posttoday

ความสัมพันธ์จีนญี่ปุ่นสุดขม

09 สิงหาคม 2556

โพลชี้คนจีนญี่ปุ่น ไม่ชอบขี้หน้ากันมากที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ

โพลชี้คนจีนญี่ปุ่น ไม่ชอบขี้หน้ากันมากที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ

การสำรวจทัศนคติของคนจีนและคนญี่ปุ่นที่มีต่อกัน ซึ่งจัดทำร่วมกันโดยหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี และเกนรอน เอ็นพีโอ สถาบันทำงานระดับสมองของญี่ปุ่น พบว่าชาวจีนและชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต่างมองกันในแง่ร้าย และไม่ชอบหน้ากันและกันมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ความสัมพันธ์ทางการเมืองและการทหารระหว่างประเทศในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด

ทั้งนี้ ผลสำรวจประชากร 2 ชาติในทุกสาขาอาชีพกว่า 4,000 คน พบว่าชาวญี่ปุ่นมองชาวจีนในแง่ลบมากถึง 92.8% ซึ่งไม่แตกต่างจากทัศนคติด้านลบที่ชาวจีนมีต่อญี่ปุ่นที่สูงถึง 90.1% โดยนับเป็นระดับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติที่ไชน่า เดลี กล่าวว่าจัดอยู่ในขั้นเลวร้ายสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี

“ระดับความสัมพันธ์ยังย่ำแย่มากกว่าในปี 2548 ที่นายกรัฐมนตรี จุนอิชิโร โคอิซูมิ แห่งญี่ปุ่น เดินทางไปสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิ เพื่อแสดงความเคารพต่อทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสงครามหลายต่อหลายครั้ง” รายงานจากไชน่า เดลี ระบุเพิ่มเติม

สำหรับชนวนที่ทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศย่ำแย่มากขึ้น เป็นผลพวงมาจากประเด็นเรื่องการอ้างสิทธิเหนือพื้นที่พิพาททางทะเลบริเวณหมู่เกาะเซนกากุ หรือเกาะเตียวหยู ในทะเลจีนตะวันออก โดยชาวญี่ปุ่นเลือกให้ประเด็นพิพาทดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักถึง 53.2% ขณะที่ชาวจีนใช้เป็นเหตุผลที่ไม่ชอบญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นที่ 77.6% จากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 39.8%

นอกจากนี้ มากกว่า 3 ใน 4 ของชาวจีนผู้ตอบแบบสอบถาม เชื่อว่าความขัดแย้งจะบานปลายถึงขั้นที่กองทัพของทั้งสองฝ่ายจะเข้าต้องมาเผชิญหน้ากันในอนาคตภาคหน้า แต่เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามชาวญี่ปุ่นกลับไม่คิดว่าชนวนขัดแย้งเรื่องเกาะพิพาทจะนำไปสู่การโจมตีของกองทัพจีน

อย่างไรก็ตาม แม้ไม่เชื่อว่าเหตุการณ์จะบานปลาย แต่ความเคลื่อนไหวในรอบสัปดาห์นี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นค่อนข้างตื่นตัวเตรียมพร้อม เช่น การเปิดตัว อิซุโม เรือรบบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.72 หมื่นล้านบาท) และความพยายามของพรรครัฐบาลที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการกระทำที่จีนโจมตีว่าญี่ปุ่นมีจุดประสงค์เพื่อขยายขนาดกองกำลังป้องกันตนเองของประเทศ

ขณะเดียวกันสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน แสดงความเห็นว่าคำพูดและการกระทำของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เป็นอันตรายร้ายแรงต่อภูมิภาค และเป็นความพยายามที่อาจล่วงละเมิดคำสัญญาที่ญี่ปุ่นเคยทำไว้ หลังยอมลงนามในข้อตกลงสงบศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

อย่างไรก็ดี รายงานของซินหัวยังได้กล่าวกระตุ้นเตือนญี่ปุ่นให้จดจำบทเรียนจากประวัติศาสตร์ของเรือรบอิซุโมลำก่อนหน้า ที่มีเหตุให้ถูกทำลายโดยสหรัฐและต้องอับปางลง เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการยุติแนวคิดชาตินิยม