ครบรอบ 25 ปี Google ย้อนไทม์ไลน์กว่าจะกลายเป็นเว็บ Search Engine เบอร์ 1
เป็นเวลามากกว่า 25 ปี ที่นักศึกษา 2 คนจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดปิ๊งไอเดียการสร้างเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต และจัดอันดับหน้าเว็บเหล่านั้น แล้วใครจะรู้ว่าแค่ไอเดียที่เกิดขึ้นในหอพักมหาวิทยาลัยจะเดินทางมาไกลจนกลายเป็นเว็บค้นหาอันดับ 1 ของโลก “Google”
จุดกำเนิดของเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ตหรือ Search Engine เจ้าใหญ่ของโลกอย่าง “Google” เริ่มมาจากเด็กหนุ่มจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเพียง 2 คน คือ Larry Page และ Sergey Brin ที่ต้องทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก โดยทั้งคู่ได้ช่วยกันระดมความคิดในหอพักมหาวิทยาลัย ก่อนจะตั้งชื่อเครื่องมือค้นหาว่า “ BackRub” ในตอนแรก และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Google ในภายหลัง
ที่มาของชื่อ Google มาจากคำว่า "googol" ซึ่งหมายถึงจำนวนทางคณิตศาสตร์ที่หมายถึงเลข 1 แล้วตามด้วยเลข 0 อีกหนึ่งร้อยตัว หรือ 10100 เพื่อเป็นการแสดงถึงเป้าหมายของบริษัทที่จะจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาล ขณะที่อีกกระแสหนึ่งชี้ว่าชื่อ Google มาจากความผิดพลาดในการจดโดเมนเนมในช่วงเริ่มแรกของการก่อตั้ง
ย้อนไทม์ไลน์ Google กว่าจะมาไกลจนเป็น Search Engine เบอร์ 1
1995-1996
Page และ Brin พบกันที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และคิดค้นเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ตโดยตั้งขื่อว่า “BackRub”
1998
ทั้งคู่เปลี่ยนชื่อเครื่องมือค้นหาจาก “BackRub” เป็น “Google” และได้รับทุนสนับสนุน 100,000 ดอลลาร์จาก Andy Bechtolsheim ผู้ร่วมก่อตั้ง Sun Microsystems
1999
Google เปิดตัวแถลงข่าวครั้งแรก โดยเผยว่าได้ทุน 25 ล้านดอลลาร์จาก Sequoia Capital และ Kleiner Perkins ทั้งยังเปิดตัวคำว่า "Googler" อย่างเป็นทางการ
มิ.ย. 2000
Google กลายเป็นผู้ให้บริการเครื่องมือค้นหากับเว็บไซต์ Yahoo ซึ่งเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนั้น
ต.ค. 2000
เปิดตัว AdWords ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ที่จะกลายมาเป็นแกนหลักในธุรกิจของ Google
2001
Eric Schmidt ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Google และประธานคณะกรรมการบริหาร
เม.ย. 2004
Google ประกาศว่ากำลังทดสอบระบบเปิดตัว Gmail โดยจะมีความจุสูงสุดอยู่ที่ 1GB
ส.ค. 2004
Google เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยมีราคาเปิดที่ 85 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ก.พ. 2005
เปิดตัว Google Maps สำหรับการใช้งานบนเว็บไซต์
ส.ค. 2005
เข้าซื้อกิจการบริษัท Startup ที่ชื่อว่า “Android”, เปิดตัว Google Talk
2006
เข้าซื้อกิจการ YouTube ด้วยมูลค่า 1.65 พันล้านดอลลาร์
เม.ย. 2007
เข้าซื้อกิจการ DoubleClick บริษัทโฆษณาออนไลน์เจ้าใหญ่ของโลก ด้วยมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์
พ.ค. 2007
เปิดตัวการค้นหาแบบ Universal Search ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงผลการค้นหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปภาพ วิดีโอ และข่าว ได้พร้อมกันในคราวเดียว
ก.ย. 2008
เปิดตัวโทรศัพท์ Android เครื่องแรก T-Mobile G1 หรือ HTC Dream, เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ Google Chrome
ม.ค. 2010
เปิดตัวสมาร์ทโฟน Nexus One ที่พัฒนาร่วมกับ HTC
มี.ค. 2010
Google ถูกแบนในประเทศจีน
ต.ค. 2010
ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับคันแรกกับ Toyota Prius ในแคลิฟอร์เนีย
มิ.ย. 2011
เปิดตัว Google+ ก่อนจะปิดตัวลงในปี 2018
ส.ค. 2011
เข้าซื้อกิจการ Motorola Mobility ซึ่งรวมถึงธุรกิจกล่องรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือและทีวีของ Motorola ด้วยมูลค่า 12.5 พันล้านดอลลาร์
2012
เปิดตัว Google Glass
2013
เข้าซื้อกิจการ Waze สตาร์ทอัพด้านการทำแผนที่ของอิสราเอล ด้วยมูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์
2014
ในเดือนมกราคม Google ประกาศว่าจะเข้าซื้อกิจการบริษัท DeepMind
2015
ประกาศแผนสร้างบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ชื่อ Alphabet ซึ่งจะรวม Google และหน่วยงานอื่น ๆ อย่าง YouTube และธุรกิจด้านการวิจัยไว้ ขณะที่ Sundar Picha ถูกแต่งตั้งเป็น ประธานบริหาร (CEO) ของ Google
ต.ค. 2016
เปิดตัวสมาร์ทโฟน Pixel รุ่นแรก
พ.ย. 2016
เปิดตัว Google Home
มิ.ย.2017
คณะกรรมาธิการยุโรปสั่งปรับ Google 2.42 พันล้านยูโร ฐานจัดอันดับการค้นหาข้อมูลไม่เป็นธรรม
ก.พ. 2018
Google รายงานยอดขายว่าสามารถทำได้มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปีเป็นครั้งแรก
ก.ค. 2018
คณะกรรมาธิการยุโรปสั่งปรับ Google 4.34 พันล้านยูโร ฐานละเมิดข้อกำหนดห้ามผูกขาดทางการค้าผ่าน Android
มี.ค. 2019
คณะกรรมาธิการยุโรปสั่งปรับ Google 1.49 พันล้านยูโร ฐานพยายามลดการแข่งขันในตลาดโฆษณาออนไลน์ ด้วยการผลักดันโฆษณาจากแพลตฟอร์ม AdSense ของตน
มิ.ย. 2019
ระกาศซื้อกิจการ Looker สตาร์ทอัพด้านการวิเคราะห์ด้วยมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์
พ.ย. 2019
ประกาศซื้อกิจการ Fitbit ด้วยมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์
ธ.ค. 2019
Page และ Brin ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่ง และให้ Pichai ขึ้นเป็น CEO ของ Alphabet
2020
Alphabet มีมูลค่าตามราคาตลาดถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์
ม.ค. 2023
ปลดพนักงาน 12,000 คน หรือ 6% ของพนักงานทั้งหมด
ก.พ. 2023
เปิดตัว Bard ซึ่งเป็นแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างไรก็ตาม ได้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นในการทดสอบจนทำให้มูลค่าตามราคาตลาดของบริษัทหายไปถึง 1 แสนล้านดอลลาร์
มี.ค. 2023
เริ่มให้ผู้ใช้งานบางส่วนได้ทดลองใช้ Bard เป็นครั้งแรก