posttoday

บินมาเลย์เลือกบินผ่านซีเรียหลักฐานชี้ "เอ็มเอช 17" ถูก บัค สอย

23 กรกฎาคม 2557

รอยเตอร์สรายงาน สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์สเปลี่ยนเส้นทางบินเอเชียกับยุโรป

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

รอยเตอร์สรายงาน สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์สเปลี่ยนเส้นทางบินเอเชียกับยุโรป โดยหันไปใช้เส้นทางบินน่านฟ้าซีเรีย เพื่อเลี่ยงน่านฟ้ายูเครน หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินของสายการบินฯ เที่ยวบินเอ็มเอช 17 ถูกยิงตก จนทำให้ทางการยูเครนประกาศปิดน่านฟ้าทางตะวันออกของประเทศ

เว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์ 24 เอบี ของสวีเดน ผู้ให้บริการติดตามตำแหน่งเครื่องบิน ได้โพสต์ภาพบนทวิตเตอร์่แสดงให้เห็นว่าเที่ยวบินเอ็มเอช 4 จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย มุ่งหน้ากรุงลอนดอน อังกฤษ กำลังบินผ่านน่านฟ้าซีเรีย โดย เฟรดริก ลินดาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไฟลต์เรดาร์ 24 เอบี แสดงความเห็นว่า การเลือกเส้นทางบินข้ามทวีปผ่านซีเรียนับเป็นการเลือกที่ค่อนข้างผิดปกติ

“เราสามารถเห็นเครื่องบินบินผ่านอิรักได้เสมอ เพราะแทบไม่มีทางบินผ่านตะวันออกกลางได้โดยไม่ผ่านอิรัก” ลินดาว กล่าว พร้อมเสริมว่า ถึงกระนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเห็นเครื่องบินบนน่านฟ้าซีเรีย

ทั้งนี้ ซีเรียกำลังตกอยู่ในสงครามกลางเมืองที่มีผู้เสียชีวิต 1.7 แสนคน นับตั้งแต่ปี 2011 กระนั้น จอห์น ซาบา อาจารย์โครงการบูรณาการบริหารการบินจากมหาวิทยาลัยแมคกิลในแคนาดาไม่เชื่อว่ารัฐบาลซีเรียจะยิงขีปนาวุธใส่เครื่องบินพาณิชย์ แต่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนในซีเรียจะครอบครองเครื่องยิงขีปนาวุธหรือไม่ และมีระยะยิงเท่าไร

ทางมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ออกโรงโต้ว่า เส้นทางดังกล่าวได้รับการรับรองโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) ขณะที่ประกาศนักบิน (โนแทม) จากหน่วยการบินพลเรือนของซีเรียยืนยันว่าน่านฟ้าซีเรียไม่ใช่เขตจำกัดการบิน

ถึงกระนั้น ไอซีเอโอได้ระบุเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า ทางองค์การไม่มีอำนาจในทางปฏิบัติสำหรับการเปิดหรือปิดเส้นทางบิน และไม่ขอแสดงความเห็นต่อการเปลี่ยนเส้นทางบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส

ในวันเดียวกัน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ เผยแพร่บทความวิเคราะห์สาเหตุการตกของเอ็มเอช 17 ของ รีด ฟอสเตอร์ นักวิเคราะห์ด้านการทหารจากไอเอชเอส เจน’ส์ ที่ระบุว่า เอ็มเอช 17 น่าจะถูกขีปนาวุธหัวรบแตกอากาศ ยิงจากเครื่องยิงจรวด บัค หรือที่ทางสหรัฐเรียกว่า “เอสเอ11”

ความเสียหายมีลักษณะเป็นหลุมขนาดเล็กกระจายทั่ว เศษชิ้นส่วนซึ่งเป็นสิ่งชี้ว่าเอ็มเอช17 ถูกวัตถุขนาดเล็กพุ่งชนด้วยความเร็วสูง อาจทำให้เครื่องยนต์ระเบิด

“หัวรบในตระกูล เอสเอ11 ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการเครื่องบินรบที่บินอย่างรวดเร็วและในเพดานบินสูง โดยหัวรบจะพุ่งไปข้างหน้าก่อนจะแตกตัวเมื่อเข้าใกล้เป้าหมาย เพื่อสร้างม่านกระสุนขนาดใหญ่” ฟอสเตอร์ กล่าว

แม้ว่าโศกนาฏกรรมเอ็มเอช 17 จะสร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งโลก ทว่าการสู้รบระหว่างรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียยังคงดำเนินต่อไป ล่าสุดเกิดเหตุระเบิดพลีชีพบริเวณจุดตรวจใกล้หมู่บ้านคัมยานกาในเขตโดเนตส์กเพื่อโจมตีกองทัพยูเครน ซึ่งนับเป็นการใช้ยุทธวิธีดังกล่าวครั้งแรกตั้งแต่เกิดความตึงเครียดบริเวณภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อ 4 เดือนก่อนซึ่งฝ่ายรัฐบาลเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏที่เริ่มเพลี่ยงพล้ำและสูญเสียเมืองทางภาคตะวันออก