ยอดผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง จากสายพันธุ์ย่อย Eris

องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดประเภท EG.5 ซึ่งบางคนให้ฉายาว่า "Eris" เป็น "สายพันธุ์ที่น่าสนใจ" ซึ่งบ่งชี้ว่าควรเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดมากกว่าตัวอื่นๆ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่อาจทำให้แพร่เชื้อได้มากขึ้น หรือรุนแรงขึ้น

อย่างไรก็ตาม WHO กล่าวในเวลานี้ ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชนมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และ "ไม่มีหลักฐานของการเพิ่มความรุนแรงของโรคที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ EG.5"

การแพร่กระจายของ 'ERIS' เร็วแค่ไหน?

EG.5 ถูกพบในกว่า 50 ประเทศ ณ วันที่ 8 สิงหาคม อ้างอิงจากองค์การอนามัยโลก CDC เป็นเชื้อ COVID-19 ชนิดย่อยที่พบได้บ่อยที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะพบในผู้ป่วยโควิดประมาณ 17% ในปัจจุบัน

ตามข้อมูลของ CDC อัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% จากระดับต่ำสุดล่าสุดในเดือนมิถุนายน แต่ยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดในช่วงการระบาดของ Omicron ในเดือนมกราคม 2565 มากกว่า 90% 

ปริมาณไวรัสที่ระบุในน้ำเสียทั่วประเทศและจำนวนใบสั่งยารายสัปดาห์สำหรับการรักษาโควิด Paxlovid เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำก็ตาม

ต้องใช้วัคซีนตัวใหม่หรือไม่?

Pfizer /BioNTech SE , Moderna และ Novavax ได้ผลิตวัคซีนเวอร์ชันใหม่ที่ได้รับการอัปเดตเพื่อใช้รับมือกับสายพันธุ์ย่อย Omicron - XBB.1.5 - ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น คล้ายกับไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ

EG.5 คล้ายกับ XBB.1.5 แม้ว่าสายพันธุ์ย่อยที่ใหม่กว่าจะมีการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นหนึ่งครั้งกับสไปค์โปรตีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไวรัสที่เป็นเป้าหมายของวัคซีน

XBB.1.5 เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2022 และยังคงเป็นสาเหตุของการติดไวรัสมากกว่า 10% ณ วันที่ 5 สิงหาคม ตามการประมาณการของ CDC ดร. แมนดี โคเฮน ผู้อำนวยการ CDC กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่าเธอคาดว่าวัคซีนใหม่จะวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาภายในสัปดาห์ที่สามหรือสี่ของเดือนกันยายน

โคเฮนไม่ได้กล่าวถึงสายพันธุ์ Eris โดยเฉพาะ แต่กล่าวว่า "ตอนนี้สิ่งที่เราเห็นจากการเปลี่ยนแปลงของไวรัส พวกมันยังคงอ่อนแอต่อวัคซีนของเรา พวกมันยังคงอ่อนแอต่อยาของเรา พวกมันยังคงถูกหยิบขึ้นมา จากการทดสอบ ดังนั้นเครื่องมือทั้งหมดของเราจึงยังคงทำงานได้ผลตามการเปลี่ยนแปลงของไวรัส"