พัทลุงหนุน‘นวดแผนไทย’ รับท่องเที่ยวชายแดน

โดย...อัสวิน ภฆวรรณ

นวดแผนไทยนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเมืองชายแดนทั้งหาดใหญ่ จ.สงขลา สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และเบตง จ.ยะลา

วิทยา  แซ่ลิ่ม มัคคุเทศก์อาชีพ เล่าว่า จากการที่ได้นำนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการนวดแผนไทย ชาวมาเลเซีย ให้ความนิยมมาก นอกจากกลุ่มผู้สูงวัยแล้ว กลุ่มนักท่องเที่ยวคนหนุ่ม-สาว ก็ให้ความนิยมไม่น้อย นับเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่ดีและเป็นอาชีพที่มั่นคง เฉพาะในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จะมีรายได้โดยเฉลี่ยบางรายวันละประมาณ 1,200 บาท ซึ่งมีสถานนวดแผนไทยอยู่กว่า 100 แห่ง มีบุคลากรนวดแผนโบราณไม่ต่ำกว่า 1,000 คน จะมีเงินหมุนสะพัดเดือนละนับสิบล้านบาท

เหรียน ยี่ หย่ง เลขานุการสโมสรผู้สื่อข่าวรัฐปีนัง มาเลเซีย ก็บอกว่า นวดแผนไทยเป็นที่นิยมของชาวมาเลเซีย เป็นอย่างมาก  จนมีการเปิดนวดแผนไทยในประเทศมาเลเซียอย่างกว้างขวาง นวดแผนไทยเป็นศาสตร์ที่พิเศษ ขนาดที่รับประทานอาหารอิ่มแล้วก็ยังสามารถนวดได้ โดยนวดที่ฝ่าเท้าก่อน แล้วก็ที่แขน ขา ท้อง และนวดที่ศีรษะ หลังนวดประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มีอาการหิวอาหารอีก

“นวดเสร็จสดชื่นแจ่มใสคลายเส้นกล้ามเนื้อ องเที่ยวเสร็จก็นวดแผนไทยอีก”

ความนิยมการนวดแผนไทย ทำให้ จ.พัทลุง ในฐานะที่ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาด้วยแพทย์แผนไทย ส่งเสริมการเรียนรู้นวดแผนไทยเพื่อประกอบอาชีพ

ทวีรักษ์ เอียดฤทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเขาหัวช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง  เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลเขาหัวช้างได้มีนโยบายก่อตั้งชมรมผู้สูงอายุและแผนไทย โดยมีหมอนวดแผนไทยที่ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมมาจากหมอโรงพยาบาล จ.พัทลุง แล้วเข้าทำงานนวดแผนไทยกับทางเทศบาล ปรากฏว่างานล้นมือ รับไม่ทันต่อความต้องการ จะต้องจองคิวบริการล่วงหน้า

“ที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐ เช่น  สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ทำการพัฒนาฝึกอบรมหลักสูตรนวดแผนไทย จะออกไปประกอบอาชีพต่างประเทศมาก โดยเฉพาะในประเทศมาเลเซียจะมีรายได้ดีประมาณชั่วโมงละ 70-80 เหรียญริงกิต โดยผู้นวดจะได้ค่าแรงจะได้ประมาณ 50 เหรียญริงกิต หรือประมาณ 500 บาท จึงทำให้นวดแผนโบราณฝั่งไทยขาดแคลน ใช่เพียงแต่มาเลเซีย แต่ความนิยมยังแพร่หลายไปถึงกลุ่มประเทศตะวันออกกลางอีกด้วย”