ผลศึกษาชี้นักท่องเที่ยวยุโรปยังรู้สึกดีกับไทยหลังคดีเกาะเต่า
ผลศึกษานักท่องเที่ยวยุโรปพบว่าส่วนใหญ่ยังรู้สึกดีกับไทยหลังคดีเกาะเต่า ภาพลักษณ์สถานที่ท่องเที่ยวไม่ถูกกระทบมากนัก
ผลศึกษานักท่องเที่ยวยุโรปพบว่าส่วนใหญ่ยังรู้สึกดีกับไทยหลังคดีเกาะเต่า ภาพลักษณ์สถานที่ท่องเที่ยวไม่ถูกกระทบมากนัก
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. บริษัทเอ็นไวโรเซล (ประเทศไทย) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยา และ พฤติกรรมผู้บริโภค เปิดเผยผลการศึกษาเรื่อง ความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลังจากเกิดเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า โดยทำการสำรวจกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป รวมถึงสหราชอาณาจักร จำนวนผู้ที่ได้ทำการศึกษาทั้งหมด 1,835 คน แบ่งเป็นชาวอังกฤษ 618 คน และประเทศอื่นในยุโรปอย่าง ออสเตรีย สเปน ฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมนี สวีเดน อิตาลี และ เนอเธอร์แลนด์ จำนวน 1,217 คน กระจายในแต่ละกลุ่มอาชีพและกลุ่มผู้ที่บรรลุนิติภาวะ ระหว่าง วันที่ 13 ต.ค. -16 ต.ค.
ผลการศึกษาพบว่า 94% ของนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร รับรู้ข่าวเกี่ยวกับคดีเกาะเต่า ส่วนในประเทศอื่นของยุโรปมีสัดส่วน 73%
10% ของนักท่องเที่ยวมีแผนจะมาเมืองไทยใน 6 เดือน-2ปีข้างหน้า ในจำนวนนี้ 61%ไม่เปลี่ยนแผน ในขณะที่ 39% รอติดตามข่าวคดีเกาะเต่า เพื่อตัดสินใจอีกทีหนึ่ง ซึ่งจากนี้ ข่าวภาพลักษณ์เกี่ยวกับประเทศไทยมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อย่างมาก
ทั้งนี้ 66% ของนักท่องเที่ยวที่สนใจเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้นนี้ยังคงเกาะกระแสข่าวคดีเกาะเต่า ขณะที่ 74% ไม่ได้ติดใจกับการจัดการเกี่ยวกับคดีเกาะเต่าของประเทศไทย มีอยู่ 26%ที่ยังคงติดใจ เพราะส่วนหนึ่งได้ยินกระแสเรื่องความไม่โปร่งใสของคดีเกาะเต่า ดังนั้นกระแสข่าวที่เป็นด้านลบต่างๆที่มาจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกี่ยวกับคดีเกาะเต่านี้ จดจำภาพลบที่มีต่อประเทศไทยในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม 85% ของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป รวมถึง สหราชอาณาจักร ยังรู้สึกดีกับประเทศไทย ด้วยเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยว อาหารไทย เอกลักษณ์ความเป็นไทย
จากการการเก็บข้อมูลในช่วงกลางปี 2557ของ บริษัทเอ็นไวโรเซล ประเทศไทย ก่อนเกิดเหตุ เปรียบเทียบหลังจากที่เกิดเหตุการณ์บ่งชี้ว่า ภาพลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยยังไม่ถูกกระทบมากนัก แต่เสน่ห์อันน่ารัก ความมีอัธยาศัยไมตรีของคนไทยในสายตาชาวต่างชาติ ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ลดลง 9% รวมถึงความเป็นประเทศที่ปลอดภัยซึ่งมีคะแนนลดลงเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่ยังคิดที่จะมาประเทศไทย 68% เข้าใจว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นสถานการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายประเทศ และนักท่องเที่ยวก็ต้องรู้จักที่จะป้องกันตัวเองด้วย และอีกกว่า 30% คิดว่า อาชญากรรมด้านการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยน้อยมาก ทั้งยังเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำให้มาตรการ ระบบรักษาความปลอดภัยภายในประเทศไทยนั้น เข้มงวดมากขึ้น
ขณะที่ สิ่งเร่งด่วนที่นักท่องเที่ยวอยากให้ประเทศไทยจัดการมากที่สุด เรียงตามลำดับคือ 1)จัดระบบรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ 2) มีศูนย์คอยช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว 3) มีบทลงโทษที่รุนแรง และเอาจริงสำหรับกลุ่มคนที่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว 4) มีการจัดระเบียบทัวร์เอเจนต์ แท็กซี่ ให้มีความน่าเชื่อถือ และซื่อสัตย์