การเสื่อมสลายของระบบภูมิคุ้มกัน อันตรายซ่อนเร้นในอวกาศ
โครงการอวกาศมากมายพร้อมส่งมนุษย์ขึ้นไปบุกเบิกการใช้ชีวิตในอวกาศ ทำให้เราต่างรู้สึกว่าความฝันในการใช้ชีวิตนอกโลกอาจไม่ไกลเกินเอื้อม แต่อาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปเมื่อล่าสุดมีการค้นพบว่า การใช้ชีวิตในอวกาศสร้างความเสียหายให้ระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง
การใช้ชีวิตบนอวกาศ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของโครงการอวกาศจำนวนมาก ภายหลังการค้นพบน้ำจากดวงจันทร์และดาวอังคาร นำไปสู่แผนงานการสำรวจอย่างกว้างขวางเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านั้น เพื่อจุดหมายในการก่อตั้งอาณานิคมต่างดาวในอนาคต
ด้วยเหตุนั้นการส่งมนุษย์ขึ้นไปใช้ชีวิตบนอวกาศจึงเป็นเรื่องทวีความสำคัญ นำไปสู่โครงการและภารกิจมากมายที่สนับสนุนการใช้ชีวิตนอกโลก กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าแผนงานทั้งหลายอยู่ในขั้นทดสอบเตรียมความพร้อม ยังต้องผ่านการศึกษาวิจัยและตรวจสอบข้อมูลอีกหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัยต่อชีวิตและสุขภาพของนักบินอวกาศ
แต่ผลการศึกษาล่าสุดอาจทำให้ต้องระวังตัวมากขึ้น เมื่อการเดินทางในอวกาศอาจทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
ผลกระทบทางสุขภาพในการใช้ชีวิตบนอวกาศ
ผลการศึกษานี้เกิดจากการเก็บรวบรวมข้อมูลสุขภาพของ นักบินอวกาศที่ไปใช้ชีวิตอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ(ISS) โดยทำการตรวจสอบและศึกษาผลกระทบจากการใช้ชีวิตอยู่ในอวกาศเป็นเวลานาน นำไปสู่การค้นพบผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของนักบินอวกาศในระดับคาดไม่ถึง
การศึกษานี้เริ่มต้นจากนักชีววิทยาระดับโมเลกุลจาก University of Ottawa ได้ทำการเก็บตัวอย่างเลือดจากบรรดานักบินอวกาศที่ไปทำงานบนสถานีอวกาศนานาชาติ 14 คน โดยทำการเก็บตัวอย่างเลือดตั้งแต่ก่อนขึ้นบิน ระหว่างอยู่บนสถานีอวกาศ ไปจนกลับมาอยู่บนพื้นโลกอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติและค้นหาความผิดปกติ
หลังการตรวจสอบดังกล่าวพวกเขาจึงพบว่า เมื่อผ่านการใช้ชีวิตบนสถานีอวกาศนานาชาติ หรือการอาศัยอยู่ในอวกาศเป็นระยะเวลานาน ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ เซลล์เม็ดเลือดจะได้รับผลกระทบในทางตรง โดยเซลล์เม็ดเลือดแดงจะมีปริมาณลดลงราว 10% ในขณะที่เม็ดเลือดขาวจะตกลงไปกว่า 1 ใน 3 หรือ 33% เลยทีเดียว
ผลกระทบในส่วนนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม ตั้งแต่ความแตกต่างของโลกและอวกาศ ไปจนสภาวะไร้น้ำหนักที่ต้องใช้ชีวิต ส่งผลกระทบทางสรีระวิทยา ทั้งในด้านกล้ามเนื้อ, กระดูก, ระบบไหลเวียนโลหิต, ระบบทางเดินหายใจ, อัตราการเผาผลาญพลังงาน ไปจนต่อมไร้ท่อ
อย่างไรก็ตามจากการศึกษาพบว่าการลดลงของเซลล์เม็ดเลือดนั้นเกิดขึ้นในอวกาศ โดยจะเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ 2 – 3 วันแรกนับจากไปถึงและคงที่ตลอดการทำภารกิจ แต่เมื่อกลับมายังโลกได้รับการพักฟื้นตามสมควร ร่างกายและเซลล์ภูมิคุ้มกันก็จะกลับมาทำงานตามปกติภายใน 1 เดือน
จริงอยู่อาจสามารถทำการรักษาหรือแก้ไขได้ไม่ยาก แต่ก็จำเป็นต้องศึกษาทำความเข้าใจและหาทางรับมือเช่นกัน
ต้นตอผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายภายในห้วงอวกาศ
ปัจจุบันเรายังไม่สามารถสรุปสาเหตุในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้แน่ชัด ด้วยความไม่เข้าใจกลไกการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย อีกทั้งยังมีตัวแปรอื่นที่อาจเข้ามาคาบเกี่ยวและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักบินอวกาศเช่นกัน จำเป็นต้องได้รับการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมอีกมาก
แต่ข้อสันนิฐานที่เกิดขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลในปัจจุบันคาดว่า ความเปลี่ยนแปลงที่ลดจำนวนเซลล์เม็ดเลือดในร่างกายเกิดขึ้นจากความพยายามในการปรับตัวของร่างกาย จากความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในอวกาศแตกต่างจากโลก จึงคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ 2 กรณี
อย่างแรกคือสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงในอวกาศส่งผลต่อระบบหมุนเวียนโลหิต เมื่อปราศจากแรงโน้มถ่วงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในหลอดเลือดและระบบน้ำเหลือง ส่งผลให้เลือดกระจายไปในแขนขาส่วนล่างมากยิ่งขึ้น ความเปลี่ยนแปลงส่วนนี้ส่งผลต่อการขับปัสสาวะ ทำให้ปริมาณเลือดโดยรวมลดลง 10 – 15% ตั้งแต่วันแรกที่อยู่ในอวกาศ
การกระจายและลดลงของปริมาณเลือดนี้เอง อาจเป็นส่วนที่ส่งผลกระทบต่อความเข้มข้นของเซลล์เม็ดเลือดแดงภายในร่างกาย จากข้อมูลตลอดระยะเวลา 6 เดือนในอวกาศส่งผลต่อปริมาณฮีโมโกลบินภายในเลือดโดยตรง และอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ต้องทำให้ร่างกายกลับมาปกติ นำไปสู่ผลกระทบต่อเม็ดเลือดขาวต่อไป
อีกหนึ่งความเป็นไปได้คือ รังสีต่างๆ ในอวกาศ เราทราบดีว่าในอวกาศมีรังสีคอสมิก รวมถึงรังสีชนิดอื่นมากมายที่อาจเป็นอันตรายหรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุที่มองไม่เห็นซึ่งส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และอาจส่งผลกระทบด้านอื่นต่อสุขภาพในอนาคตต่อไป
การค้นพบครั้งใหม่เพื่อนำไปสู่ก้าวต่อไป
อาจยังไม่สามารถหาข้อสรุปหรือสาเหตุแน่ชัด แต่เราแน่ใจได้ว่าการใช้ชีวิตในอวกาศส่งผลกระทบต่อภูมิคุ้มกัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไปจนโรคติดต่อชนิดต่างๆ ซึ่งอาจบั่นทอนความสามารถในการใช้ชีวิตและทำงานของนักบินอวกาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภารกิจการสำรวจอวกาศที่เข้าถึงบริการทางการแพทย์ ยา และการดูแลรักษาต่างๆ ได้ยาก
นอกจากนี้การตกลงของภูมิคุ้มกันยังอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่จากสภาวะไร้น้ำหนักในอวกาศ มีความเป็นไปได้สูงว่า การแพร่กระจายเชื้อโรคหรือไวรัสชนิดต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เพราะของเหลวหรือสารคัดหลั่งในร่างกายสามารถเกิดการฟุ้งกระจายได้ ซึ่งจะไปซ้ำเติมปัญหาจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้หากต้องการให้นักบินอวกาศดำเนินภารกิจหรือใช้ชีวิตบนอวกาศเป็นระยะเวลานาน เราจำเป็นต้องหามาตรการรับมือการเสื่อมสภาพของระบบภูมิคุ้มกันอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะภารกิจที่ใช้ระยะเวลานาน เพราะนอกจากจะเป็นอันตรายต่อนักบินอวกาศและภารกิจแล้ว ในอนาคตยังอาจทำให้เชื้อโรคเกิดการกลายพันธุ์ในรูปแบบที่คาดไม่ถึงอีกด้วย
นี่จึงเป็นเหตุผลให้ก่อนดำเนินภารกิจให้นักบินอวกาศไปใช้ชีวิตบนอวกาศเราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ได้เสียก่อน
เห็นได้ชัดจากการศึกษาข้อมูลว่า ร่างกายของมนุษย์เรายังไม่พร้อมสำหรับเดินทางหรือใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมนอกโลก ต่อให้เราสามารถคิดค้นแนวทางรับมือการลดลงของเม็ดเลือดขาวได้สำเร็จ ก็ยังมีอีกหลายก้าวที่เราจำเป็นต้องศึกษาค้นคว้าเพื่อจะบรรลุความฝันในการใช้ชีวิตในอวกาศต่อไป
ที่มา
https://interestingengineering.com/health/research-shows-astronauts-immune-systems-falter-in-space
https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fimmu.2023.1171103/full