ท้องถิ่นในแคนาดาเปลี่ยนนโยบาย LGBT ในโรงเรียนเพิ่มบทบาทของผู้ปกครอง

นโยบายเดิมซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2020 ระบุว่าครูต้องเคารพชื่อและสรรพนามที่เด็กทุกคนเลือก โดยไม่คำนึงถึงอายุและควรขึ้นอยู่กับนักเรียนว่าจะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบหรือไม่

เมื่อวันพฤหัสบดี บิล โฮแกน รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการประจำจังหวัดได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองในการเปลี่ยนชื่อและสรรพนามที่โรงเรียน

การเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้จะยกเลิกสิทธิที่นักเรียนที่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ "สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศ" นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดใหม่ให้ห้องน้ำที่ไม่ระบุเพศเป็นส่วนตัว

เบลน ฮิกส์ นายกรัฐมนตรีหัวอนุรักษ์นิยมหัวก้าวหน้าแห่งนิวบรันสวิกกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้"ตระหนักถึงบทบาทของผู้ปกครอง" แต่เขากลับถูกต่อต้านทันทีจากภายในพรรคของเขาเอง เมื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติ 8 คน ซึ่งรวมถึงสมาชิกคณะรัฐมนตรี 6 คน คว่ำบาตรใยรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดี

ในแถลงการณ์ร่วม สมาชิกสภานิติบัญญัติทั้ง 8 คนกล่าวว่าพวกเขาแสดงความ "ผิดหวังอย่างมากต่อการขาดกระบวนการและความโปร่งใส"

หากฝ่ายนิติบัญญัติเหล่านั้นสนับสนุนเขาฮิกส์กล่าวว่าเป็นไปได้ว่าอาจมีการเลือกตั้งก่อนกำหนด

นายกรัฐมนตรี Justin Trudeau ซึ่งเข้าร่วมงาน LGBTQ+ ในโตรอนโตเมื่อวันพฤหัสบดี ได้กล่าวต่อต้านการเคลื่อนไหวดังกล่าว

“ตอนนี้เด็กข้ามเพศในนิวบรันสวิกกำลังถูกบอกว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์เป็นตัวตนที่แท้จริง ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องขออนุญาต” เขากล่าว "เด็กทรานส์ต้องรู้สึกปลอดภัย ไม่ใช่ตกเป็นเป้าของนักการเมือง"

การถกเถียงที่นิวบรันสวิกสะท้อนถึงความขัดแย้งที่คล้ายคลึงกันซึ่งจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งกลายเป็นประเด็นขัดแย้งทางวัฒนธรรมระหว่างสองพรรคหลักที่มุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2567

รัฐอินเดียน่าออกกฎหมายที่กำหนดให้ครูต้องบอกผู้ปกครองเมื่อนักเรียนขอให้เรียกชื่อใหม่หรือสรรพนามอื่นรัฐนอร์ทดาโคตาได้อนุมัติกฎหมายที่อนุญาตให้ครูในโรงเรียนรัฐบาลและพนักงานของรัฐแฏิเสธต่อคำขอใช้คำสรรพนามที่บุคคลข้ามเพศต้องการ