การระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ที่ทำให้ทั้งปีโลกมีแต่ฤดูหนาว

19 มกราคม 2565

ย้อนเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ที่ทำให้โลกปราศจากฤดูร้อน และเหตุการณ์ระเบิดปริศนาครั้งมโหฬารที่อาจเคยเกิดขึ้นใกล้ๆ กับตองกามาก่อน

ปีไร้ฤดูร้อน หรือ Year Without a Summer เกิดขึ้นหลังการระเบิดของภูเขาไฟตัมโบรา บนเกาะซุมบาวา ซึ่งเป็นหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ในขณะนั้น หรือประเทศอินโดนีเซียในปัจจุบัน

นับว่าเป็นการปะทุของภูเขาไฟครั้งที่รุนแรงที่สุดในโลกครั้งหนึ่งนับตั้งแต่มีการบันทึก และเป็นการปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 1 พันปี แรงระเบิดทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวได้ยินไกลไปถึง 850 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 7 หมื่นคน

ภูเขาไฟตัมโบราซึ่งปะทุขึ้นในปี 1815 นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อพื้นที่่ทั่วเกาะซุมบาวาแล้ว ลาวาที่ไหลนองท่วมพื้นบริเวณรอบภูเขาไฟยังทำให้ทุ่งนาถูกทำลาย ท้องฟ้ามืดมัวไร้แสงอาทิตย์นาน 2 วัน

ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายบนเกาะเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปทั่วทุกมุมโลก

ในปีต่อมาเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าปีไร้ฤดูร้อน หรือ Year Without a Summer ซึ่งเป็นปีที่มีช่วงฤดูร้อนผิดจากปกติ โดยจอห์น ดี. โพสต์ นักประวัติศาสตร์เรียกช่วงเวลานี้ว่าเป็น "วิกฤตการณ์อันยากเข็ญครั้งยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายในโลกตะวันตก"

ในช่วงเวลานั้นโลกก็ได้รับแสงอาทิตย์น้อยลงถึงร้อยละ 20 สภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงทำให้อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยลดลง 0.4 ถึง 0.7 องศาเซลเซียส เพราะฝุ่นปกคลุมไปทั่วชั้นบรรยากาศ มีเถ้าถ่านและละอองภูเขาไฟมากมายซึ่งต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะตกสู่พื้นโลกจนหมด

อุณหภูมิแถบซีกโลกเหนือลดลงอย่างมาก ส่งผลให้เกิดวิกฤตขาดแคลนอาหารครั้งใหญ่ในซีกโลกเหนือหลายประเทศ ขณะที่ยุโรปมีช่วงฤดูร้อนที่หนาวเย็นที่สุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้พืชพันธุ์ธัญญาหารในยุโรปเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาและแคนาดาถูกทำลายไปนานกว่า 2 ปี

การระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ที่ทำให้ทั้งปีโลกมีแต่ฤดูหนาว

ความล้มเหลวในการเพาะปลูกจากปีที่ปราศจากฤดูร้อนอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดใจกลางอเมริกา หรือ American Heartland เมื่อประชาชนหลายพันคนโดยเฉพาะชาวนาอพยพออกจากนิวอิงแลนด์ไปทางตะวันตกของนิวยอร์กและดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือ

เพื่อค้นหาสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยมากขึ้น ดินที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และสภาพการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น ไม่นานหลังจากนั้นอินดีแอนาและอิลลินอยส์ก็กลายเป็นรัฐ ขณะที่รัฐเวอร์มอนต์มีประชากรลดลงกว่า 1 หมื่นคน

อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่อึมครึมเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดงานเขียนและงานวรรณกรรมชิ้นสำคัญอยู่ไม่น้อย รวมถึงนวนิยายสยองขวัญยอดนิยมอย่างแฟรงเกนสไตน์ (Frankenstein) ของแมรี เชลลีย์ นอกจากนี้จะสังเกตได้ว่าภาพวาดวิวทิวทัศน์ในยุคสมัยนั้นจะเต็มไปด้วยบรรยากาศที่มืดมนและอึมครึม

ปริศนาอภิมหาภูเขาไฟที่อาจเคยเกิดขึ้นในตองกา

การศึกษาน้ำแข็งแกนกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกในปี 1990 พบข้อมูลบางอย่างที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าโลกเคยเกิดการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้ที่อยู่ระหว่างตองกาและอินโดนีเซีย ในปี 1808

ซึ่งมีความรุนแรงเทียบได้กับการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวในอินโดนีเซีย ในปี 1883 ที่นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่าอาจมีส่วนทำให้โลกเย็นลง คล้ายกับการปะทุของภูเขาไฟตัมโบรา ซึ่งทำให้โลกไม่มีฤดูร้อนในปี 1816

โดยมีรายงานว่าในช่วงปี 1808 ถึง 1809 มีเมฆหมอกปกคลุมไปทั่วโคลอมเบียและบดบังแสงของดวงอาทิตย์ และยังเกิดอากาศหนาวเย็นผิดปกติและน้ำค้างแข็ง เช่นเดียวกับเปรูซึ่งพบเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน

Photo by NASA Earth Observatory/Wikipedia

Thailand Web Stat