ฝรั่งเร่ร่อนในไทยพุ่งกว่า 200

ไทม์รายงาาน ชาวตะวันตกกว่า 200 คน ได้กลายเป็น "วณิพก" ร่อนเร่ในไทย ส่วนใหญ่ ติดแอลกอฮอล์ ยาเสพติด หรือหมดตัวเพราะจ่ายเงินให้แก่หญิงไทย

นิตยสารไทม์ รายงานมุ่งประเด็นเชิงสังคมในไทย โดยเปิดเผยข้อมูลของมูลนิธิแห่งหนึ่งในไทยว่า ชาวตะวันตกกว่า 200 คน ได้กลายสภาพเป็น "วณิพก" ร่อนเร่อยู่ตามข้างถนนในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไทย เช่น เชียงใหม่ หรือภูเก็ต ทั้งนี้สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากอาการติดแอลกอฮอล์ ยาเสพติด หรือหมดเนื้อหมดตัวเพราะจ่ายเงินให้แก่หญิงสาวชาวไทย

"จำนวนชาวต่างชาติซึ่งถูกภรรยาชาวไทยขับไล่ออกจากบ้านและต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนเริ่มพุ่งสูงขึ้น โดยอาศัยอยู่บริเวณห้างสรรพสินค้าในเวลากลางวันและคุ้ยถังขยะเพื่อหาอาหารในเวลากลางคืน" นที สรวารี เลขาธิการมูลนิธิอิสรชนกล่าว และว่าประเทศไทยมีจำนวนคนไร้บ้านกว่า 3 หมื่นคนซึ่งส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยคนสัญชาติไทย ลาว พม่า และกัมพูชา แต่ชาวตะวันตกที่กลายเป็นคนไร้บ้านสร้างความประหลาดใจให้แก่สังคมไทย เพราะขัดกับภาพลักษณ์อันหรูหราของนักท่องเที่ยวฝรั่งทั่วไป

พอล การ์ริแกน นักเขียนชาวไอริช วัย 44 ปี ซึ่งเคยปฏิญาณว่า "จะดื่มสุราจนตาย"แต่ก็เลิกล้มไปก่อน ได้ให้ความเห็นว่า ชาวต่างชาติที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย หลายคนมีอาการติดแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดมาก่อนแล้วจากประเทศบ้านเกิด แต่เมื่อมาอยู่ในสังคมไทยซึ่งไม่มีกฎหมายบังคับชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยว ปล่อยตัวมากเกินพอดี

รียส์ บอนนีย์ ผู้ให้คำปรึกษาการทำหนังสือเดินทางในเชียงใหม่ กล่าวว่าชาวต่างชาติที่มองหาคนรู้ใจในประเทศไทยมักตกเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกลวงได้ง่าย เนื่องจากไม่สามารถแยกแยะความเป็นจริงออกจากเรื่องราวโรแมนติกจากหนังสือนิยายที่ขายกันดาษดื่นในท้องตลาด โดยสตรีชาวไทยมักหลอกให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านหรือรถยนต์ในชื่อของเธอก่อนจะขับไล่ชาวต่างชาติออกจากบ้าน

ด้าน วอลเตอร์ เบราโนห์เลอร์ โฆษกสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ระบุว่า แม้จะไม่มีตัวเลขยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าปัญหาชาวอเมริกันไร้บ้านในประเทศไทยกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน ทั้งนี้สถานทูตต้องจ่ายเงินกว่า2,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 6.3 หมื่นบาท)เพื่อใช้เป็นค่าส่งตัวชาวอเมริกันหนึ่งคนกลับประเทศแม้จะมีการเรียกเก็บเงินจำนวนดังกล่าวจากครอบครัวหรือเพื่อนในภายหลังแต่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับค่าใช้จ่ายคืน

ด้านสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานการเสียชีวิตในประเทศไทยของ ชินเผง อดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาด้วยวัย 89 ปี โดย พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า อดีตผู้นำกลุ่มต่อต้านรัฐบาลมาเลเซียเสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ หลังเข้าพักรักษาตัวนานหลายปี

ด้านประวัตินั้น อดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เคยได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ และเคยร่วมรบในสงครามต่อต้านญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ต่อมาผันตัวเป็นผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์และต่อต้านจักรวรรดิอังกฤษและรัฐบาลมาเลเซีย เผงถูกศาลสูงสุดมาเลเซียเนรเทศออกจากประเทศในปี 2009