เปิดความหมายที่แท้จริง ‘New Normal’ หรือ ‘ความปกติรูปแบบใหม่’ คำยอดฮิตช่วงโควิด-19
โพสต์ทูเดย์พาไปรู้จักความหมายและที่มาที่ไปของคำว่า New Normal แบบเข้าใจง่ายๆ
ช่วงที่เชื้อโคโรนาไวรัสกำลังแพร่ระบาด หลายคนคงได้ยินคำว่า New Normal หรือความปกติในรูปแบบใหม่ บ่อยครั้ง ในความหมายว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนจะเปลี่ยนไปหลังจากโรคระบาดผ่านพ้นไป แล้วจริงๆ แล้วคำคำนี้มีความหมายว่าอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ ไปดูกัน
คำว่า New Normal ถูกใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2008 โดย บิลล์ กรอสส์ นักลงทุนในตราสารหนี้ชื่อดังชาวอเมริกัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Pacific Investment Management (PIMCO)
กรอสส์ใช้คำนี้นิยามสภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2007-2008 ในสหรัฐ และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Recession) ช่วงปี 2008-2012 ทั่วโลก
โดยบอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการเติบโตที่ชะลอตัวลง และจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่ำกว่าเดิม
อีกทั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจจะไม่ได้เป็นไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจเดิมที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยกำหนดทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจเปลี่ยนไป หรือส่งผลต่อเศรษฐกิจในลักษณะที่แตกต่างจากอดีต
ที่ใช้คำว่า New Normal ก็เพราะเดิมวิกฤตเศรษฐกิจจะมีรูปแบบค่อนข้างชัดเจนคือ เมื่อเติบโตไปได้ระยะหนึ่งจะมีปัจจัยทำให้เกิดฟองสบู่ จากนั้นวิกฤตเศรษฐกิจจะตามมา
หลังวิกฤตผ่านพ้นไป เศรษฐกิจก็จะเริ่มฟื้นตัวและกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในเวลาไม่นาน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติ หรือ Normal
แต่หลังจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่สามารถกลับไปเติบโตได้ดีแบบเดิมอีก เนื่องจากปัจจัยต่างๆ อาทิ การพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไปทั้งที่บางประเทศมีหนี้สาธารณะสูงมาก
จากนั้นมาคำว่า New Normal จึงถูกนำมาใช้เรียกการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ถดถอยลง และอาจไม่มีทางกลับไปเติบโตได้ในระดับเดิมอีกแล้ว
ตัวอย่าง New Normal เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ เศรษฐกิจของจีน
ช่วงก่อนปี 2007 ที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เศรษฐกิจจีนขยายตัวมากกว่า 10% มาโดยตลอด แต่หลังจากนั้นการเติบโตก็ลดลงต่อเนื่อง จนถึงปี 2014 เศรษฐกิจจีนไม่เคยเติบโตเกิน 7% อีกเลย
ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงจึงชี้แจงกับชาวจีนว่า ที่เศรษฐกิจจีนเติบโตเพียง 7% แทนที่จะเป็นเลขสองหลักเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ใช่เป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เป็น New Normal ทางเศรษฐกิจของจีนในอนาคต
ส่วน New Normal ในยุค Covid-19 ถูกนำมาใช้ในความหมายว่าสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จะเกิดขึ้นและกลายเป็นความปกติในรูปแบบใหม่หลังจากเชื้อโคโรนาไวรัสหมดไป
ไม่ว่าจะเป็นการช็อปปิ้งที่จะเปลี่ยนจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ การทำงานอาจทำจากที่บ้านมากขึ้น หน้ากากอนามัยและเจลล้งมือกลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ และการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่แทนการนั่งทานในร้าน เป็นต้น