รัฐบาลสหรัฐฯ"ชัตดาวน์"

สภาคองเกรสล้มเหลวโหวตร่างงบประมาณ ส่งผลให้สหรัฐต้อง"ชัตดาวน์"หน่วยงานราชการ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย วุฒิสภาสหรัฐฯไม่สามารถผลักดันกฎหมายร่างงบประมาณชั่วคราวให้เห็นชอบได้ หลังจากเลยกำหนดเส้นตายภายในเวลา 24.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งจะส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราว หรือ "Government Shutdown" เป็นครั้งแรกภายใต้คณะการบริหารของนายทรัมป์

รายงานระบุว่าก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสีย 230 ต่อ 197 ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเมื่อคืนวันพฤหัสบที่ผ่านมา เพื่อส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาแต่วุฒิสภาไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวได้ จึงส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนตั้งแต่วันเสาร์นี้ ซึ่งจะเป็นวันครบรอบการดำรงตำแหน่ง 1 ปีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

อาคารรัฐสภาสหรัฐ

 สำหรับสาเหตุที่ทำให้การวุฒิสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณในครั้งนี้ได้เนื่องจากนายทรัมป์ต้องการสนับสนุนการยกเลิกงบประมาณโครงการดาก้า ซึ่งเป็นโครงการสมัยรัฐบาลโอบาม่า เพื่อคุ้มครองเยาวชนที่เดินทางเข้าสหรัฐอย่างผิดกฎหมายให้มีโอกาสได้รับการศึกษา จึงทำให้บรรดาสว.พรรคแดโมเครตและรีพับลิกันบางส่วนไม่พอใจ อีกทั้งนายทรัมป์ต้องการนำงบประมาณไปก่อสร้างกำแพงกั้นระหว่างพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ซึ่งการชัตดาวน์ในครั้งนี้ตรงกับช่วงวันครบรอบการดำรงตำแหน่ง 1 ปีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พอดี

ทั้งนี้สำหรับภาวะการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐเกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1-17 เดือนตุลาคมปี 2013 ในสมัยรัฐบาลบารัก โอบามา

สำหรับความเสียหายของการชัตดาวน์ภายใต้การบริหารของนายทรัมป์ครั้งนี้ สหพันธ์ลูกจ้างรัฐอเมริกันประเมินว่า จะมีพนักงานและลูกจ้างของรัฐที่ได้รับผลกระทบราว 850,000 คน จากทั้งหมด 3.5 ล้านคน โดยหน่วยงานที่จะไม่ได้รับผลกระทบจาการชัตดาวน์ได้แก่ หน่วยงานด้านกลาโหมและการรักษาความปลอดภัย หน่วยงานหลักอย่างทำเนียบขาว รัฐสภาและศาล หน่วยงานด้านการเดินทาง