แคนาดาเตรียมลดอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิล แก้ Climate Change
แคนาดาเผยกรอบการทำงานเพื่อขจัดการอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้แคนาดากลายเป็นประเทศแรกใน G20 ที่ดำเนินการตามคำมั่นที่เคยให้ไว้ในปี 2009
นักวิเคราะห์นโยบายด้านสภาพอากาศให้ความเห็นว่า กรอบการทำงานนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การดำเนินงานก้าวต่อไปได้ แต่ยังไม่ครอบคลุมความต้องการโดยยังคงอนุญาตให้ภาครัฐสนับสนุนโครงการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่วางแผนว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยเทคโนโลยีเช่น การดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS)
แคนาดา ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก คาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการลดคาร์บอนในอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันในปีที่แล้วทางการแคนาดาเพิ่งประกาศเครดิตภาษีการลงทุนในเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage: CCS)
กรอบการทำงานนี้จะใช้กับมาตรการทางภาษีที่มีอยู่และมาตรการที่ไม่เกี่ยวข้องกับด้านภาษี 129 รายการ แต่ทางการแคนาดาจะยังไม่ยุติข้อตกลงสำหรับเงินอุดหนุนที่ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว
Steven Guilbeault รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางกล่าวในการแถลงข่าวว่า
"นี่เป็นการรับรองว่า การสนับสนุนน้ำมันและก๊าซจากรัฐบาลกลางเพียงอย่างเดียว จะนำไปสู่โครงการที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ”
ทั้งนี้ หากเชื้อเพลิงฟอสซิลเข้าค่าย 1 ใน 6 ประเภทนี้ จะได้รับการยกเว้น ได้แก่
1.ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมีนัยสำคัญ
2.สนับสนุนในพลังงานสะอาด
3.จัดหาพลังงานที่จำเป็นแก่ชุมชนห่างไกล
4.สนับสนุนในการตอบโจทย์ในสถานการณ์ฉุกเฉินในระยะสั้น
5.สนับสนุนการมีส่วนร่วมของชนพื้นเมืองในกิจกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล
6.เป็นโครงการที่มีแผนน่าเชื่อถือในการบรรลุ Net-Zero ให้ได้ภายในปี 2030
การยกเลิกเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงปี 2022 ที่ลงนามระหว่างระหว่างนายกรัฐมนตรี Justin Trudeau ของพรรคลิเบอรัลและพรรคประชาธิปไตยเพื่อสังคมใหม่ (New Democratic Party: NDP)
อย่างไรก็ตาม Laurel Collins นักวิจารณ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้ความเห็นว่า แนวทางของ NDP นั้น ยังไม่เพียงพอและวิกฤตด้านสภาพอากาศนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในความเสี่ยง