Gemini สุดยอด Ai จาก Google ที่ทรงพลังกว่า GPT-4
การมาถึงของ ChatGPT ถือเป็นการพลิกโฉมโลกทั้งใบ เปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีให้เข้าสู่ยุคสมัยแห่ง Ai หรือปัญญาประดิษฐ์เต็มรูปแบบส่งผลกระทบต่อเนื่องจนปัจจุบัน แต่ล่าสุดแรงสะเทือนอาจกลับมาอีกครั้งเมื่อ Google เปิดตัว Gemini ปัญญาประดิษฐ์ที่ประสิทธิภาพสูงกว่า GPT-4
เราทราบกันดีว่านับจากการเปิดตัวของ ChatGPT แห่ง OpenAI โมเดลภาษาที่ประมวลผลผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ โลกก็ถูกผลักดันเข้าสู่ยุคสมัยแห่ง Ai นับจากนั้นเป็นต้นมาเทคโนโลยีนี้ก็ได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง และเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราอย่างรวดเร็ว
ความสำเร็จของ GPT-4 จาก OpenAI ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น Microsoft ทำให้บริษัทไอทีน้อยใหญ่ทยอยกระโดดเข้าร่วมสมรภูมินี้ตามกัน ตั้งแต่ Bard จาก Google, Erine จาก Baidu, Meta AI จาก Meta, Tako จาก Tiktok รวมถึงบริษัทขนาดกลางและเล็กอีกมากมาย ด้วยจุดหมายในการยกระดับขีดความสามารถ Ai
ล่าสุดเริ่มมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมาเขย่าบัลลังก์ของ GPT-4 กับ Ai Gemini จาก Google
Gemini Ai ใหม่พร้อมศักยภาพสุดล้ำ
หลายท่านอาจรู้จักและได้ใช้งาน Ai จากฝั่ง Google อย่าง Bard มาไม่มากก็น้อย แต่ล่าสุดบริษัทในเครืออย่าง Deepmind ก็ได้มีการเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์อย่าง Gemini โมเดลภาษารุ่นใหม่ที่ได้รับยกระดับขีดความสามารถ และมีศักยภาพสูงยิ่งกว่าโมเดลภาษาที่มีการเปิดใช้งานล่าสุดอย่าง GPT-4
Gemini ได้รับการพัฒนาขึ้นจากฐานข้อมูลขนาดยักษ์นำไปสู่ปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถสูงสุดเท่าที่เคยมี ตัวโมเดลสามารถทำความเข้าใจอินพุตหรือข้อมูลที่ได้รับการป้อนหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ข้อความ, โค้ด, ภาพ, เสียง, วีดีโอ และสามารถรันบนอุปกรณ์ได้ทุกชนิดตั้งแต่ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ไปจนสมาร์ทโฟน
จุดเด่นสำคัญของโมเดลปัญญาประดิษฐ์นี้คือขีดความสามารถเหนือชั้น จากผลการทดสอบ MMLU ที่ผสมผสานความรู้เชิงวิชาการไปจนความเข้าใจทั่วไปกว่า 57 สาขาพบว่า Gemini ได้รับคะแนนสูงถึง 90% ในขณะที่ GPT-4 โมเดลล่าสุดของ OpenAI ทำคะแนนได้ที่ 86.4%
นอกจากคะแนนในบททดสอบ MMLU แล้ว ขีดความสามารถของ Gemini ยังเหนือกว่า GPT-4 ในแทบทุกด้าน ตั้งแต่ในด้านคณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด ไปจนการทำความเข้าใจข้อมูลชนิดต่างๆ ทั้งภาพ เสียง ไปจนวีดีโอ ล้วนมีขีดความสามารถในการทำความเข้าใจสูงกว่า GPT-4 ทั้งสิ้น
ด้วยศักยภาพนี้เองจะช่วยให้ Gemini ล้ำหน้าจนสามารถเข้าถึงและทำความเข้าใจข้อมูลที่ได้รับทุกรูปแบบมาประมวลผลและคิดหาคำตอบในการให้เหตุผลต่างๆ ได้อย่างมีเหตุผล ครอบคลุม และแม่นยำ จนสามารถหาคำตอบได้อย่างซับซ้อนและมีเหตุผลมากขึ้นต่อไป
ขีดความสามารถในการใช้งาน Gemini ในปัจจุบัน
ข้อมูลข้างต้นคือผลที่ได้รับจากการทดสอบเชิงสถิติเป็นหลัก อาจทำให้ท่านผู้อ่านบางส่วนรู้สึกไม่เห็นภาพจนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ดังนั้นในส่วนนี้เราจะมาลงรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับขีดความสามารถของ Gemini ที่ได้รับการเปิดเผยออกมาในปัจจุบัน
จากคุณสมบัติในการทำความเข้าใจและประมวลผลข้อมูลเชิงวิชาการอันยอดเยี่ยม สิ่งนี้ช่วยให้ Gemini สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารข้อมูลเชิงวิชาการนับหมื่นฉบับมาประมวลผล แล้วสรุปข้อมูลเป็นหัวข้อตามที่กำหนดได้อย่างแม่นยำในเวลาชั่วโมงเดียว โดยสามารถสรุปรายละเอียดและแนบข้อมูลที่ใช้ในการอ้างอิงโดยอัตโนมัติไว้ครบถ้วน
แน่นอนว่าไม่ได้จำกัดการประมวลข้อมูลเพียงตัวอักษรแต่สามารถใช้กับข้อมูลชนิดอื่นได้เช่นกัน เช่น ในกรณีตัวอย่างพวกเขาทำการป้อนภาพกราฟสรุปข้อมูลระหว่างปี 2007 – 2019 จากนั้นเมื่อทำการใส่ชุดคำสั่งตามที่กำหนด Ai สามารถทำการค้นหาข้อมูลแล้วนำมาต่อเติมให้สามารถเป็นกราฟที่ระบุข้อมูลในปีปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว
อันดันต่อมาคือความรู้ความเข้าใจในเชิงวิชาการ Gemini สามารถทำความเข้าใจโจทย์ปัญหาในรูปแบบตัวอักษรได้แม่นยำ โดยที่ต้องทำมีเพียงการถ่ายรูปโจทย์ปัญหาแล้วป้อนเข้าสู่ระบบ Ai จะทำการประมวลผลหาคำตอบ อีกทั้งยังสามารถแสดงวิธีทำและตรวจคำตอบ ในกรณีตอบผิด Ai ยังสามารถชี้แจงและอธิบายแก่เราได้ด้วยว่าให้คำตอบผิดไปในจุดไหน
อีกหนึ่งขีดความสามารถที่ได้รับการสาธิตคือ การเขียนโค้ด Gemini รองรับการเขียนโค้ดทั้งในภาษา C++, Java, Python และ GO โดยตัว Ai สามารถประเมินข้อผิดพลาดของโค้ดที่ทำการป้อนเข้าไปได้กว่า 75% อีกทั้งหากอนุญาตให้ตัว Ai ช่วยทำการแก้ไขโค้ด จะสามารถช่วยแก้ปัญหาขัดข้องของโปรแกรมได้กว่า 90% เลยทีเดียว
แน่นอนทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของขีดความสามารถของโมเดล Gemini ที่กำลังจะถูกนำไปใช้งาน ในส่วนการเปิดใช้งานจะเริ่มต้นจากการเปลี่ยนระบบ Bard ให้มาประมวลผลผ่านระบบนี้แทน โดยสามารถใช้งานในการถอดความ, สรุป, ทำความเข้าใจ, ให้เหตุผล ไปจนจัดตารางวางแผนต่างๆ ซึ่งจะช่วยยกระดับให้ Bard เป็น Ai ใช้งานฟรีที่ดีที่สุดในโลก
ในส่วนการใช้งาน Gemini จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่ Gemini Nano ที่จะได้รับการบรรจุไว้ในสมาร์ท์โฟน Pixel 8 Pro ที่ชูจุดเด่นในด้านการติดตั้ง Ai ที่สามารถสั่งใช้งานและประมวลผลฟังก์ชั่นของ Ai ต่างๆ ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกต่อไป
ระดับต่อมาคือ Gemini Pro ที่มีศักยภาพเหนือกว่า GPT-3.5 ของทาง OpenAI ซึ่งจะได้รับการเปิดให้ใช้งานฟรี โดยทุกคนจะสามารถทดลองใช้งานได้ในอนาคตอันใกล้ และขั้น Gemini Ultra ที่มีศักยภาพสูงสุดจนสามารถเอาชนะ GPT-4 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการผ่าน Bard Advance ที่จะมีการเก็บค่าบริการตามที่กำหนด
และคาดว่า Gemini จะเปิดให้บริการพร้อมใช้งานในแพลตฟอร์มทุกรูปแบบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
จริงอยู่ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลที่ได้รับจากการทดสอบเป็นหลัก จำเป็นต้องตรวจสอบผลลัพธ์เพิ่มเติมในระหว่างการใช้งานจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมาถึงของ Gemini จะขยายความเป็นไปได้ในการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะเมื่อ Ai ตัวนี้เปิดให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงขอเพียงมีไอดี Google
ที่เหลือคงต้องรอดูกันต่อไปว่าการมาถึงของระบบ Ai นี้จะช่วยผลักดันมนุษยชาติไปทิศทางใด