posttoday

จีนแบน H&M หลังแสดงจุดยืนไม่เอาฝ้ายซินเจียง

25 มีนาคม 2564

H&M เผชิญกับการคว่ำบาตรในจีน ถูกลบจากแพลตฟอร์มออนไลน์ คนดังแห่ฉีกสัญญา หลังแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนการใช้แรงงานในซินเจียง

H&M แบรนด์แฟชั่นรายใหญ่อันดับสองของโลกและอันดับสี่ของประเทศจีนกำลังถูกคว่ำบาตรในประเทศจีนอันเนื่องมาจากแถลงการณ์ของบริษัทที่ออกมาพูดถึงการบังคับใช้แรงงานในซินเจียงส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในประเทศจีน

ภายหลังจากที่ H&M แถลงเมื่อปีที่แล้วว่า "กังวลอย่างยิ่งกับรายงานที่มีการกล่าวหาเรื่องการบังคับใช้แรงงานและการเลือกปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์กลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมในซินเจียงและได้หยุดสั่งซื้อฝ้ายจากผู้ผลิตในภูมิภาคดังกล่าวแล้ว" อันเนื่องมาจากข้อมูลชี้ว่าเสื้อผ้าฝ้ายประมาณ 1 ใน 5 ที่ขายทั่วโลกมาจากชนกลุ่มน้อยมากถึง 1 ล้านคนในซินเจียงที่ถูกบังคับใช้แรงงานและให้เชื่อฟังพรรคคอมมิวนิสต์

ส่งผลให้ตอนนี้ H&M กำลังถูกคว่ำบาตรจากผู้บริโภคในประเทศจีนและมีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างบนโลกออนไลน์รวมถึงกลุ่มสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์จีน (Communist Youth League) ซึ่งระบุว่า "ต้องการสร้างรายได้จากจีนแต่ปล่อยข่าวปลอมและคว่ำบาตรผ้าฝ้ายจากซินเจียงหรือ? หวังมากไปหรือเปล่า"

ขณะเดียวกัน หวง ซวน (Huang Xuan) นักแสดงชาวจีนซึ่งเคยทำสัญญาเสื้อผ้าบุรุษร่วมกับ H&M ได้โพสต์ข้อความว่าจะฉีกสัญญาดังกล่าวพร้อมเสริมว่าเขาไม่สนับสนุนการใส่ร้ายและสร้างข่าวลือรวมถึงความพยายามใดๆ ที่จะทำให้ประเทศเสื่อมเสียชื่อเสียง

รวมถึงนักร้องและนักแสดงวิกตอเรีย ซ่ง (Victoria Song) ก็ออกแถลงการณ์ในรูปแบบเดียวกันว่าเธอไม่มีความสัมพันธ์กับแบรนด์อีกต่อไปและผลประโยชน์ของชาติอยู่เหนือสิ่งอื่นใด

นอกจากนี้ผู้ประกาศข่าวจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) วิพากษ์วิจารณ์ H&M และกล่าวว่า "เป็นการตัดสินใจที่ผิดที่พยายามรับบทเป็นฮีโร่ H&M ต้องรับผิดชอบอย่างหนักกับการกระทำที่ไม่ถูกต้อง"

ไม่เพียงแค่นั้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (24 มี.ค.) H&M ถูกลบออกจากแพลตฟอร์มออนไลน์รายใหญ่ของจีนอย่างน้อย 3 แห่ง ได้แก่ Pinduoduo, Jingdong และ Tmall

อย่างไรก็ตามทางแบรนด์ไม่ได้นิ่งนอนใจกับกระแสที่เกิดขึ้นโดยในวันเดียวกัน H&M ประจำประเทศจีนได้ออกมากล่าวว่า "บริษัทไม่ได้แสดงจุดยืนทางการเมืองใดๆ และ H&M ยังคงเคารพผู้บริโภคชาวจีนเหมือนอย่างเคยและมุ่งมั่นที่จะลงทุนและพัฒนาระยะยาวในประเทศจีน"

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายแบรนด์ อาทิ Nike ที่ออกแถลงการณ์ว่าจะไม่จัดหาผลิตภัณฑ์จากซินเจียงส่งผลให้ต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรเช่นเดียวกัน

Photo by Odd ANDERSEN / AFP