การค้นพบครั้งใหม่ หลังเปิดหลุมศพพระคริสต์ในรอบ 500 ปี
ทีมนักวิจัยค้นพบแผ่นหินจารึกในหลุมศพพระคริสต์ ที่นครเยรูซาเลม เรดาห์และการสแกนความร้อนถูกนำมาใช้เพื่อเปิดเผยข้อมูลที่ซ่อนไว้
ทีมนักวิจัยค้นพบแผ่นหินจารึกในหลุมศพพระคริสต์ ที่นครเยรูซาเลม เรดาห์และการสแกนความร้อนถูกนำมาใช้เพื่อเปิดเผยข้อมูลที่ซ่อนไว้
หลุมศพดังกล่าว สถานที่ที่ผู้คนเชื่อว่าพระเยซูฟื้นคืนขึ้นจากความตาย ถูกเปิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายศตวรรษ
เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่บรรดานักโบราณคดี และผู้เชี่ยวชาญทางศาสนาถกเถียงกันว่าโบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ์ (Holy Sepulchre) ในนครเยรูซาเลม เมืองหลวงของประเทศอิสราเอลคือสถานที่ที่พระเยซูถูกฝัง หลังจากตรึงกางเข็น และพระองค์ได้ฟื้นคืนขึ้นมาจากความตายหรือไม่?
หลุมฝังศพถูกปิดผนึกด้วยแผ่นหินอ่อน ตั้งแต่ปีค.ศ. 1500 เป็นต้นมา เพื่อป้องกันหัวขโมย สถานที่แห่งนี้ผ่านการถูกทำลาย โดยน้ำมือมนุษย์, เพลิงไหม้, แผ่นดินไหว ตลอดจนการรุกราน และได้รับการซ่อมแซมขึ้นใหม่หลายต่อหลายครั้ง อย่างไรก็ตามทีมนักวิจัยเองก็ไม่ยืนยันชัดเจนว่าหลุมศพดังกล่าวจะเป็นหลุมเดิม หลุมเดียวกับในอดีตหรือไม่
ในการเปิดแผ่นหินที่ปิดผนึกหลุมศพเอาไว้ ครั้งแรกในรอบ 500 ปี ทีมนักวิจัยได้ค้นพบชั้นหินปูนที่เชื่อว่าในอดีตเคยมีร่างของพระคริสต์วางนอนอยู่ ส่วนในชั้นที่สองของหลุมศพเป็นแผ่นหินอ่อนสีเทา ที่ทีมนักวิจัยไม่เคยมีข้อมูลมาก่อน บนแผ่นหินดังกล่าวมีรูปแกะสลัก ซึ่งเชื่อกันว่าถูกสร้างในศตวรรษที่ 12
Fredrik Hiebert นักโบราณคดี จากเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก หนึ่งในทีมงานวิจัยครั้งนี้กล่าวว่า "ส่วนที่มหัศจรรย์ที่สุดสำหรับผมคือการที่เราค้นพบชั้นที่สองของหลุมศพ ซึ่งเป็นหินอ่อน ส่วนดังกล่าวเป็นสีเทา ไม่ใช่สีขาวเหมือนส่วนอื่นๆ บนแผ่นมีจารึกอย่างสวยงาม ในขณะเดียวกันทางทีมงานก็ไม่มีข้อมูลใดๆเกี่ยวกับมัน"
รายงานตามพระคริสต์ธรรมระบุว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์บนกางเขน และถูกฝัง ต่อมาอีกสามวันพระองค์ก็ทรงฟื้นขึ้นจากความตาย
"เราทุกคนค่อนข้างตื่นเต้น และอยากรู้อยากเห็นมากว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้น ภายในหลุมศพไม่ได้ว่างเปล่าสักทีเดียว มีเศษหิน เศษปูน และฝุ่นอยู่ภายใน แม้จะไม่มีกระดูกหรือสิ่งของก็ตาม" Hiebert กล่าว
ในอดีตทีมนักวิจัยมากมายพยายามที่จะเข้าถึง และเปิดหลุมศพพระคริสต์ตั้งแต่ปี 1959 เป็นต้นมา แต่เผชิญกับอุปสรรค และความยากลำบาก เนื่องจากต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมาการ
ด้วยเทคโนโลยีการใช้เรดาห์ และคลื่นความร้อน นักวิจัยคาดหวังว่าจะได้ข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน ของหลุมศพแห่งนี้ก่อนที่มันจะถูกปิดผนึก ซึ่งต้องใช้เวลาสำรวจนานนับเดือนเลยทีเดียว ก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลให้สาธาณชนรับรู้