เปิดคุกโคตรอาชญากร อัลคาทราซแห่งเทือกเขาร็อคกี้
ส่องเรือนจำที่จะใช้ขังเอล ชาโป เจ้าพ่อยาเสพติดชาวเม็กซิกัน เข้มที่สุดยากที่จะหนีออกมาได้
ฮัวกิน กุซมาน หรือ "เอล ชาโป" ถูกศาลสหรัฐตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและบวกเพิ่มอีก 30 ปี ถูกยึดทรัพย์สินอีก 12,6000 ล้านเหรียญสหรัฐในข้อหาฆาตกรรม แก๊งอาชญากรรม ค้ายาเสพติด ฟอกเงิน ฯลฯ หลังจากมีคำตัดสินได้ไม่ถึง 48 ชั่วโมง ล่าสุด เดอล ชาโป ได้ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำความมั่นคงเข้มงวด หรือ Supermax prison เพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนีออกมาอีก
เอล ชาโป เคยหนีจากเรือนจำในเม็กซิโกมาแล้วถึง 2 ครั้ง ดังนั้นเมื่อถูกส่งตัวมาพิจารณาคดีและรับโทษในสหรัฐ จึงมีการควบคุมตัวเขาอย่างเข้มงวดที่สุด หลังจากนั้นส่งตัวเขาไปยังคุกที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดในบรรดาเรือนจำ Supermax prison ด้วยกัน นั่นคือเรือนจำ ADX Florence ซึ่งตั้งอยู่ในเขเทือกเขาร็อคกี้ ในรัฐโคโลราโด จนมีฉายาว่า "อัลคาทราซแห่งเทือกเขาร็อคกี้" และมีสภาพที่น่าอึดอัด จนถูกขนานนามว่าไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์อยู่ และการถูกขังที่นี่เป็นโทษที่เลวร้ายที่สุดรองจากโทษประหารแค่นิดเดียว
ADX Florence ใช้เป็นที่คุมขังอาชญากรที่พิจารณาแล้ว่ามีความอันตราย มีชื่อเสียงหรืออิทธิพลมากกว่านักโทษทั่วไป หรือเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติ ผู้ต้องขังในปัจจุบันส่วนใหญ่มีประวัติก่ออาชญากรรมรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และผู้ต้องขังในเรือนจำอื่นรวมถึงการฆาตกรรมเพื่อนร่วมคุก
สภาพภายในห้องขัง
นักโทษแต่ละคนจะถูกขังในห้องเดี่ยวเป็นเวลา 23 ชั่วโมงต่อวัน อาหารจะถูกส่งให้ในห้องขัง โดยอาหารที่จัดให้จะเป็นแบบพิเศษ โดยนักโทษจะไม่สามารถนำอาหารไปใช้ทำร้ายตัวเองได้ นักโทษมีเวลาออกจากห้องขัง 1 ชั่วโมงเพื่อออกกำลังกายหรือคุยโทรศัพท์ โดยมีเวลาพักผ่อนคนละ 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ตลอดเวลาดังกล่าวจะต้องถูกจับตาตลอด 24 ชั่วโมง และเวลาออกจากห้องขังจะถูกใส่กุญแจมือและตีตรวน โดยมีเจ้าหน้าที่อย่างน้อยสามคนคอยประกบ เวลาพาตัวไปยังสถานที่พักผ่อน
พื้นที่ของเรือนจำส่วนใหญ่ตั้งอยู่เหนือพื้นดิน ส่วนเดียวที่อยู่ใต้ดินเป็นทางเดินใต้ดินที่เชื่อมโยงห้องขังกับล็อบบี้
แผนผังของห้องขัง
แต่ละห้องขังมีโต๊ะ เก้าอี้ และเตียง ซึ่งเกือบทั้งหมดทำจากคอนกรีต ห้องน้ำมีระบบจับเวลาเพื่อป้องกันน้ำท่วมและอ่างล้างมือมีก๊อกที่ออกแบบมาเพื่อไม่ให้ใช้ทำอันตรายได้ ห้องพักอาจติดตั้งกระจกเหล็กขัดมันติดกับผนัง ส่วนการให้แสงสว่างจะทำผ่านระบบไฟฟ้าที่สามารถปิดได้จากระยะไกล สำหรับนักโทษที่มีพฤติกรรมดีจะมีวิทยุและโทรทัศน์ถ่ายทอดรายการบันเทิง การศึกษาและรายการทางศาสนา นอกจากนี้ทุกห้องยังมีระบบป้องกันเสียงรบกวน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังสื่อสารกันผ่านรหัสมอร์ส
หน้าต่างถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังรู้ตำแหน่งเฉพาะภายในเรือนจำนักโทษจะสามารถมองเห็นแค่ท้องฟ้าและหลังคา จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะวางแผนหลบหนี นอกจากนี้ ในเวลาพักผ่อน ผู้ต้องขังยังต้องไปออกกำลังกายภายในหลุมคอนกรีตที่มีลักษณะคล้ายสระว่ายน้ำที่ว่างเปล่า ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้นักโทษรู้ตำแหน่งของตัวเองในเรือนจำเช่นกัน โดยหลุมมีขนาดใหญ่พอที่นักโทษจะเดินเป็นเส้นตรงได้ 10 ก้าว หรือเดินเป็นวงกลม 31 ก้าวเท่านั้น
ภายนอกเรือนจำ ภาพโดย AFP
นักโทษสำคัญที่อยู่ในเรือนจำนี้คือ กลุ่มผู้ต้องโทษชาวต่างชาติจากคดีก่อการร้ายในสหรัฐหรือทำร้ายชาวสหรัฐ โดยเฉพาะสมาชิกอัลกออิดะห์ รวมถึงมือก่อการร้ายที่เป็นชาวสหรัฐเอง เช่นมือระเบิดในกรณีบอสตันมาราธอน ปี 2013 หรือหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดในการวางระเบิดที่โอคลาโฮมา เมื่อปี 1995
นักโทษอีกกลุ่มที่มีจำนวนมากเป็นพิเศษคือ หัวโจกของบรรดาแก๊งอาชญากร เช่นบรรดาบอสของกลุ่มแก๊งอาชญากรในชิคาโก กลุ่มคลั่งเชื้อชาติ อาชญากรชาวเม็กซิกัน ซึ่งคนล่าสุดคือ เอล ชาโป คาดว่า เอล ชาโป จะถูกนำตัวไปอยู่ในแดนที่โดดเดี่ยวที่สุดในเรือนจำ คือแดน 13 และจะถูกห้ามพบกับสมาชิกในครอบครัวไม่เว้นแม้แต่ภรรยาและลูก