ตายแล้ว! 20 ราย เหตุเขื่อนลาวแตก
เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก ทางการพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม พร้อมเร่งค้นหาผู้สูญหายอีกนักร้อย
เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก ทางการพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม พร้อมเร่งค้นหาผู้สูญหายอีกนักร้อย
ความคืบหน้าหลังเหตุเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย ในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก ในพื้นที่ห่างไกลทางใต้ของ สปป. ลาว แตกเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดมีรายงานว่าพบจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้วอย่างน้อย 20 ราย
แม้ผ่านไปเกือบ 24 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ทางการแขวงอัตตะปือ ยังไม่สามารถให้ข้อมูลจำนวนผู้เสียชีวิต หรือผู้สูญหายที่ชัดเจนได้เนื่องจากอุปสรรคด้านการสื่อสารในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม
แต่เจ้าหน้าที่ได้ส่งทีมช่วยเหลือและกู้ภัยเบื้องต้นออกไปค้นหาผู้ที่ยังคงติดอยู่บนหลังคาบ้าน ตามหมู่บ้านต่างๆในพื้นที่แล้ว ซึ่งขณะนี้แม้จะไม่มีมวลน้ำเพิ่มเติมที่ไหลออกจากเขื่อนแล้วก็ตาม แต่ปริมาณน้ำในหมู่บ้านที่มวลน้ำทะลักผ่านยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลแห่งชาติลาวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวของของลาวหลายคนถูกรัฐบาลสั่งห้ามเปิดเผยข้อมูลของเหตุการณ์ดังกล่าวต่อสื่อ แต่คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะสูงขึ้นหลังจากนี้อย่างแน่นอน
โดยขณะนี้มีประชาชนได้รับความเดือนร้อนราว 6 พันคน พื้นที่เสียหายส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทำกินทางการเกษตร
แบตเตอร์รี่่แห่งเอเชีย
ทั้งนี้สำหรับประเทศลาวได้ฉายาว่าเป็น "แบตเตอร์รี่แห่งเอเชีย" จากการที่เป็นแหล่งผลิตและส่งออกกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่ง
ซึ่งโครงการก่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยแห่งนี้ เป็นโครงการร่วมทุนของบริษัทต่างชาติ และรัฐบาลลาว มีบริษัทของไทยถือหุ้นอยู่ 25% คือ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) โดยโครงการคืบหน้ากว่า 80% แล้ว มีแผนจะสร้างเสร็จในช่วงต้นปีหน้า มีกำลังผลิต 410 เมกะวัตต์ โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ราว 90% จะส่งมายังประเทศไทย
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัท SK Engineering & Construction Co สัญชาติเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนในโครงการนี้ด้วย หุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ร่วงลงไปถึง 30% ของมูลค่าในตลาดเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ดี บริษัท SK ได้เผยว่ามีการตรวจพบตรวจพบความเสียหายที่เขื่อนเสริมเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น อันเนื่องมาจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุเซินติญ จึงได้รีบแจ้งไปยังหน่วยงานท้องถิ่นของลาวรับผิดชอบ ให้เร่งอพยพประชาชน ประกอบกับปริมาณฝนที่ตกอย่างหนักทำให้ถนนได้รับความเสียหายและเป็นอุปสรรคต่อการซ่อมแซม
ด้านสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของลาวได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันลาวมีโครงการโรงไฟฟ้ามากกว่า 54 แห่ง โดยหลังจากนี้ภายในปี 2021 ลาวจะมีโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกเป็น 100 แห่ง โดยโครงการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลลาวซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล
ภาพ : ABC News Laos , AP, Reuters