แอร์เอเชียตก สลดรับปีใหม่

ข่าวต่างประเทศในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นเหตุโศกนาฏกรรมรับปีใหม่ที่่เครื่องบินสายการบินอินโดนีเซีย แอร์เอเชีย เที่ยวบินคิวแซด 8501 ที่มุ่งหน้าจากเมืองสุราบายา เกาะชวา อินโดนีเซีย ไปยังสิงคโปร์ ขาดการติดต่อไปเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 162 คน

ต่อมาในวันที่ 30 ธ.ค. ทางทีมค้นหาและกู้ภัยที่ประกอบไปด้วยเรือและเครื่องบินจากกองทัพอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ค้นพบซากเครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัส 320-200 และร่างของผู้เสียชีวิตในทะเลชวา ไม่ไกลจากเส้นทางการบินของเที่ยวบินลำดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การค้นหาเที่ยวบินต้องเผชิญอุปสรรคจากสภาพอากาศ ทำให้ในวันที่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค. ต้องหยุดการค้นหาชั่วคราว ก่อนกลับมาค้นหาอีกครั้งในวันที่ 2 ม.ค. โดยสามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้ประมาณ 46 คนแล้ว รวมถึงจากการใช้เครื่องมือโซนาร์ ยังค้นพบซากชิ้นส่วนของเครื่องบิน 2 ชิ้นส่วนใหญ่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคาดว่าเป็นส่วนหางของเครื่องบินที่เป็นที่ตั้งของเครื่องบันทึกข้อมูลการบินหรือกล่องดำอีกด้วย

ทั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการตกในทะเลของเครื่องบินสายการบินอินโดนีเซีย แอร์เอเชีย โดยนักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าเครื่องบินลำดังกล่าวสามารถจอดบนผิวน้ำได้สำเร็จ ก่อนคลื่นจะซัดเครื่องบินจนจม เนื่องจากเครื่องบินลำดังกล่าวไม่ได้ส่งสัญญาณที่มักส่งออกมาหากเครื่องบินตกหรือจมน้ำ

เซี่ยงไฮ้เหยียบกันตาย 36 ศพ

โศกนาฏกรรมรับปีใหม่อีกเหตุการณ์หนึ่ง คือ เหตุการณ์ประชาชนแตกตื่นจนเหยียบกันตายที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ณ งานเฉลิมฉลองวันสิ้นปีของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีผู้คนเข้าร่วมจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 36 คน และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 47 คน และยังคงอยู่ในโรงพยาบาลอีกราว29 คน

หลังเกิดเหตุ ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง แห่งจีน ได้ออกโรงกำชับรัฐบาลท้องถิ่นให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยกับงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวที่แน่ชัด แต่มีข้อสันนิษฐานจากพยานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุว่า ประชาชนพยายามแย่งกระดาษที่มีลักษณะคล้ายกับธนบัตรเหรียญสหรัฐที่โปรยลงมาจากชั้น 4 ของอาคารเอ็ม 18 ที่ตั้งของไนต์คลับแห่งหนึ่ง

พายุ-น้ำท่วม ซัดฟิลิปปินส์อ่วม

ช่วงสิ้นปี 2014 ทางภาคใต้และภาคกลางของฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุฤดูร้อนชังมี ซึ่งในวันที่ 1 ม.ค. ไต้ฝุ่นดังกล่าวมีความเร็วลมถึง 80 กม./ชม. และเคลื่อนที่ไปทางทะเลซูลู
ทางตะวันตกของประเทศด้วยความเร็ว 30 กม./ชม.

พายุดังกล่าวก่อให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในนั้นได้สร้างความเสียหายให้กับบริเวณที่ยังไม่ฟื้นตัวจากพายุไห่เยี่ยน เมื่อปี 2013 และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 คน และสูญหายอีก 13 คน ซึ่งถือเป็นความเสียหายที่มากกว่าซูเปอร์ไต้ฝุ่นฮากูปิตเคยสร้างไว้ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.

นอกจากนี้ พายุดังกล่าวยังกระทบต่อประชาชนอีก 1.2 แสนคน และประชาชนมากกว่า 8 หมื่นคน ต้องอพยพออกจากพื้นที่

อีซีบีส่งสัญญาณคิวอี รับมือเงินฝืด

ข่าวเศรษฐกิจในช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดาวเด่นเห็นจะหนีไม่พ้นเศรษฐกิจของยุโรป ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโร (ยูโรโซน) หดตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส จนเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ

ทาง มาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เอง ก็ออกมาส่งสัญญาณใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลครั้งใหญ่ เพื่อกระตุ้นเงินฝืดที่คุกคามเศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งทางอีซีบีจะประชุมเรื่องนโยบายทางการเงินและแถลงในวันที่ 22 ม.ค.

ขณะเดียวกัน มาร์คิท อีโคโนมิกส์ สำนักงานลอนดอนได้เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือน ธ.ค.ว่า ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 50.6 จุดจากเดือน พ.ย. ที่ 50.1 จุด ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ 50.8 จุด จากความไม่มั่นใจในความสามารถต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของผู้ออกนโยบายและวิกฤตยูเครน