ผู้ผลิตชิปส่งสัญญาณภาวะอุปทานล้นแต่การฟื้นตัวของอุปสงค์ช้ากว่าที่คาด

ตลาดหลักทั้งหมดสำหรับชิป - สมาร์ทโฟน พีซี และดาต้าเซ็นเตอร์ - ยังคงหดตัวลงในปีนี้ เนื่องจากทั้งลูกค้าองค์กรและผู้บริโภคลดการใช้จ่ายท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ เงินเฟ้อสูง และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น

 

สิ่งนี้ได้ส่งผลให้ ชิป เกิดภาวะล้นตลาดอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เกิดผลขาดทุนจากการดำเนินงานในครึ่งปีแรกรวมกัน 15.2 ล้านล้านวอน (12 พันล้านดอลลาร์) สำหรับผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก 2 ราย คือ Samsung และ SK Hynix 

 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากนักวิเคราะห์เทคโนโลยี Canalys เปิดเผยว่า ปริมาณชิปที่มากเกินไปนี้ยังไม่ได้ลดลงอย่างขัดเจน แม้มีการลดการผลิต และการจัดส่งพีซีที่ขยายตัวลดลงเหลือเพียง 11% ในไตรมาสเดือนมิถุนายน เทียบกับที่ลดลง 30% ในแต่ละไตรมาสของสองไตรมาสก่อนหน้า 

ตลาดสมาร์ทโฟนก็ดีขึ้นเช่นกัน โดยยอดจัดส่งโทรศัพท์มือถือที่มีอัตราลดลงเหลือเพียง 8% ในไตรมาสเดือนมิถุนายน เทียบกับ 14% ในไตรมาสแรก ตามรายงานของบริษัทวิจัย Counterpoint

 

“อุปสงค์กำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป” Woohyun Kim ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ SK Hynix กล่าวในการเรียกรายได้ในสัปดาห์นี้

 

"การเปลี่ยนแปลงล่าสุดในการจัดส่งพีซีส่วนใหญ่เกิดในรุ่นที่จัดโปรโมชันและรุ่นระดับล่าง ซึ่งหมายความว่ามีผลกระทบจำกัดต่อการฟื้นตัวของความต้องการชิป" เขากล่าว พร้อมเสริมว่าการคาดการณ์การจัดส่งสำหรับพีซีและสมาร์ทโฟนในปีนี้ได้ปรับลดระดับลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

 

ในขณะที่ความต้องการชิปเพื่อสนับสนุน generative AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ ChatGPT ของ OpenAI เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว ภาคส่วนนี้ยังคงมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของความต้องการชิปโดยรวม และกำลังกดดันการใช้จ่ายขององค์กรในเซิร์ฟเวอร์ เนื่องจากบางบริษัทให้ความสำคัญกับการลงทุนใน AI
 

Pat Gelsinger CEO ของ Intel กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าสินค้าคงคลังที่มากเกินไปในหน่วยประมวลผลกลางของเซิร์ฟเวอร์ (CPU) จะยังคงมีอยู่จนถึงช่วงครึ่งหลังของปีและยอดขายชิปศูนย์ข้อมูลจะลดลงเล็กน้อยในไตรมาสที่สามก่อนที่จะฟื้นตัวในไตรมาสที่สี่

 

การฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าในจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้ภาพรวมโดยรวมตกต่ำลงเช่นกัน

 

ทั้ง Samsung และ SK Hynix กล่าวว่าการกลับมาเปิดใหม่ของจีนไม่สามารถเติมเต็มความคาดหวังที่จะฟื้นตลาดสมาร์ทโฟนได้ และพวกเขากำลังขยายการลดการผลิตชิปหน่วยความจำ NAND ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในสมาร์ทโฟนเพื่อเก็บข้อมูลดิจิทัล

 

ผู้ผลิตชิปอะนาล็อก Texas Instruments ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากจีน คาดการณ์รายรับและกำไรในไตรมาสที่สามต่ำกว่าเป้าหมายของวอลล์สตรีทในวันอังคาร โดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ในตลาดปลายทางที่ฟื้นตัวอย่างซบเซาซึ่งทำให้ลูกค้าต้องยกเลิกคำสั่งซื้อ

 

Logan Purk นักวิเคราะห์จากบริษัทการลงทุน Edward Jones กล่าวว่า "จีนมียอดขายประมาณครึ่งหนึ่ง ณสิ้นปีงบประมาณ 2565 ดังนั้นจีนจึงมีผลกระทบต่อธุรกิจของ TI มากที่สุด"

 

ผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ทำชิปเช่น KLA Corp และ Lam Research เป็นผู้นำในช่วงต้นของการบูมในธุรกิจ AI ทั้งสองบริษัทคาดการณ์รายรับรายไตรมาสเหนือประมาณการของวอลล์สตรีทในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้หุ้นของพวกเขาสูงขึ้น

 

"เซิร์ฟเวอร์ AI ขั้นสูงมีลอจิก หน่วยความจำ และการเก็บเนื้อหาระดับที่สูงกว่าเซิร์ฟเวอร์แบบดั้งเดิมอย่างมากและทุกๆ การขยายตัวที่เพิ่มขึ้น 1% ของเซิร์ฟเวอร์ AI และศูนย์ข้อมูลคาดว่าจะขับเคลื่อนการลงทุนเพิ่มเติม(อุปกรณ์ชิป) มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์" Tim Archer CEO ของ Lam กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์กับนักวิเคราะห์

 

ผู้ผลิตชิปกำลังเพิ่มการผลิตชิประดับไฮเอนด์ที่ใช้เพื่อรองรับชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI

 

SK Hynix กล่าวว่าความต้องการหน่วยความจำของเซิร์ฟเวอร์ AI เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในไตรมาสที่สองเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก ชิป DRAM ซึ่งเก็บข้อมูลจากแอปพลิเคชันในขณะที่ระบบใช้งานอยู่ โดยเฉลี่ยแล้วขายได้ในราคาที่สูงขึ้นในไตรมาสที่สองเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก

 

บริษัทเป็นผู้นำตลาดในด้าน DRAM หน่วยความจำแบนด์วิธสูง (HBM) ที่ใช้ใน generative AI  มีส่วนแบ่งการตลาด 50% ใน HBM ในปี 2022 ตามด้วย Samsung 40% และ Micron 10% ตาม TrendForce