สุดยอดตัวการ์ตูนญี่ปุ่นส่งกระแสฮิตทั่วโลก
คาแรคเตอร์การ์ตูนญี่ปุ่นสุดฮิต หนุนการค้าท้องถิ่น ช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวแดนปลาดิบ
คาแรคเตอร์การ์ตูนญี่ปุ่นสุดฮิต หนุนการค้าท้องถิ่น ช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวแดนปลาดิบ
หลังเกิดปรากฏการณ์ช็อกแฟนนานุแฟนของคาเรกเตอร์การ์ตูนยอดนิยมของซานริโออย่าง "เฮลโล คิตตี้" ไม่ใช่แมวอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่เป็นเด็กผู้หญิงที่พร้อมจะเป็นเพื่อนกับทุกคน
อย่างไรก็ดี ตัวการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่นนี้ ไม่ได้มีเฉพาะเฮลโล คิตตี้ เท่านั้น เพราะช่วงเวลายาวนานที่ผ่านมา ก็มีการ์ตูนอีกมายมายที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น "โดเรมอน" แมวแห่งอนาคตที่เข้ามาเป็นเพื่อนและคอยช่วยเหลือโนบีตะ หรือมอนสเตอร์ตัวน้อย "ปิกาจู" โปเกมอนที่เป็นที่รู้จักในฐานะของมาสคอตสื่อเฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จในแดนปลาดิบ จนถึงเจ้าหมีสุดชิว "ริลัคคูมะ" ซึ่งกลายมาเป็นเครื่องประดับห้อยกระเป๋านักเรียนของสาวๆ ญี่ปุ่น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า คาเรกเตอร์การ์ตูนดังกล่าว ไม่ใช่ออกแบบมาสำหรับเด็กเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจและการใช้ชีวิตในสังคมด้วย ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกความน่ารักในรูปแบบนี้ว่า "คาวาอี้" ซึ่งหยั่งรากลึกผสมผสานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในสังคมแล้ว ถือเป็นการกลับไปสู่ประเพณีหรือความเชื่อดั้งเดิมทางวิญญาณนิยมของชาวญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ชาวอาทิตย์อุทัยในอดีตนิยมบูชาเทพเจ้าหลายองค์ และภาพวาดภูติผีปีศาจทั้งหลาย รวมไปถึงภาพวาดรูปสัตว์ต่างๆ หรือแม้แต่กิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ ตั้งแแต่การแข่งขันซูโม่ไปจนถึงการปฏิบัติบูชาภายในศาสนสถาน ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของการ์ตูนมังงะในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เฮลโล คิตตี้ และโดเรมอน ตัวการ์ตูนยอดนิยมตลอดกาลนี้กำลังเผชิญกับการรุกคืบของคลื่นลูกใหม่ หลายตัว ซึ่งตัวการ์ตูนส่วนหนึ่งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวและส่งเสริมผลิตภัณฑ์สินค้าในท้องถิ่นด้วย ทั้งนี้ จากรายงานของสถาบันวิจัยยาโน ระบุว่า รายได้ทางการตลาดจากบรรดาตัวการ์ตูนยอดนิยมเมื่อปีที่ผ่านมานั้นสูงถึง 2.3 ล้านล้านเยน (ราว 2.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ)
นอกจากนั้น ทางเอพียังได้คัดเลือก "สุดยอดตัวการ์ตูน" ที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น มาให้ยลโฉมและรู้จักเพิ่มขึ้นด้วย
เริ่มจาก " เฮลโล คิตตี้" แมวสุดฮิตที่ไม่ใช่แมว
ตัวการ์ตูนนี้สร้างขึ้นมาราว 40 ปีที่ผ่านมา ด้วยการรังสรรค์อย่างง่ายๆ เพียงแค่จุดสองจุดสำหรับตา และวงกลมเล็กๆ อันหมายถึงจมูก โดยไม่มีปาก ซึ่งเป็นคาเรกเตอร์ที่ตรงข้ามกับตัวกาณ์ตูนสุดฮิตจากอเมริกันอย่าง มิกกี้ เมาส์ และกาณ์ฟิล เนื่องจากเฮลโล คิคตี้ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ และใช้ความเรียบง่ายดึงดูดใจแฟนๆ ให้ชื่นชอบ โดยบทความจาก ลอส แองเจลิส ไทมส์ เผยความจริงว่า เฮลโล คิตตี้ นี้ ไม่ใช้แมวอย่างที่หลายคนเข้าใจ แม้จะมีหูและหนวดคล้ายหูแมวก็ตาม เพราะทางผู้สร้างระบุว่า ตัวการ์ตูนนี้เป็นเด็กสาวร่าเริงที่มีหัวใจอ่อนโยน เกิดแถบชานเมืองลอนดอน น้ำหนักราวแอปเปิ้ล 3 ผล สนุกสนานกับการอบคุกกี้ และมีความฝันอยากจะเป็นนักกวีหรือนักเปียโน
ตามมาด้วย หมีน้อยดำขำสุดแสนน่ารัก "คุมาม่อน"
มาสค็อตประจำจังหวัดคุมาโมะโต้ ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่มีชื่อหมายถึงชนพื้นเมืองของคุมาโมะโต้ และประสบความสำเร็จมากที่สุดในการโปรโมทสินค้าท้องถิ่นของญี่ปุ่น กำเนิดเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2010 ซึ่งเป็นวันที่รถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงของญี่ปุ่นเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ โดยทางจังหวัดไม่ได้คิดค่าลิขสิทธิในการใช้ภาพถ่ายของเจ้าหมีดำขำรายนี้ ขณะเดียวกันความนิยมของคุมาม่อนนี้ก็ยังพุ่งสูงขึ้นมาก โดยมีบริษัทจำนวนมากยื่นความจำนงต้องการใช้งานเจ้าหมีสุดฮิตรายนี้ ปัจจุบัน เจ้าคุมาม่อนนี้ไม่ใช่จะปรากฏตัวเฉพาะเป็นสินค้าที่ระลึกจากคุมาโมะโต้เท่านั้น แต่ยังปรากฏบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของญี่ปุ่นนับไม่ถ้วน
ส่งต่อมายัง ลูกแพร์ "ฟุนัชชี่" จากเมืองฟุนาบาชิ
เมืองฟุนาบาชิ ที่ตั้งอยู่นอกโตเกียว ถล่มเกาะญี่ปุ่นด้วยการ์ตูนลูกแพร์สุดน่ารัก นามว่า "ฟุนัชชี่" ที่เกิดจากการรวมตัวกันของเมืองฟุนาบาชิ และคำภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึงลูกแพร์ กลายมาเป็นตัวการ์ตูนสีเหลืองสดใส สวมใส่บอดี้่้สูท กระโดดขึ้น-ลงอย่างสนุกสนาน และช่างเจรจาแบบที่เรียกว่าไฟแล่บ นอกจากนี้ ยังชอบออกมาตะโกนคำว่า "นาชิ" ด้วยเสียงแหลมสูง แม้จะไม่ได้เป็นมาสคอตของจังหวัดอย่างเป็นทางการ แต่เจ้าลูกแพร์สุดสดใสก็ยังแสดงให้รู้ว่าผลิตภัณฑ์สินค้าที่พบมาจากฟุนาบาชิ นอกจากนั้น เจ้าฟุนัชชี่นี่ยังออกรายการโทรทัศน์หลายแห่ง แถมยังจะปล่อยซีดีของตนเองกับค่าย ยูนิเวอร์แซล มอวสิก เจแปน อีกด้วย มีรายงานว่าปีที่ผ่านมา เจ้าลูกแพร์การ์ตูนสีเหลืองนี้ สร้างรายได้ราว 200 ล้านเยน หรือ 2 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
ขวัญใจตลอดกาล "โดเรมอน"
หุ่นยนต์สัชีฟ้าจากศรตวรรษที่ 22 นี้ เริ่มเป็นการ์ตูนมังงะในปี 1969 ที่สามารถดึงของวิเศษมากมายออกมาจากกระเป๋าที่ติดอยู่หน้าท้องได้ ซึ่งไม่เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เจ้าแมวสีฟ้าตัวนี้ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลกอีกด้วย แม้แต่ในสหรัฐที่จะเปิดตัวการ์ตูนทางโทรทัศน์ในปีนี้ โดยปรับความซับซ้อนของตัวละครให้ลดลง โดยเฉพาะการเปลี่ยนชื่อตัวละคร เช่น โนบีตะ เป็น โนบี้ และจากไจแอนท์ เป็น บิ๊ก จี และแทนที่เงินเยนด้วยดอลล่าร์สหรัฐ
หมีบรรเทาอาการเครียด "ริลัคคูมะ"
ด้วยคาเรกเตอร์ที่ชอบพักผ่อน แอบงีบ ไปกับสารพัดขนมกรุบกรอบต่างๆ แสดงให้เก็นถึงวิถีการดำเนิชีวิตที่ปราศจากความเครียดของเจ้าหมีริลัคคูมะได้ดี ด้วยสโลแกน "นอนหลับและพักผ่อน ค่อยกังวลเมื่อเกิดเรื่อง" นอกจากนี้ เจ้าหมีสุดชิวที่สร้างขึ้นโดยบริษัท ซาน-เอ็กซ์ ตัวนี้ ยังถูกรวบรวมเป็นชุดหนังสือที่มียอดขายถล่มทลายด้วย นอกจากนี้ เจ้าริลัคคูมะยังกวาดรายได้กว่า 1 หมื่นเยน (ราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากการขายเสื้อผ้า เครื่องเขียน และหนังสือรวมเล่ม ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2003 อีกด้วย
ตัวการ์ตูนสุดดัง "ปิกาจู" แห่งวิดีโอเกมเมกะสตาร์
หนูอ้วนสีเหลืองในชื่อ "ปิกาจู" ได้รับความนิยมที่สุดจากคาแรคเตอร์มอนสเตอร์กว่า 400 ตัว ในวิดีโอเกมของนินเทนโดในซีรี่ย์ โปเกมอน ที่เริ่มออกสู่สายตาประชาชนในปี 1996 สำหรัยเกมบอย จากนั้นก็พัฒนาเป็นการ์ดเกม ขยายมาสู่อนิเมชั่น วิดีโอเกม และภาพยนตร์ แถมยังปรากฏตัวให้ชาวญี่ปุ่นยลโฉมบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน นอกจากนี้ ปิกาจูกว่าร้อยตัวยังบุกไปยังโยโกฮามา ในงาน "ปิกาจู เอาท์เบรก" ที่จัดขึ้นช่วงกลางเดือน ส.ค. ของทุกปีด้วย
จับตาดู "จิบะเนียน โย่วไค" แมวยอดฮิตตัวต่อไป
ใหม่ล่าสุดสำหรับการ์ตูนตัวต่อไปที่น่าจับตา ที่เริ่มออกอากาศทางโทรทัศน์เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมานี่เอง สำหรับจิบะเนียน โย่วไค แมวสีแดง ที่มีหาง 2 ข้างเป็นสีไฟสีฟ้า พร้อมตัวการ์ตูนอื่นๆ ในซีรี่ย์ ซึ่งผู้สร้างได้เสนอเหรียญพิเศษสำหรับเรียกภูตผีในซีรีย์นี้ออกมาให้เด็กๆ ได้สะสมกันแล้ว พร้อมของเล่นสารพัดชนิดที่เกี่บวข้อง เมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา แว่วมาว่า ชาวญี่ปุ่นต่อคิวยาวมากหลายชั่วโมงนอกร้านเพื่อขอเป็นคนแรกๆ ที่ได้สัมผสของเล่นและเหรียญที่ออกใหม่ล่าสุดภายในร้าน