สหรัฐเตรียมถกหลังพบเคสหัวใจอักเสบเกินคาดหลังฉีดวัคซีน mRNA
สหรัฐเผยพบกรณีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีน mRNA มากกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่ม
รอยเตอร์สรายงานว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เผยเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่าพบกรณีการเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจเอกเสบหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์ (Pfizer) และโมเดอร์นา (Moderna) ครบ 2 เข็มมากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยเฉพาะในกลุ่มคนเพศชายที่อายุยังน้อย
CDC ระบุว่ามีประชาชนอายุระหว่าง 16 ถึง 24 ปีที่รายงานอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอยู่ที่ 283 รายและราว 80% เป็นผู้ชาย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้อยู่ที่ 10 ถึง 102 รายเท่านั้น
CDC ยังเผยว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชาชนในสหรัฐที่รายงานอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาเข็มที่ 2 มีอายุระหว่าง 12 ถึง 24 ปี อย่างไรก็ตามกลุ่มอายุเหล่านี้มีสัดส่วนไม่ถึง 9% ของผู้ที่ได้รับวัคซีนทั้งหมด
ขณะนี้ CDC และหน่วยงานด้านสุขภาพอื่นๆ กำลังตรวจสอบกรณีการเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลรายงานว่าพบความเชื่อมโยงของอาการดังกล่าวกับชายหนุ่มที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์เช่นกัน
อย่างไรก็ตามหน่วยงานยังคงประเมินความเสี่ยงและยังไม่สรุปว่าวัคซีนเป็นสาเหตุของอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
ดร. ทอม ชิมาบุคุโร รองผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัยด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน CDC เผยว่าอาการดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายใน 1 สัปดาห์หลังการฉีดวัคซีน โดยส่วนใหญ่เป็นเพศชายที่อายุน้อย
ด้านบริษัทผู้ผลิตวัคซีนไฟเซอร์กล่าวว่าจำนวนผู้พบอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวยังมีน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีน mRNA ทั้งหมด ซึ่งประมาณ 130 ล้านคนในสหรัฐได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว
พร้อมสนับสนุนให้มีการประเมินอย่างละเอียดโดยไม่ด่วนสรุปว่าวัคซีนชนิด mRNA เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
เช่นเดียวกับโมเดอร์นาซึ่งยังไม่สรุปถึงความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของวัคซีนและอาการดังกล่าว แต่กล่าวว่ากำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขและหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อประเมินปัญหาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ CDC กล่าวว่าจะจัดการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการสร้างภูมิคุ้มกันในสัปดาห์หน้าเพื่อประเมินหลักฐานเพิ่มเติม และประเมินความเสี่ยงของอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังจากฉีดวัคซีนชนิด mRNA