โซรอสชี้สีจิ้นผิงกำลังพลาดมหันต์ อาจหมดหวังเป็นผู้นำตลอดชีพ
โซรอสโจมตีสีจิ้นผิง เผย ในพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีความขัดแย้ง จอร์จ โซรอส เจ้าของฉายาพ่อมดการเงิน กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม World Economic Forum 2022 ที่ดาวอส
โซรอสกล่าวถึงการยึดมั่นในนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ของจีนที่ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชนจากการล็อคดาวน์ครั้งล่าสุด โดยเฉพาะในเซี่ยงไฮ้ และมั่นกำลังสั่นคลอนสถานะของสีจิ้นผิง
"หลายคนงงงวยกับวิธีการที่ดูเหมือนไร้เหตุผลนี้ แต่ผมสามารถให้คำอธิบายกับคุณได้ สีปกปิดความผิดลับๆ เอาไว้ เขาไม่เคยบอกคนจีนว่าพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนที่ออกแบบมาสำหรับสายพันธุ์หวู่ฮั่นดั้งเดิมและให้การป้องกันเพียงเล็กน้อยต่อสายพันธุ์ใหม่ สีไม่สามารถทำตัวให้ขาวสะอาดได้ เพราะเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนต่ออาชีพการงานของเขา วาระที่สองของเขาในการดำรงตำแหน่งจะสิ้นสุดลงในฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 และเขาต้องการที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมัยที่สามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในที่สุดก็ทำให้เขาเป็นผู้ปกครองตลอดชีวิต เขาได้วางแผนบงการอย่างรอบคอบในกระบวนการที่จะช่วยให้เขาบรรลุความทะเยอทะยานในชีวิตของเขา และทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้เป้าหมายนี้" โซรอส กล่าว
โซรอสบอกว่า การล็อกดาวน์มีผลร้ายตามมา เพราะผลักดันเศรษฐกิจจีนให้ดิ่งเหว โดยเริ่มต้นในเดือนมีนาคม และจะเกิดโมเมนตัมผลักดันทิศทางนี้ต่อไปจนกว่าสีจิ้นผิงจะเปลี่ยนแนวทาง "ซึ่งเขาจะไม่มีวันทำเพราะเขายอมรับความผิดพลาดไม่ได้ เมื่ออยู่เหนือวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ความเสียหายจะยิ่งใหญ่จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ด้วยการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกอาจกลายเป็นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก"
"สีจิ้นผิงมีศัตรูมากมาย ไม่มีใครกล้าโจมตีเขาโดยตรงเพราะเขาได้รวมเครื่องมือในการสอดแนมและการปราบปรามไว้ในมือของเขาเอง แต่เป็นที่ทราบกันดีว่ามีความขัดแย้งภายในพรรคคอมมิวนิสต์ มันรุนแรงคมจนพบสำนวนในบทความที่ (ได้รับการเผยแพร่) จนคนธรรมดาทั่วไปอ่านได้" โซรอส กล่าว
"ตรงกันข้ามกับความคาดหวังทั่วไป สีจิ้นผิงอาจไม่ได้รับตำแหน่งวาระที่สาม เนื่องจากความผิดพลาดที่เขาทำ แต่ถึงแม้เขาจะได้วาระที่สาม แต่กรมการเมือง (Politburo หน่วยงานบริหารสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน) ก็อาจไม่ให้อิสระแก่เขาในการเลือกสมาชิกของกรมการเมืองชุดต่อไป นั่นจะลดอำนาจและอิทธิพลของเขาลงอย่างมากและทำให้มีโอกาสน้อยลงที่เขาจะเป็นผู้ปกครองตลอดชีวิต" โซรอส กล่าว
โซรอสยังกล่าวการผงาดของจีนด้วยว่า หลังจากเหตุการณ์ 9/11ในปี 2001 เริ่มมีกระแสหันหลังให้กับระบอบการเมืองแบบเสรีที่เขาเรียกว่า "สังคมเปิด" พร้อมชี้ว่าระบอบเผด็จการกำลังรุ่งและสังคมเปิดอยู่ภายใต้การปิดล้อม "วันนี้จีนและรัสเซียนำถือเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อสังคมเปิด"
เขาชี้ว่า การผงาดขึ้นมาของระบอบการเมืองอำนาจนิยม หรือที่เขาเรียกว่า "สังคมปิด"ส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์
ตามทฤษฎีแล้ว AI ควรเป็นกลางทางการเมือง สามารถใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดี "แต่ในทางปฏิบัติ ผลลัพธ์นั้นไม่สมมาตร AI เก่งเป็นพิเศษในการผลิตเครื่องมือควบคุมที่ช่วยระบอบกดขี่และเป็นอันตรายต่อสังคมเปิด โควิด-19 ยังช่วยให้เครื่องมือควบคุมถูกต้องตามกฎหมาย เพราะมีประโยชน์จริงๆ ในการจัดการกับไวรัส"
เขาบอกว่าจีนได้เปลี่ยนแพลตฟอร์มเทคโนโลยีให้กลายเป็นพลังระดับประเทศ สหรัฐอเมริกาลังเลใจมากขึ้นเพราะกังวลเรื่องผลกระทบที่มีต่อเสรีภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งทัศนคติที่แตกต่างกันเหล่านี้ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสองระบบการปกครองที่แตกต่างกันซึ่งสหรัฐฯ และจีนเป็นตัวแทน
"ประเทศจีน (ภายใต้การนำ) ของสีจิ้นผิงซึ่งรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการเฝ้าระวังและควบคุมพลเมืองของตนในเชิงรุกมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ควรได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเหล่านี้" โซรอส กล่าว
Photo - REUTERS/Kevin Yao