COP 27: จีน รัสเซีย ยังนิ่ง ขณะที่กว่า 150 ประเทศลงนามลดปล่อยมีเทน

18 พฤศจิกายน 2565

จากการหารือเพื่อแก้ไขวิกฤตสภาพอากาศในงานประชุม COP 27 กว่า 150 ประเทศได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทนระดับโลก ซึ่งหากเทียบกับปีก่อนหน้าที่ข้อตกลงเพิ่งเกิดขึ้น จำนวนประเทศที่เข้าร่วมมีเพิ่มขึ้นถึง 50 ประเทศ

Global Methane Pledge หรือ ข้อปฏิญญาว่าด้วยการลดปล่อยก๊าซมีเทนระดับโลก ริเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกจากการประชุม COP 26 ที่กลาสโกว์ โดยสหรัฐฯและสหภาพยุโรปเป็นหัวหอกสำคัญในการผลักดันข้อตกลงดังกล่าว 

50 ประเทศที่เพิ่งลงนามในปฏิญญานี้ ต่างเสนอยุทธศาสตร์เพื่อลดการปล่อยก๊าซมลพิษ ในขณะที่ทางด้านจีน อินเดีย และรัสเซีย ประเทศตัวท็อปปล่อยก๊าซมีเทนเป็นเบอร์ต้นของโลก ยังไม่ได้ร่วมลงนามในข้อตกลง

ผู้แทนพิเศษด้านสภาพอากาศของจีน Xie Zhenhua ร่วมหารือถึงยุทธศาสตร์การปล่อยก๊าซมีเทนของแผ่นดินใหญ่ ตามคำกล่าวอ้างว่าเขาได้รับเชิญจาก John Kerry ทูตพิเศษสหรัฐฯ ทั้งยังเป็น "เพื่อนที่แสนดี" ของเขา  แต่ถึงอย่างนั้น จีนก็ไม่ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงระดับโลก โดยอ้างว่าการร่วมแบ่งปันข้อมูลในครั้งนี้ จะสามารถหาแนวร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯและสหภาพยุโรปจะเริ่มดำเนินการจัดการในส่วนของน้ำมัน ก๊าซ ภาคการเกษตร และ การจัดการของเสีย ภายใต้ข้อปฏิญญา Global Methane Pledge ซึ่งรวมถึงความพยายามจับมือกับ กองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมของสหประชาชาติ (U.N.’s International Fund for Agricultural Development) เพื่อช่วยเกษตรกรลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากการปศุสัตว์ ทั้งในประเทศโคลอมเบีย คอสตาริกา เคนยา ปากีสถาน รวันดา แทนซาเนีย ยูกันดา อุรุกวัย และเวียดนาม

 

อีกโครงการหนึ่งคือการมอบทุน 70 ล้านดอลลาร์เพื่อใช้สำหรับการวิจัยกระบวนการหมักในระบบย่อยอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้อง (enteric fermentation) ที่ก่อให้เกิดก๊าซมีเทนจากการเรอหรือผายลม มีศักยภาพทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้มากว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

สหรัฐฯและสหภาพยุโรปยังมีการติดตามการปล่อยก๊าซมีเทนด้วยดาวเทียมผ่าน ‘Carbon Mapper’ ที่จะประเมินการปล่อยก๊าซมีเทนบริเวณหลุมฝังกลบขยะ ซึ่งปริมาณการปล่อยมีเทนในส่วนนี้มีสัดส่วนราว 20% ของการปล่อยมีเทนทั่วทั้งโลก

การลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 30% ในทศวรรษนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามในการควบคุมอุณหภูมิโลกร้อนไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ทั้งนักวิทยาศาสตร์ยังระบุว่าเราต้องควบคุมอุณหภูมิไว้ในระดับดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤต Climate Change หรือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจเลวร้ายถึงขีดสุด

 

Thailand Web Stat