posttoday

จันทร์ธร สไล ผู้บุกเบิกตลาดอสังหาฯกัมพูชา

26 ธันวาคม 2559

กัมพูชา ประเทศแห่งโอกาสหลายด้านที่กำลังดึงดูดการลงทุนอย่างมาก ทำให้ภาพรวมในประเทศมีโครงการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

กัมพูชา ประเทศแห่งโอกาสหลายด้านที่กำลังดึงดูดการลงทุนอย่างมาก ทำให้ภาพรวมในประเทศมีโครงการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก  โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการขยายตัวในระดับสูงเช่นกัน

จันทร์ธร สไล” ประธานบริษัท เซเว่นเอ็นจี สกายแลนด์ และสตาร์ไฟท์ ดีเวลลอปเปอร์ ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศกัมพูชามีการขยายลงทุนเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาเติบโตสูงถึง 30% และราคาคอนโดมิเนียมมีการปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% ทุกปี

ทั้งนี้ ราคาคอนโดมิเนียมย่านใจกลางเมืองกรุงพนมเปญมีราคาเฉลี่ย 7 หมื่นเหรียญสหรัฐ จนถึง 1 แสนเหรียญสหรัฐ ต่อขนาดพื้นที่ 100-120 ตร.ม./ห้อง ซึ่งผู้ประกอบการต่างชาติจะสามารถลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาได้เป็นระยะเวลา 99 ปี

ขณะที่แนวโน้มราคาที่ดินในพื้นที่มีการปรับราคาสูงขึ้นทุกปีเช่นกัน โดยมีราคาเฉลี่ยประมาณ 5,000 เหรียญสหรัฐ/ตร.ม. และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการปรับราคาที่ดินเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าตัว ดังนั้น การลงทุนจะต้องศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน

สำหรับบริษัทได้มีโครงการอสังหาริมทรัพย์รวมประมาณ 4 โครงการ ทั้งการทำเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม และวิลล่า รวมถึงกำลังพัฒนาโครงการใหม่หลายแห่ง ล่าสุดได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ สกายแลนด์ คอนโดมิเนียม ที่ได้ลงทุนก่อสร้างโครงการแล้ว เป็นคอนโดมิเนียมอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าชาวต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมแล้ว ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ รวมถึงชาวกัมพูชา ซึ่งราคาขายอยู่ที่ 1.6-6 หมื่นเหรียญสหรัฐ/ห้อง

สกายแลนด์ คอนโดมิเนียม ได้วางแผนจะพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้เป็นย่านไทยทาวน์ที่จะเปิดให้มีร้านค้าและร้านอาหารของผู้ประกอบการไทยมาเปิดให้บริการ คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายใน 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาหาคู่ค้า และเอกชนไทย รวมถึงเอสเอ็มอีไทยเข้ามาลงทุนเปิดให้บริการในพื้นที่ ส่วนโครงการ สกายแลนด์ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2560

“บริษัทได้พัฒนาโครงการไทยทาวน์แห่งแรกในกัมพูชา รองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคชาวกัมพูชาที่ชื่นชอบสินค้าไทย และยังเป็นโอกาสที่ดีให้ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเจาะตลาดในกัมพูชา สามารถเข้ามาทำตลาดผ่านไทยทาวน์ได้เช่นกัน” จันทร์ธร กล่าว

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมเปิดไนต์บาซาร์ ซึ่งจะมีพื้นที่อยู่บริเวณเกาะเพชร ใจกลางกรุงพนมเปญ คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเปิดให้ธุรกิจไทย กลุ่มอาหารและสินค้าไทย ให้เข้ามาเปิดบริการภายในไนต์บาซาร์ โดยกลุ่มลูกค้าชาวกัมพูชาให้ความสนใจและตอบรับกับอาหารของไทยในระดับที่ดี เนื่องจากอาหารไทยมีความโดดเด่นทั้งรสชาติและราคาไม่แพง

ทั้งนี้ หากธุรกิจไทยที่สนใจเข้ามาเปิดบริการในพื้นที่ดังกล่าว บริษัทจะไม่มีการคิดค่าเช่าในช่วง 3 เดือนแรก ส่วนการเลือกเปิดบริเวณพื้นที่ เกาะเพชร เนื่องจากเป็นจุดใจกลางเมืองและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในกัมพูชาปีละหลายล้านคน

“ตลาดในกัมพูชามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป มีความต้องการเข้ามาใช้บริการในห้างสรรพสินค้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในห้างสรรพสินค้าจะมีสินค้าทุกอย่างที่ผู้บริโภคกัมพูชาต้องการและมีสินค้าหลากหลาย ดังนั้นการลงทุนพัฒนาโครงการไทยทาวน์ในอนาคตและการทำไนต์บาซาร์จึงจะตรงกับความต้องการของชาวกัมพูชาได้เป็นอย่างดี” จันทร์ธร กล่าว

จันทร์ธร กล่าวต่อว่า โอกาสของธุรกิจไทยในกัมพูชายังมีอีกมาก จากความชื่นชอบและความต้องการของกลุ่มสินค้าไทยจากชาวกัมพูชามีในระดับสูง รวมถึงนโยบายของบริษัทที่จะมุ่งพัฒนาโครงการอสังหา ริมทรัพย์ที่มีโอกาสและสนใจขยายลงทุนโครงการใหม่เพิ่มขึ้น รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าชาวกัมพูชาและกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่มีจำนวนมากขึ้นในทุกปี ดังนั้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาจึงมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างสดใสในระยะยาว

แม้ว่าในปีหน้าหลังจากรัฐบาลกัมพูชาจะปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำอยู่ที่ 153 เหรียญสหรัฐ/เดือน โดยบริษัทได้ปรับแผนธุรกิจในองค์กร เพื่อรับมือกับค่าแรงที่สูงขึ้น โดยปรับขึ้นราคาโครงการอสังหาริมทรัพย์ราว 5-10% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราไม่มากนัก และการปรับขึ้นราคาดังกล่าวยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชา ที่ปรับขึ้นราคาอสังหาริมทรัพย์เฉลี่ยที่ 5-10% ต่อเนื่องทุกปี

โดยเชื่อว่าในปี 2560 ผู้ประกอบการ แต่ละรายจะมีการปรับแผนธุรกิจเพื่อรับมือกับค่าแรงที่สูงขึ้นแตกต่างกัน