เคนยาออกกฎหมายต่อต้าน LGBT ไม่หวั่นตะวันตกคว่ำบาตร

โมฮาเหม็ด อาลี สมาชิกรัฐสภาของเคนยา ไม่เชื่อว่ากลุ่มคนรักร่วมเพศในแอฟริกามีอยู่จริง เขาให้ความเห็นว่ารักร่วมเพศเป็นสิ่งที่ชาวตะวันตกประดิษฐ์ขึ้น ขณะที่ชาวแอฟริกันแสร้งว่าพวกเขาเป็นกลุ่มรักร่วมเพศเพื่อขอวีซ่าไปยังประเทศตะวันตกหรือขอเงินจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน 

แม้อาลีจะป่วยอยู่ในห้องไอซียู แต่เขายังมุ่งมั่นออกกฎหมายปราบปรามกลุ่ม LGBTและร้องขอให้รัฐสภาอนุมัติต่อคำร้อง

“LGBTQ ต้องหมดไปจากเคนย่า ต้องไล่คนกลุ่มนี้ออกไปให้หมด” อาลี กล่าว

ความเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันนี้กำลังเกิดขึ้นในแทนซาเนียและซูดานใต้เช่นกัน ด้วยการขับเคลื่อนกฎหมายต่อต้าน LGBT ทั่วแอฟริกาตะวันออก ขณะที่นักการเมืองบางรายให้ความเห็นว่าเป็นการต่อสู้เพื่อรักษาคุณค่าและอำนาจอธิปไตยของชาวแอฟริกันจากการถูกกดดันและบีบคั้นจากชาติตะวันตก

ภายใต้กฎหมายที่เคนยาเสนอ การมีความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างเพศเดียวกัน ต้องได้รับโทษจำคุกอย่างน้อย 10 ปี กรณีรักร่วมเพศที่เป็นเหตุฉกรรจ์ (aggravated homosexuality) ซึ่งรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันที่เกิดกับผู้เยาว์หรือผู้พิการ หรือเป็นผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง มีโทษประหารชีวิต

นอกจากนี้ โฆษกของรัฐสภา John Agany กล่าวกับรอยเตอร์ว่า กฎหมายต่อต้านกลุ่ม LGBT ที่มีรูปแบบเนื้อหาคล้ายกับกฎหมายของยูกันดากำลังอยู่ในระหว่างการร่างและจะมีการลงมติในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน Jacqueline Ngonyani สมาชิกสภานิติบัญญัติของแทนซาเนียกล่าวว่าเธอวางแผนที่จะเสนอญัตติส่วนตัวในรัฐสภาช่วงปลายปีนี้ เพื่อปราบปรามกิจกรรมของกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน ซึ่งเป็นความพยายามเพื่อควบคุมความเสื่อมโทรมทางศีลธรรม โดยเธอให้ความเห็นว่า พฤติกรรมรักเพศเดียวกันเปรียบเสมือนยาเสพติดในกลุ่มเยาวชน

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ทางวอชิงตันต่อต้านกฎหมายใดๆก็ตาม ที่จำกัดสิทธิมนุษยชน และรัฐบาลควรดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจว่าบุคคลทุกคนสามารถมีเสรีภาพขั้นพื้นฐานได้

ทั้งนี้ Peter Kaluma ผู้เขียนร่างกฎหมายเคนยา กล่าวว่า การผลักดันร่างนี้ที่มีความคล้ายคลึงกันกับยูกันดา ก็เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั่วทั้งแอฟริกาต้องมีกฎหมายนี้ และหากประเทศตะวันตกต้องการคว่ำบาตรยูกันดา ก็ให้คว่ำบาตรทั้งแอฟริกาไปเลยเสียดีกว่า