ลีกาชิงออกโรงเตือนผู้ประท้วงหยุดใช้ความรุนแรง

มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของฮ่องกงออกโรงเตือนให้ยุติการประท้วงและการใช้ความรุนแรง

ในที่สุด ลีกาชิง มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของฮ่องกง ได้แสดงท่าที่ต่อสาธารณะเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงครั้งนี้เป็นครั้งแรก ด้วยการซื้อโฆษณา 2 หน้าเต็มๆ ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเพื่อเรียกร้องให้ยุติการประท้วงและหยุดใช้ความรุนแรง

ในโฆษณาทั้งสองหน้า โดยหนึ่งหน้าเป็นสีและอีกหนึ่งหน้าเป็นขาวดำ ต่างลงท้ายว่า “ลีกาชิง ประชาชนฮ่องกงคนหนึ่ง”

โฆษณาชิ้นที่เป็นภาพสีนั้นใช้ถ้อยคำตรงไปตรงมาและกระชับอยู่กึ่งกลางหน้าตัวโตๆ ว่า ?? (เป้าลี่) ซึ่งแปลว่าความรุนแรง โดยมีวงกลมสีแดงขีดฆ่า ด้านข้างของคำคำนี้มีสโลแกนว่า “รักอิสรเสรี รักการให้อภัย รักกฎหมาย รักจีน รักฮ่องกง รักตัวเอง”

ส่วนพาดหัวด้านบนใช้คำว่า “เจตนาดีอาจนำมาสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย” ส่วนด้านล่างใช้คำว่า “หยุดแสดงความโกรธเกรี้ยวและความรุนแรงโดยอ้างคำว่ารักบังหน้า”

ด้านหน้าที่เป็นข่าวดำเริ่มด้วยประโยค “ก็เหมือนกับที่ผมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ : ” ตามด้วย “เราปวดร้าวกันมามากแล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นอีกเพียงนิดเดียวเราอาจจะพังได้”

ลีกาชิงเคยกล่าวประโยคเดียวกันนี้เมื่อปี 2016 เมื่อเขาถูกถามว่า เหลียงชุนอิง ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงในขณะนั้นจะลงสมัครชิงตำแหน่งสมัยที่ 2 หรือไม่ และในที่สุดเหลียงชุนอิงก็ไม่ได้ลงสมัครเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ประโยคดังกล่าวเป็นช่วงหนึ่งของกลอนสมัยราชวงศ์ถังที่เขียนโดย หลี่เสียน โอรสของฮ่องเต้ถังเกาจงกับพระนางบูเช็กเทียน ถือเป็นประโยคที่เปิดกว้างในการตีความและมีความหมายแฝง

นอกจากนี้ ลีกาชิง ยังแถลงต่อสื่อผ่านตัวแทนด้วยว่า ตัวเขาเองเชื่อว่าความมั่งคั่งของฮ่องกงขึ้นอยู่กับหลักการหนึ่งประเทศสองระบบ โดยเรื่องรีบด่วนของฮ่องกงตอนนี้คือการยุติการใช้ความรุนแรงและเคารพกฎหมาย “หนทางไปสู่นรกนั้นมักจะถูกกรุยทางด้วยความตั้งใจดี เราต้องระมัดระวังผลที่จะตามมาโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจด้วย”

ตัวแทนยังระบุอีกว่า ลีกาชิงเชื่อว่าการใช้ความรุนแรงทั้งทางความคิดและการกระทำไม่ใช่หนทางสู่การบรรลุเป้าหมาย เราต้องรักตัวเอง รักอัตลักษณ์ความเป็นคนจีน และพลเมืองฮ่องกง เช่นเดียวกับที่เรารักอิสรเสรี ความเห็นอกเห็นใจกัน และรักกฎหมาย

ขณะที่ ริชาร์ด ลี บุตรชายคนสุดท้องของลีกาชิง ก็ลงโฆษณาเต็มหน้าเช่นกัน โดยระบุว่า “คัดค้านการใช้ความรุนแรง รักษาเสถียรภาพของสังคม หันมาพูดคุยกันอย่างมีเหตุผล”