดในครอบครัวชาวไร่ชาวนาในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง เธอนับเป็นชาวเยียนไถ (มณฑลซานตง) โดยแท้จริง คุ้นเคยกับการปลูกเชอร์รี่มาตั้งแต่ยังเด็ก แน่นอนว่าชีวิตไม่ได้สุขสบายเหมือนกับเด็กที่เกิดในเมืองใหญ่ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกนานัปการ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นเด็กตั้งใจเรียน ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้เกิดจากความมานะบากบั่นและไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากใดๆ ของเธอ
เธอเอาจริงเอาจังกับการเรียนมาตั้งแต่เด็ก จัดเป็นเด็กผลการเรียนเป็นเลิศ มีมารยาทงามและรู้จักกาลเทศะ ความใฝ่ฝันในวัยเด็กก็เหมือนกับตัวละครในหนังฮ่องกงเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน นั่นคืออยากเป็นหมอหรือทนายความ แต่แล้วชะตาก็ลิขิตให้เธอได้เลือกเดินบนเส้นทางสู่การเป็นนักบินอวกาศ กล่าวคือในปี ค.ศ. 1997 มีการเปิดรับสมัครนักบินหญิงรุ่นที่ 7 ของประเทศ เดิมทีเธอก็ไม่ได้อยากเข้าสอบเนื่องจากรู้ว่ามีการแข่งขันสูง แต่ก็ทนการรบเร้าของเพื่อนไม่ไหว จึงสมัครสอบแบบเล่นๆ ดู ปรากฏว่าเธอสอบผ่านฉลุย และได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนการบินหญิงรุ่นที่ 7 ของประเทศ
ความใฝ่ฝันสู่การเป็นนักบินอวกาศของเธอเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 2003 เช่นเดียวกับใครหลายคน เหตุเพราะวันที่ 15 ต.ค. ในปีเดียวกัน หยางลี่เหว่ย ในฐานะนักบินอวกาศคนแรกของประเทศนำยานอวกาศเสินโจวหมายเลข 5 ขึ้นสู่อวกาศและเดินทางกลับมาพร้อมกับความสำเร็จอย่างท่วมท้น กลายเป็นฮีโร่ในดวงใจของชาวจีนทั้งประเทศและจุดประกายความฝันในการเป็นนักบินอวกาศของคนจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็มีชื่อของหวางย่าผิงรวมอยู่ด้วย
ความสะสวยไม่ได้เป็นคุณสมบัติเพียงอย่างเดียวที่เธอมี หากแต่คุณค่าของเธออยู่ที่การเป็นผู้มีความอดทนอดกลั้นสูงเกินกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งพึงมี ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังมีความเด็ดเดี่ยวในการผ่านบททดสอบนานัปการ กล้าที่จะเผชิญกับความเสี่ยงและยืนหยัดอยู่บนปณิธานอันแน่วแน่ที่จะก้าวไปสู่ฝันให้สำเร็จ หากเธอเป็นหญิงสาวที่หน้าตาธรรมดา เธอก็ยังเป็นบุคคลที่มีคุณค่าต่อประเทศชาติ ไม่ต่างจากการเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสะสวยแม้แต่น้อย
หลายคนเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคนที่เกิดในยุคหลังทศวรรษที่ 80 ซึ่งเดิมทีถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นเด็กยุคใหม่ที่มักไม่ค่อยเอาถ่าน เหตุเพราะหลังจากที่เธอสามารถการันตีถึงความสามารถของคนที่เกิดในยุคนี้ให้คนทั่วไปได้เห็น การมีโอกาสได้ขึ้นไปสำรวจอวกาศด้วยวัยเพียง 33 ปีของเธอ ยังทำให้เบื้องหลังความสำเร็จในด้านการสำรวจอวกาศได้รับการเปิดเผยมากขึ้น กล่าวคือ ในบรรดานักวิจัยทางด้านอวกาศของจีนที่มีอยู่กว่า 15,000 คนนั้น มีอยู่ 10,000 คนที่เกิดในยุคหลังทศวรรษที่ 80 พวกเขามีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 3133 ปี ปัจจุบันผู้ที่กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในสถาบันเทคนิคทางอวกาศแห่งชาติกว่าพันคน ในจำนวนนี้ 900 คนเป็นผู้ที่เกิดในยุคหลังทศวรรษที่ 80 ทั้งสิ้น
คำพูดของเธอที่ว่า “การดำเนินชีวิตสามารถดูแลเธอเฉกเช่นน้องสาวคนหนึ่ง แต่หากเป็นชีวิตการทำงาน เธอหวังว่าจะเป็นเพื่อนร่วมสมรภูมิที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชาย” ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวและกล้าแกร่งของเธอ นอกจากนี้ เธอยังเป็นบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นว่า คนที่เกิดช่วงหลังทศวรรษที่ 80 เป็นกลุ่มคนที่กล้าท้าทายกับสิ่งใหม่ๆ และไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่ไร้ประโยชน์ดังที่รู้สึกกันในทุกวันนี้
การเกิดในครอบครัวชาวนาที่เติบโตมาพร้อมกับประสบการณ์การทำไร่ทำสวน ย่อมบ่มเพาะให้เธอเป็นเด็กที่มีความอดทน และมีความเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ความอดทนของเธอหาได้น้อยมากสำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ว่าจะทำอะไร มักจะตั้งเป้าหมายและพยายามไขว่คว้ามาให้จงได้ การเป็นนักบินอวกาศหญิงก็เช่นกัน เธอเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ประเทศจีนมีนักบินชายและนักบินหญิง ตอนนี้ก็เริ่มปรากฏว่ามีนักบินอวกาศชายแล้ว แต่เหตุใดจึงยังไม่มีนักบินอวกาศหญิง” นั่นเป็นความคิดที่เกิดขึ้นกับเธอราว 10 ปีก่อน
นับแต่ปี ค.ศ. 1998 เป็นต้นมา หวางย่าผิง เริ่มเข้าสู่วงการการบิน ตลอดระยะเวลา 9 ปีแห่งชีวิตนักบินหญิง เธอมีโอกาสขับเครื่องบินหลากหลายชนิด มีชั่วโมงบินมากถึง 1,600 ชั่วโมง ในจำนวนนี้รวมถึงการสาธิตการบินนับครั้งไม่ถ้วน การเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบินพ่นสารเคมีเพื่อไม่ให้ฝนเทลงมาในช่วงพิธีเปิดปักกิ่งเกมส์ ปี ค.ศ .2008 การขนข้าวของเครื่องใช้จำเป็นไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุแผ่นดินไหวที่เวิ่นชวน เหตุภัยแล้งในมณฑลซานตง การทำฝนเทียมในเมืองจุงกิง เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นภารกิจการบินสำคัญที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวนมาก ประสบการณ์การบินที่โชกโชนของเธอทำให้ได้รับคัดเลือกเป็นนักบินอวกาศหญิงจำนวนน้อยคนที่มีอยู่ในขณะนี้
ส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวชีวิตของเธอกลายเป็นจุดสนใจของคนทั่วไปคงเป็นเพราะเธอไม่ได้เกิดมาในตระกูลร่ำรวย ไม่ได้เป็นลูกของข้าราชการที่มีเส้นมีสาย แต่กลับสามารถผลักดันตัวเองขึ้นสู่การเป็นนักบินอวกาศหญิงเป็นผลสำเร็จ ถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจและเอาเป็นแบบอย่างมาก ก่อนที่เธอจะขึ้นไปปฏิบัติภารกิจบนอวกาศอย่างเป็นทางการ บรรดาสื่อแขนงต่างๆ ก็ตั้งฉายานามให้เธอมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “นักบินอวกาศหญิงยุคหลังทศวรรษที่ 80 คนแรก” “เรียนดีคุณธรรมเด่น” “ฉลาดและมีไหวพริบปฏิภาณ” “ร่าเริงอยู่ในโอวาท” สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงมุมมองทางด้านความสามารถและคุณธรรมที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในตัวเธอมากกว่าความสวยที่เป็นประตูด่านแรกในการสัมผัสกับเธอ
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการนำยานอวกาศเสินโจวหมายเลข 10 กลับสู่ผืนแผ่นดินจีนเป็นผลสำเร็จ เรื่องราวดีๆ ของเธอคงได้รับการเปิดเผยมากขึ้น และถือเป็นตัวอย่างชีวิตของบุคคลที่สะท้อนให้เห็นถึงคำกล่าวที่ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ได้เป็นอย่างดี