World Economic Forum คาด 2023 เศรษฐกิจโลกยังถดถอย
การประชุม World Economic Forum 2023 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เริ่มขึ้นแล้ว ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว แต่เงินเฟ้อกลับพุ่งสูง อันเป็นสัญญานของสภาวะเศรษฐกิจผิดปกติ
WEF ได้ทำการสำรวจจากนักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากหน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารเพื่อการลงทุน บริษัทข้ามชาติ และกลุ่มประกันภัยต่อ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ทั้งจากภาครัฐและเอกชน 2 ใน 3 คาดการณ์ว่าในปีนี้เศรษฐกิจโลกจะถดถอย โดย Saadia Zahidi กรรมการผู้จัดการ WEF กล่าวว่า "ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงในปัจจุบัน การเติบโตที่ต่ำ ภาระหนี้สินที่ยังมีมาก และสภาพแวดล้อมที่มีการกระจายตัวสูง ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้แรงจูงใจในการลงทุนที่จำเป็นลดต่ำลง”
ขณะที่สัปดาห์ก่อน ธนาคารโลกได้หั่นคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปี 2023 ลง จนใกล้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย อันเป็นผลสืบเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น การลงทุนที่ซบเซา และสงครามที่ยืดเยื้อในรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งอาจทำให้เราเข้าใกล้กับ “Stagflation” หรือสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อกลับพุ่งสูงคือ อันเป็นสัญญาณของสภาวะเศรษฐกิจที่ผิดปกติ
สำหรับอัตราเงินเฟ้อในปี 2023 การสำรวจของ WEF พบว่าในระดับภูมิภาคมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยสัดส่วนอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในจีนอยู่ที่เพียง 5% ขณะที่ยุโรปอยู่ที่ 57% ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มองว่าในยุโรปและสหรัฐอเมริกานโยบายการเงินจะเข้มงวดมากขึ้น (59% และ 55% ตามลำดับ)
ยิ่งไปกว่านั้นการสำรวจความเห็นโดย PricewaterhouseCoopers (PwC ) บรรดาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO จากบริษัทต่างๆราว 73% มองว่า ในปี 2023 เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว ซึ่งนับตั้งแต่ PwC เริ่มทำการสำรวจในปี 2011 นี่ถือเป็นมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Yuvraj Narayan รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท DP World บริษัทโลจิสติกส์ระดับโลกในดูไบ กล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่าอุปสงค์ลดลงเป็นอย่างมาก สินค้าค้างสต็อกเต็มไปหมด มีการกำหนดข้อบังคับที่มากเกินไป เศรษฐกิจโลกไม่ได้ไหลเวียนอย่างเสรีแบบที่เคยเป็นจนกว่าจะหาทางออกที่เหมาะสมได้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะยิ่งแย่เข้าไปอีก”