ลิเบียอ่วม! พายุแดเนียลถล่มหนัก ยอดเสียชีวิตจากน้ำท่วมทะลุหลักพัน

แพทย์อาวุโสในเมืองเดอร์นากล่าวว่า จากเหตุพายุแดเนียลที่พัดถล่มจนทำก่อให้เกิดฝนตกหนัก-น้ำท่วมครั้งใหญ่ในลิเบียทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 2,000 ราย ขณะที่สื่อท้องถิ่นประเมินว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจมีมากกว่า 5,000 ราย

ในเมืองเดอร์นา ที่มีประชากรราว 125,000 คน อาคารบ้านเรือน รวมถึงยานพาหนะต่างถูกกระแสน้ำพัดพาจนเสียหาย รวมถึงยังต้องเผชิญกับเศษหินและโคลนที่มาตามกระแสน้ำ 

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า สถานการณ์ในเมืองเดอร์นา ร่างของประชาชนที่เสียชีวิตล้วนกระจัดกระจายอยู่ทั่วเมือง ขณะที่ Hichem Abu Chkiouat รัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือน ระบุว่า เมืองหายไปราว 25% จากอาคารหลายแห่งที่พังทลายลง

อย่างไรก็ตาม เมืองอื่นๆทางฝั่งตะวันออก รวมถึงเมืองเบงกาซีที่ใหญ่เป็นอันดับสองของลิเบีย ก็ได้รับผลกระทบจากพายุเช่นกัน โดย Tamer Ramadan หัวหน้าคณะผู้แทนสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะมหาศาล

“จากแหล่งข่าวของเรา เรายืนยันได้ว่าจนถึงขณะนี้มีผู้สูญหายถึง 10,000 คนแล้ว” Tamer Ramadan กล่าว

Mostafa Salem วัย 39 ปี หนึ่งในประชาชนที่อาศัยในเมืองเดอร์นา บอกกับ Reuters ว่า เขาสูญเสียญาติพี่น้องไปถึง 30 คน เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกลางดึก และทุกคนก็กำลังนอนหลับ ไม่มีใครทันตั้งตัว นอกจากนี้ ยังมีผู้รอดชีวิตเล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ช่วงเที่ยงคืน เขาได้ยินเสียงดังคล้ายกับระเบิด ซึ่งมารู้ในภายหลังว่าเป็นเสียงเขื่อนแตก

ในงานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว นักอุทกวิทยา Abdelwanees A. R. Ashoor จากมหาวิทยาลัย Omar Al-Mukhtar ของลิเบีย กล่าวว่า เหตุน้ำท่วมซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ปี 1942 นับเป็นภัยคุกคามต่อเมืองเดอร์นา และผู้มีส่วนรับผิดชอบควรบำรุงรักษาเขื่อนอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากเกิดน้ำท่วมใหญ่ ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณลุ่มน้ำ

ทั้งนี้ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดบ่อยขึ้นและทวีความรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่าเป็นผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change ที่มีต้นเหตุจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก