ฮ่องกงตั้งเป้าฟื้นภาพลักษณ์ศูนย์กลางทางการเงิน หลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

การประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เกิดขึ้นในฮ่องกงปี 2019 ส่งผลให้ทางการจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ โดยระบุว่า การแบ่งแยกดินแดนหรือการแทรกแซงจากต่างประเทศ นับเป็นความผิดอาญา และหลังจากนั้นไม่นานจีนได้ประกาศล็อกดาวน์ประเทศกว่า 3 ปี จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนอพยพออกจากฮ่องกง และทำให้เศรษฐกิจถดถอย

นักการทูตและกลุ่มผู้บริหารธุรกิจให้รายละเอียดว่า สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯ รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนนั้น ส่งผลเสียต่อบทบาทของฮ่องกงในฐานะประตูเชื่อมระหว่างชาติตะวันตกและแผ่นดินใหญ่ 

Inaki Amate ประธานหอการค้ายุโรปในฮ่องกงกล่าวว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของฮ่องกงถือว่าติดลบไปมาก หากเราจะกอบกู้สถานะของฮ่องให้เป็นเมืองที่มีความเป็นนานาชาติมากที่สุดในเอเชีย เราต้องมีความหลากหลาย

การรวมตัวกันที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ M+ ในฮ่องกง ถือเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชาติตะวันตกและชาติที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ  ซึ่งผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคในแถบเอเชียและจีนแผ่นดินใหญ่

Tara Joseph อดีตประธานหอการค้าอเมริกัน ให้ความเห็นว่า สำหรับคนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในฮ่องกง พวกเขายังคงมีทัศนคติเชิงลบอยู่ พวกเขาเห็นภาพลักษณ์ที่รุนแรงจากการประท้วงในปี 2019

ขณะที่ทางฝั่งนักการทูตให้ความเห็นที่คล้ายกันว่า การใช้ชีวิตในฮ่องกงนั้นเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเป็นชาวต่างชาติ ที่นี่มีความปลอดภัย ธรรมชาติก็สวย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพลักษณ์ของฮ่องกงยังเป็นไปในเชิงลบอยู่มาก 

กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่ทางการจีนบังคับใช้ ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับหลักความเป็นอิสระของศาล และทำให้ภาคธุรกิจบางส่วนเริ่มย้ายแหล่งลงทุนไปยังสิงคโปร์และดูไบ

Patrick Ip กรรมการผู้จัดการกองทุนความร่วมมือการลงทุนจีน-อาเซียน กล่าวว่า “ฮ่องกงถือเป็นเครื่องวัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน เมื่อเศรษฐกิจจีนถดถอย ตลาดทุนและความเชื่อมั่นในการลงทุนจึงได้รับผลกระทบต่อกันเป็นทอดๆ”  

ส่วนในภาคการท่องเที่ยวของฮ่องกงที่ค่อยๆกลับมาฟื้นฟู นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากแผ่นดินใหญ่ มากกว่านักท่องเที่ยวจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดย David Baverez นักลงทุนและผู้เขียนหนังสือ "China & Europe: The Turning Point" ระบุว่า ฮ่องกงแบบเดิมจะไม่หวนกลับคืนมา เมืองนี้จะปรับตัวและเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ด้วยเม็ดเงินจากฝั่งตะวันออกกลางและแผ่นดินใหญ่ แทนที่จะเป็นเงินจากฝั่งตะวันตกเหมือนที่เคยเป็นมา