พลเอกประยุทธ์ขึ้นปก"ไทม์"
นิตยสารไทม์ตีพิมพ์บทความสัมภาษณ์-วิเคราะห์บิ๊กตู่ จี้ปมสัญญาคืนประชาธิปไตย
นิตยสารไทม์ตีพิมพ์บทความสัมภาษณ์-วิเคราะห์บิ๊กตู่ จี้ปมสัญญาคืนประชาธิปไตย
เว็บไซต์นิตยสารไทม์เอเชียได้ตีพิมพ์หน้านิตยสารฉบับเดือนกรกฎาคมเป็นภาพของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกับบทความวิเคราะห์และสัมภาษณ์ในประเด็น ผู้นำไทยสัญญาจะคืนประชาธิปไตย แต่ยิ่งกระชับอำนาจ พร้อมหน้าปกขึ้นพาดหัวว่า "ประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ พลเอกประยุทธ์จะเลือกทางไหน" นอกจากนี้ยังภายในบทสัมภาษณ์ยังมีภาพถ่ายของพลเอกประยุทธ์ที่ถูกถ่ายขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นบรรยากาศแสงและมีเงาอยู่เบื้องหลัง
โดยนิตยสารไทม์ได้ตั้งคำถามกับพลเอกประยุทธ์ว่า ประเทศไทยจะอยู่ในรูปแบบนี้อีกนานเท่าไร ซึ่งเป็นเวลา 4 ปี แล้วและนับเป็นรัฐประหารครั้งที่ 12 นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญในปี 1932 และพลเอกประยุทธ์สัญญาจะคืนประชาธิปไตยให้กับคนไทย
นอกจากนี้ ยังมีการเปรียบเทียบ พล.อ.ประยุทธ์กับจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 11 ของไทย ให้เป็น "สฤษดิ์น้อย" รวมทั้งกล่าวถึงทักษะด้านการแต่งเพลงกับแต่งกลอน โดยพลเอกประยุทธ์ระบุว่าคนไทยชอบบทกวี
ไทม์ยังระบุอีกว่า นับตั้งแต่ที่พลเอกประยุทธ์เข้ายึดอำนาจในปี 2014 ประเทศไทยก็กลับเข้าสู่ความแข็งแกร่งอีกครั้งภายใต้การปกครองของทหาร เห็นได้จากจีดีพีของไทยเพิ่มขึ้น 4% จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่า 35 ล้านคนในปีที่ผ่านมา การส่งออกเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี รวมถึงโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก
นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ยังระบุถึงความสัมพันธ์ของไทยกับประเทศมหาอำนาจในเอเชียอย่างจีนว่า "จีนเป็นพันธมิตรเบอร์หนึ่งของไทย"
ทั้งนี้ไทม์ยังรายงานด้วยว่า แม้การพัฒนาหลายๆอย่างของไทยจะเดินหน้า แต่สังคมไทยเริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจการอยู่ในอำนาจของรัฐบาลทหารที่นานออกไปเรื่อยๆ
คำถามสุดท้ายของไทม์ที่ถามพลเอกประยุทธ์ คือ หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า พลเอกประยุทธ์จะลงจากอำนาจหรือไม่ นายกของไทยยักไหล่พร้อมระบุว่า "ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การของพี่น้องประชาชน ผมควบคุมสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้อยู่แล้ว"
ขณะเดียวกันนิตยสารไทม์ฉบับอินเตอร์ ยังได้ทำปกเสียดสีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ที่ยืนก้มมองเด็กหญิงผู้อพยพชาวฮอนดูรัสที่ร้องไห้ เนื่องจากต้องพรากจากแม่ที่โดนจับขณะอพยพข้ามมายังรัฐเท็กซัส จากนโยบายแบ่งแยกเด็กจากพ่อแม่ที่เป็นผู้อพยพเดินทางเข้าสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย พร้อมกับข้อความระบุว่า "ยินดีต้อนรับสู่อเมริกา"