สหรัฐฯ เตรียมส่งเครื่องบินรบและเรือรบไปยังตะวันออกกลางเพิ่ม

เมื่อเดือนพฤษภาคม ทำเนียบขาวได้ประกาศว่าฝ่ายบริหารของไบเดนจะทำการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ แต่ในขณะนั้นไม่ได้บอกว่าจะมีมาตรการอะไรบ้าง

“เพนตากอนกำลังเพิ่มแสนยานุภาพและความสามารถของเราในการตรวจสอบ (ช่องแคบฮอร์มุซ) และน่านน้ำโดยรอบ” ซาบรีนา ซิงห์ โฆษกหญิงของเพนตากอนกล่าวกับผู้สื่อข่าว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะวางกำลังเครื่องบินไอพ่นเพิ่มเติมไว้ที่ใดและจะอยู่ในภูมิภาคนี้นานเท่าใด

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่าได้แทรกแซงเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันเชิงพาณิชย์ 2 ลำในอ่าวโอมาน

ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา มีการโจมตีหลายครั้งต่อการเดินเรือในน่านน้ำที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ในช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน

ประมาณหนึ่งในห้าของน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันของโลกผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างอิหร่านและโอมาน

ตอนที่ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 ยุติลง ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกย่ำแย่ลงกว่าเดิมมาก ทำให้วอชิงตันและพันธมิตรมองหาหนทางที่จะลดความตึงเครียด และหาทางฟื้นฟูการเจรจาข้อตกลงจำกัดอาวุธนิวเคลียร์

ตามการประมาณการของสหรัฐฯ  หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 และประธานาธิบดีโจ ไบเดนไม่สามารถรื้อฟื้นข้อตกลงดังกล่าวได้ อิหร่านสามารถสร้างวัสดุฟิสไซล์สำหรับระเบิดหนึ่งลูกได้ภายใน 12 วันหรือมากกว่านั้น ซึ่งลดลงจากเวลาหนึ่งปี ในช่วงที่ข้อตกลงนิวเคลียร์มีผลบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม อิหร่านปฏิเสธการแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งตะวันตกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลและผู้ส่งออกน้ำมันอื่นๆในอ่าวอาหรับ