ฮ่องกงผุดไอเดียห้องพักแบบแคปซูล แก้ปัญหาค่าเช่าแพง
ที่ดิน และค่าเช่าที่พักในฮ่องกงนั้นแพงลิบลิ่ว ชายคนหนึ่งผุดไอเดียธุรกิจที่พักแบบแคปซูล ด้วยจุดขายความทันสมัย, สะอาด, ปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า
ที่ดิน และค่าเช่าที่พักในฮ่องกงนั้นแพงลิบลิ่ว ชายคนหนึ่งผุดไอเดียธุรกิจที่พักแบบแคปซูล ด้วยจุดขายความทันสมัย, สะอาด, ปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า
เตียงนอนเดี่ยวในพื้นที่แบบแคปซูลที่ใช้คีย์การ์ดเป็นระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมด้วยเครื่องปรับอากาศ และไฟสีฟ้าให้บรรยากาศเสมือนอยู่ในยานอวกาศ สิ่งนี้คือไอเดียใหม่ที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ดินแดนที่ค่าอยู่อาศัยแพงลิบลิ่ว และเบียดเสียดไปด้วยผู้คน
เจ้าของไอเดียดังกล่าวคือ แซนดี้ หว่อง โดยขณะนี้เขามีที่พักแบบแคปซูลนี้รวมจำนวน 51 แคปซูล กระจายกันอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ 6 แห่งรอบเมือง และมีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มเป็น 1,000 แคปซูลในอนาคตอันใกล้นี้
จริงๆแล้วจุดเริ่มต้นของที่พักดังกล่าว เกิดขึ้นในญี่ปุ่น แต่ดูเหมือนว่าที่ฮ่องกงเองที่พักแบบแคปซูลนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว สนนราคาค่าเช่าอยู่ที่ 2,800 - 4,500 ดอลล่าร์ฮ่องกง สำหรับการเช่าพักเป็นระยะเวลา 1 เดือน ส่วนห้องน้ำ ห้องครัว และพื้นที่อื่นๆนั้นใช้ร่วมกัน เป็นพื้นที่ส่วนกลาง
ที่พักแคปซูลดังกล่าวถูกผลิตจากกว่างโจว ประเทศจีน มีความยาว 2 เมตร กว้าง และสูง 1.1 เมตร และมีพื้นที่รวม 25 ตารางฟุต ภายในมีเตียงพร้อมหมอน ผ้าห่ม ปลั๊กไฟ แผงปรับแสงไฟ และถังดับเพลิง
หว่องคาดหวังว่าช่องว่างระหว่างคนจน และคนรวยในฮ่องกง จะทำให้ผู้คนสนใจที่พักแบบใหม่นี้ โดยเขากล่าวว่า ปัจจุยันผู้มีรายได้น้อยในฮ่องกงก็อาศัยอยู่ในห้องเช่าขนาดแคบๆที่มีพื้นที่ไม่มากไปกว่าแคปซูลของเขา แต่นี่นี่ดีกว่าเพราะพวกเขาไม่ต้องเผชิญกับกลิ่นเหม็น หรือการรบกวนจากแมลง
ลูกค้าของหว่องมักอยู่ในช่วงวัย 20 - 40 ปี และพวกเขาไม่ใช่คนตกงาน ที่พักแบบแคปซูลนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และเตียงนอนสบายๆ ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการเสียเงินไปกับค่าเช่ามากนัก
ที่พักแบบแคปซูลมีราคาแพงกว่าห้องพักรูหนู หรือที่นิยมเรียกกันว่า Coffin Home ซึ่งปกติแล้วจะมีราคาประมาณ 1,800 ดอลล่าร์ฮ่องกง แต่ก็ยังถูกกว่าห้องพักแบบแฟลต ที่มีห้องครัว และห้องน้ำแคบๆในตัว ซึ่งสำหรับการตอบสนองหว่องกล่าวว่าเป็นไปในทางที่ดี ในช่วง 15 วันแรก ที่พักแคปซูลของเขามีผู้เข้าพักรวมทั้งหมด 10 แคปซูล ทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจที่จะขยายธุรกิจนี้ในอนาคต
ขอบคุณวิดีโอจาก CNN