posttoday

"ไทย"ทะยาน 10 อันดับ ผงาดเสรีภาพเศรษฐกิจโลก

31 มกราคม 2562

มูลนิธิเฮอริเทจ สถาบันคลังสมองจากสหรัฐเผยอันดับเสรีภาพทางเศรษฐกิจของไทยเพิ่มขึ้น 10 อันดับ มาอยู่ที่ 43 จาก 180 ประเทศทั่วโลก

มูลนิธิเฮอริเทจ สถาบันคลังสมองจากสหรัฐเผยอันดับเสรีภาพทางเศรษฐกิจของไทยเพิ่มขึ้น 10 อันดับ มาอยู่ที่ 43 จาก 180 ประเทศทั่วโลก

**********************************

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

มูลนิธิเฮอริเทจ สถาบันคลังสมองจากสหรัฐ เปิดเผยดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจ ปี 2019 พบว่า อันดับเสรีภาพทางเศรษฐกิจของไทยเพิ่มขึ้น 10 อันดับ มาอยู่ที่ 43 ในปีนี้ จาก 180 ประเทศทั่วโลก รั้งอันดับ 3 ของกลุ่มประเทศอาเซียน

ทั้งนี้ คะแนนของไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 68.3% ในปี 2019 จาก 67.1% เมื่อปีก่อนหน้า โดยไทยจัดอยู่ในกลุ่มที่มีเสรีภาพทางเศรษฐกิจปานกลางค่อนไปเกือบมีเสรีภาพเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเทียบกับคะแนนเฉลี่ยทั่วโลกและเอเชียแปซิฟิก ซึ่งอยู่ที่ 60.8% และ 60.6% จัดอยู่ในกลุ่มที่มีเสรีภาพปานกลางค่อนไปเกือบไม่ค่อยเสรีเป็นส่วนใหญ่

สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนแบ่งเป็นทั้งหมด 12 หัวข้อ โดยคะแนนของไทยปรับขึ้น 7 หัวข้อ นำโดยสุขภาพทางคลังซึ่งได้คะแนนมากที่สุดอยู่ที่ 96.5% สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยโลกที่ 68.6%

หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์การปรับตัวขึ้น คะแนนด้านเสรีภาพธุรกิจของไทยเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 5.3% ไปอยู่ที่ 82.5% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยโลกและเอเชียแปซิฟิกที่ 63.5% และ 66.1%

มูลนิธิเฮอริเทจระบุว่า เสรีภาพด้านเศรษฐกิจของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากนโยบายรัฐบาล ที่เน้นกระตุ้นการบริโภคและการลงทุน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มงบลงทุนภาครัฐในด้านโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้ ไทยยังมีความก้าวหน้าในการปรับปรุงกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากและมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดการลงทุน อีกทั้งยังมีการบูรณาการเศรษฐกิจให้เข้ากับตลาดโลกมากกว่าในอดีต

ทั้งนี้ มูลนิธิเฮอริเทจเสริมว่า กระบวนการจัดตั้งธุรกิจในไทยยังได้รับการยกระดับดีขึ้น และภาคการเงินก็เปิดกว้างสำหรับการแข่งขัน ขณะที่เสรีภาพทางการค้าอยู่ในระดับค่อนข้างสูง

ขณะเดียวกัน การบังคับใช้เรื่องกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินก็นับว่ามีประสิทธิภาพในระดับดี โดยรัฐบาลมีการปรับปรุงระบบลงทะเบียนทรัพย์สินให้ง่ายขึ้น ส่งผลให้การทำสัญญามีความยุ่งยากน้อยลง ขณะที่ความน่าเชื่อถือของระบบการจัดการที่ดินก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ดี มูลนิธิเฮอริเทจกล่าวว่า ไทยยังมีปัญหาด้านอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ 245 รายการ ทำให้คะแนนเสรีภาพทางการค้าของไทยลดลง 0.1% อีกทั้งมีปัญหาเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาด้วยเช่นกัน ส่วนในด้านการลงทุนนั้น แม้ว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการลงทุน แต่ในบางภาคส่วนยังคงมีข้อจำกัดสำหรับการเข้าเป็นเจ้าของกิจการของชาวต่างชาติอยู่

มูลนิธิเฮอริเทจระบุว่า สำหรับระบบตุลาการนั้นก็ยังคงง่ายต่อการถูกแทรกแซง และมีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่นที่กระจายวงกว้างจนกร่อนทำลายความแข็งแกร่งของรัฐบาล รวมถึงยังมีแนวคิดที่มองว่าการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจ

หากเทียบในกลุ่มอาเซียน สิงคโปร์ ครองอันดับ 1 ได้คะแนน 89.4% ตามด้วยมาเลเซียที่ได้ 74% และไทยอันดับ 3 ด้านอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ทำคะแนนได้ 65.8% และ 63.8% ขณะที่กัมพูชา ลาว เวียดนาม และเมียนมา 57.8% 57.4% 55.3% และ 53.6%

สำหรับประเทศที่มีเสรีภาพทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลกตกเป็นของฮ่องกง ที่ครองอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 25 ด้วยคะแนนคงที่จากปีก่อนที่ 90.2 คะแนน