วงการวิทย์สั่นสะเทือนเมื่อนักวิจัยเพาะเซลล์มนุษย์ในตัวอ่อนลิง
การทดลองนี้จุดประกายการถกเถียงทางจริยธรรมในหมู่นักวิทยาศาสตร์
ทีมนักวิจัยสหรัฐ - จีนทำการเพาะตัวอ่อนลิงที่มีเซลล์ของมนุษย์ในห้องปฏิบัติการ โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ฉีดเซลล์ต้นกำเนิดของมนุษย์ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีความสามารถในการพัฒนาเป็นเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายเข้าไปในตัวอ่อนลิงแสมจากนั้นทำการศึกษาตัวอ่อนที่กำลังพัฒนาเป็นเวลานานถึง 20 วัน
ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย ศ. ฮวน คาร์ลอส อิซปิซัว เบลมอนเตจาก Salk Institute ในสหรัฐซึ่งในปี 2017 เขามีส่วนช่วยสร้างลูกผสมมนุษย์กับหมูตัวแรก และสมาชิกในทีมของเขายังเป็นคนกลุ่มแรกที่สามารถเพาะเลี้ยงตัวอ่อนลิงในจานเพาะได้นานถึง 20 วันหลังการปฏิสนธิเมื่อปี 2019
ศ. เบลมอนเต กล่าวว่างานของพวกเขาสามารถปูทางในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอย่างรุนแรงของอวัยวะปลูกถ่ายสำหรับมนุษย์ รวมทั้งช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับพัฒนาการของมนุษย์ในระยะเริ่มต้น, พัฒนาการของโรค และความชราภาพ
การศึกษานี้ตีพิมพ์ในวารสาร Cell เมื่อวันที่ 15 เมษษยน ซึ่ง ศ. เบลมอนเตยืนยันว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านจริยธรรมและกฎหมายในปัจจุบันและอธิบายว่าทำการศึกษาเหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจและปรับปรุงสุขภาพของมนุษย์
แต่ข่าวนี้สร้างประเด็นถกเถียงอย่างหนักเรื่องจริยธรรมวาสารออนไลน์ด้านวิทยาศาสตร์ Nature ชี้ว่า การทดลดงล่าสุดทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่นักชีววิทยาพัฒนาการ บางคนตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการทดลองโดยใช้ไพรเมต (ลิง) ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับมนุษย์ สัตว์เหล่านี้ไม่ควรจะถูกใช้เป็นสัตว์จำลอง/สัตว์ทดลองเหมือนพวกหนูและสัตว์ฟันแทะ นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่ใช่มนุษย์ได้รับการคุ้มครองตามกฎจริยธรรมการวิจัยที่เข้มงวดกว่าสัตว์ฟันแทะ และพวกเขากังวลว่างานดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นการต่อต้านของสาธารณชน
สำนักข่าว BBC สัมภาษณ์ดร. แอนนา สมาจดอร์ ผู้บรรยายรายวิชาและนักวิจัยด้านจริยธรรมชีวการแพทย์จาก Norwich Medical School ซึ่ง ดร. สมาจดอร์ การทดลองนี้เป็นความท้าทายทางจริยธรรมและกฎหมายที่สำคัญ เนื่องจากเราไม่สามารถทำการทดลองบางประเภทในมนุษย์ได้ และยังไม่ชัดเจนอีกว่าตัวอ่อนเหล่านี้จะถือเป็นมนุษย์หรือไม่
คริสติน แมทธิวส์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจาก Baker Institute กล่าวกับ NPR ว่าสาธารณชนจะต้องกังวลและเธอก็เช่นกัน เพราะเรากำลังแค่ต้องการผลักดันวิทยาศาสตร์ไปข้างหน้า โดยไม่ได้หารือกันว่าอะไรควรและไม่ควรทำ
ภาพประกอบ - นักวิจัยใช้คราบแอนติบอดีเรืองแสงและกล้องจุลทรรศน์ขั้นสูงเพื่อให้เห็นภาพเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันในตัวอ่อน (เอ็มบริโอ) ในระยะเริ่มแรก สีแดงบ่งบอกถึงเซลล์ต้นกำเนิดของมนุษย์ ภาพจาก Weizhi Ji/Kunming University of Science and Technology